xs
xsm
sm
md
lg

เปิดชีวิต “ม็อบมือถือ” แดนมังกร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เมื่อประตูห้องพักสุดหรู ในอพาร์ทเมนต์ กรีน เวิลด์ ค่อยๆแง้มออก ในที่สุดเราก็ได้พบกับ ลู่ กวนเฟิง ชายวัยกลางคนอายุราว 43 ปี แม้จะเป็นยามบ่ายคล้อย ทว่าลู่เพิ่งตื่นจากนิทราเพียง 2-3 ชั่วโมง

“ผมคิดว่าเราต้องปกป้องสิทธิตามกฎหมายของเรา ด้วยวิถีทางที่เหมาะสม” ลู่กล่าวพร้อมกับคีบบุหรี่ยี่ห้อดาวิดอฟ ขึ้นมาอัดควันเข้าปอด

ลู่ กวนเฟิงเป็นหนึ่งในผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านโครงการสร้างเส้นทางรถไฟแมกเลฟ (Maglev) เชื่อมหังโจว เมืองเอกของมณฑลเจ้อเจียง กับเซี่ยงไฮ้ ลู่แต่งกายด้วยชุดลำลองสบายๆ กลัดเข็มกลัดพิมพ์ข้อความ “No Maglev” เขาอ้างว่าตนเป็นผู้จัดการรณรงค์ต่อต้านแมกเลฟ

เช่นเดียวกับนกน้อยในรังในอพาร์ทเมนต์ กรีน เวิลด์รายอื่นๆ ลู่เป็นหนึ่งในชนชั้นกลาง ที่มีรายได้อยู่ในขั้นเหลือกินเหลือใช้ โดยลู่ประกอบอาชีพเป็นที่ปรึกษาด้านสุขภาพผิวออนไลน์ เพียง 2-3 ชั่วโมงต่อวัน

ชาวกรีนเวิลด์ออกมาต่อต้านการสร้างแมกเลฟอย่างแข็งขัน เนื่องจากเขาตระหนักว่า เส้นทางรถไฟสายดังกล่าว จะกระทบต่อวิถีชีวิตของพวกเขามหาศาล

ในการรณรงค์พวกเขาใช้กลยุทธ์ประท้วงผ่านสื่อออนไลน์ และออกมาเดินขบวนประท้วงอย่างง่ายๆ ไม่เน้นหวือหวา เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกับเจ้าหน้าที่รัฐ ขบวนการประท้วงใช้ข้ออ้างเรื่องผลกระทบจากกัมมันตภาพรังสี เนื่องจากแมกเลฟ ซึ่งเป็นรถไฟพลังแม่เหล็กความเร็วสูง จำต้องมีการสร้างรางห่างจากย่านที่อยู่อาศัยตามมาตรฐาน ทว่าทางการจีนยืนยันจะสร้างรางรถไฟโดยมีระยะห่างจากย่านที่อยู่อาศัยต่ำกว่ามาตรฐาน ฉะนั้นปัญหาเรื่องผลกระทบต่อสุขภาพ จึงถูกนำมาใช้เป็นข้ออ้าง ในการสร้างความชอบธรรม สำหรับการประท้วง

ทว่าแท้จริงแล้ว การประท้วงครั้งนี้ยังมีปัจจัยเรื่องเงิน และผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยว

“ฉันทุ่มทั้งเงิน ทั้งชีวิตลงไปกับการซื้อห้องพักที่นี่ ถ้าแมกเลฟมาวิ่งผ่านหน้าบ้านฉัน แล้วฉันจะเหลืออะไร” จู ซิ่วหลัน ซึ่งพักอยู่ที่ ผิงเหยียน กรีน การเดนส์ กล่าว

ทั้งนี้หากมีการก่อสร้างเส้นทางรถไฟแมกเลฟจากเซี่ยงไฮ้สู่หังโจว ราคาที่อยู่อาศัยในเซี่ยงไฮ้จะลดลงจากราคาก่อนหน้าที่แพง ชนิดชาวเซี่ยงไฮ้ยังบอกว่า “ซื้ออพาร์ทเมนต์ – คอนโดหรูๆแถบสุขุมวิทยังถูกกว่าเยอะ”

เท่ากับว่าเงินเก็บค่อนชีวิต ที่ลงทุนไปกับที่อยู่อาศัยของชาวเซี่ยงไฮ้ กำลังจะถูกลดมูลค่าลง ด้วยรถไฟแมกเลฟ

พันธมิตรชนชั้นกลางเซี่ยงไฮ้จึงต้องออกมาเล่นการเมือง “ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง”

การรณรงค์ของพวกเขาประสบความสำเร็จ กดดันให้หันเจิ้งผู้ว่าการนครเซี่ยงไฮ้ ถึงกับออกมาประกาศ ที่มหานครปักกิ่ง เมื่อต้นเดือนมี.ค. ถึงการ “แขวนโครงการแมกเลฟ ที่เดิมจะเริ่มก่อสร้างในปีนี้”

นับว่าเป็นชัยชนะสำหรับประชาชนชาวจีน ที่ปกติแล้วต้องเจอกับภาวะหูทวนลมของเจ้าหน้าที่ หรือร้ายกว่านั้นอาจถูกปราบปรามอย่างรุนแรง

การกระโจนสู่ท้องถนนของพันธมิตรชนชั้นกลาง นับเป็นปรากฏารณ์ใหม่ในประเทศจีน ที่ผ่านมาการประท้วงโดยมาก มักริเริ่มจากชนชั้นแรงงานและชาวนา ที่พกหัวใจที่พองโตด้วยความหวัง ออกมาเล่นการเมืองบนท้องถนน หวังว่าจะได้รับการเหลียวแลจากรัฐ

ทว่าฉากสุดท้ายของการประท้วงดังกล่าว มักจบลงด้วย “แก๊สน้ำตา เลือด ความตาย และไม้กระบอง”

อย่างไรก็ตามขบวนพันธมิตรชนชั้นกลาง อาศัยกลยุทธ์ที่ต่างออกไปจาการประท้วงบ้านๆ อาศัยทุนความรู้และความเชี่ยวชาญด้านสื่อ พวกเขาใช้กลยุทธ์การเคลื่อนไหวที่หลากหลาย เพื่อดึงดูดความสนใจของมวลชน

พวกเขาแขวนป้ายผ้าขนาดใหญ่ ห้อยลงมาจากห้องพักที่พวกเขาอาศัยอยู่, นัดพบประชุมแกนนำเพื่อดึงดูดความสนใจของสื่อ กระทั่งสุดท้ายเมื่อเดือนม.ค. พวกเขาตัดสินใจ ชิงจังหวะที่เหมาะสม ลงเดินขบวนบนท้องถนนที่คับคั่งของเซี่ยงไฮ้ กดดันจนรัฐบาลต้องฟังเสียงของพวกเขา

นอกจากการประท้วงของชนชั้นกลางในเซี่ยงไฮ้แล้ว ยังมีหลายกรณีเกิดขึ้นในแผ่นดินมังกร

เมื่อปีที่แล้วข่าวครึกโครมอย่างน้อย 2 กรณี สะท้อนแนวโน้มของพลังชนชั้นกลางได้อย่างชัดเจน

กรณีแรกเกิดขึ้นเมื่อเดือนเม.ย. ที่ฉงชิ่ง บ้านอิฐ 2 ชั้นหลังหนึ่งตั้งตระหง่าน โดดเด่นราวกับอยู่บนเกาะร้าง กลางพื้นที่ซึ่งถูกบริษัทพัฒนาที่ดินเคลียร์ จนราบเตียนหมด กลายเป็นสัญลักษณ์การต่อสู้ของมนุษย์ตัวเล็กๆ ต่อกลุ่มทุนนิยมในจีน

กระทั่งอู๋ ผิง เจ้าของบ้านดังกล่าวได้รับการแซ่ซ้อง ชื่นชม ที่ยืนหยัดต่อสู้กับรัฐบาลและเจ้าของโครงการ

การต่อสู้ทางกฎหมายระหว่างอู๋และคู่กรณีเริ่มต้นขึ้น เมื่อเธอปฎิเสธเงินชดเชยจากบริษัทและไม่ยอมย้ายออกจากบ้าน ขณะที่เพื่อนบ้านกว่า 280 คนตัดสินใจย้ายออก อู๋ไม่ยอมก้มหัวกับไม้แข็งใดๆ ที่ใช้กดดันให้เธอย้ายออก พร้อมทั้งต่อว่ารัฐบาลท้องถิ่นว่าสมคบคิดกับนักพัฒนา

อีกกรณีหนึ่งเกิดขึ้นที่เซี่ยเหมิน ในเดือนมิ.ย. ชาวเซี่ยเหมินกระหน่ำส่งข้อความทางมือถือนับล้านข้อความ เร่งรัฐบาลระดับท้องถิ่นให้หยุดการก่อสร้าง โรงงานผลิตพาราไซลีน (พีเอ็กซ์) ขนาดยักษ์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม โดยนักวิจารณ์กล่าวว่า โรงงานผลิตพีเอ็กซ์ 800,000 ตันต่อปีนี้ ตั้งห่างจากตัวเมืองเซี่ยเหมินเพียง 7 กิโลเมตร และใกล้กับเขตที่พักอาศัยของประชาชนและโรงเรียนมากเกินไป

“สถานการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนว่า สิ่งที่ชนชั้นกลางต้องการไม่ใช่แค่บ้าน, รถ และเงิน... พวกเขาต้องการคุณภาพชีวิตและสุขภาพที่ดีด้วย” โจเซฟ เฉิง จากมหาวิทยาลัยเมืองฮ่องกง (City University of Hong Kong) เผย

“อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ปรารถนา ที่จะเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะใครก็ไม่อยากมีปัญหาทั้งนั้น ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ก็เริ่มตระหนักว่า การใช้กำลังไม่สามารถบรรลุผลสำเร็จได้อีกต่อไป เพราะความรุนแรงย่อมนำไปสู่ความรุนแรงไม่สิ้นสุด”

“การลุกฮือของชนชั้นกลาง กำลังเป็นกระแสท้าทายต่อรัฐบาลจีน” เฉิงกล่าว




แปลและเรียบเรียงจาก

บทความเอเอฟพี "China's middle class becomes growing force"
กำลังโหลดความคิดเห็น