เอ่ยถึง "มะเร็งต่อมลูกหมาก" ร้อยทั้งร้อยคุณผู้ชายทั้งหลายที่ได้ฟังคงเกิดอาการเสียวปนสยอง หากเลือกได้ชาตินี้ขออย่าให้ประสบพบพานป่วยด้วยโรคนี้เลย เพราะนอกจากมะเร็งจะเป็นโรคที่แม้ว่าจะรักษาหายได้ แต่ถ้าเป็นในระยะแพร่กระจายก็เรียกได้ว่าหนักหนาสาหัส แถมมีโอกาสแพร่ไปยังอวัยวะอื่นๆ แล้วนี่มะเร็งที่อวัยวะสำคัญที่แม้ว่าจะมีทางรักษา แต่ภายหลังการรักษา แม้รักษาหาย ก็จะมีผลต่อชีวิตหลังการรักษาไปอีกตลอดชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการควบคุมการขับถ่าย หรือเรื่องสำคัญอย่างการหย่อนหรือหมดสมรรถภาพทางเพศไปเลย
นพ.วิรุณ โทณะวณิก แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านรังสีรักษา ฝังแร่มะเร็งต่อมลูกหมาก เปิดเผยผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากโรงพยาบาลในสหรัฐอเมริกา มายังโรงพยาบาลปิยะเวท ว่าปัจจุบันในประเทศไทย การรักษามะเร็งต่อมลูกหมากที่เป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ มีเพียงการให้ฮอร์โมน ฉายรังสี และการผ่าตัดเท่านั้น ซึ่งจากการฉายรังสี ก็จะทำลายสมรรถภาพทางเพศลงไปประมาณ 50% ส่วนการผ่าตัดนั้นทำลายสมรรถภาพทางเพศไปกว่า 90% หรือเกือบทั้งหมดทำให้คุณภาพชีวิตหลังผ่าตัดไม่ดีเท่าที่ควร
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันในสหรัฐอเมริกา ได้มีวิธีการรักษาแบบใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมมาก ด้วยเพราะมีโอกาสรักษาหายขาด ในมะเร็งต่อมลูกหมากที่เพิ่งเป็นในระยะเริ่มต้น โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องฉายแสง แผลที่ทำการรักษามีขนาดเล็ก ไม่เจ็บตัวมาก และที่สำคัญคือแทบไม่มีผลกระทบต่อสมรรถภาพทางเพศและความสามารถในการกลั้นการขับถ่าย นั่นคือการฝังแร่กัมมันตภาพรังสีเข้าไปในต่อมลูกหมากเพื่อใช้รังสีจากแร่นั้นรักษามะเร็งต่อมลูกหมาก ซึ่งวิธีนี้กำลังเป็นที่นิยมมากในสหรัฐฯ แถมสนนราคาค่าใช้จ่ายในการรักษา จะถูกกว่าวิธีผ่าตัดหรือฉายแสง
นพ.วิรุณให้ข้อมูลต่อไปอีกว่า การรักษาด้วยวิธีดังกล่าว จะเป็นการรักษามะเร็งด้วยกัมมันตภาพรังสีจากแร่ที่จะฝังเข้าไปในต่อมลูกหมาก โดยแร่ที่ใช้กันอยู่จะมีอยู่สองชนิดคือ Iodine -125 และ Iridium – 192 ส่วนเครื่องมือในการฝังแร่ในต่อมลูกหมากโดยหลักแล้วก็คือเส้นแร่ที่จะใช้ฝัง , ปืนยิงแร่หรือที่เรียกว่าปืนมิก (Mick) ,เข็มที่จะสอดเข้าไปในต่อมลูกหมากเพื่อเป็นท่อนำแร่, ตาราง Gird ที่ใช้ในการทาบพิกัดการฝังเข็มเข้าไปในต่อมลูกหมาก และคอมพิวเตอร์ชุดพิเศษที่มีซอฟต์แวร์เพื่อใช้ในการผ่าตัด
“เริ่มด้วยการเตรียมผู้ป่วยด้วยการวางยาสลบ เพราะกรรมวิธีการรักษาแม้จะไม่ทำให้ผู้ป่วยเป็นแผลใหญ่เหมือนการผ่าตัดแต่ก็ยังมีความเจ็บปวดอยู่ แต่สำหรับกรณีที่ผู้ป่วยหัวใจไม่แข็งแรง เราก็ยังสามารถจะเลี่ยงวิธีการวางยาสลบเป็นการวางยาชาเข้าไปในไขสันหลัง”
นพ.วิรุณได้ให้ข้อมูลต่อไปว่า จะนำตารางGrid เพื่อบอกพิกัดการเจาะเข็มทาบลงไปที่บริเวณระหว่างลูกอัณฑะและทวารหนัก อันเป็นจุดของต่อมลูกหมาก ซึ่งตาราง Grid อันนี้จะแสดงผลในจอคอมพิวเตอร์ โดยคอมพิวเตอร์จะแสดงผลเป็นภาพอัลตราซาวนด์ และประมวลผลออกมาว่าควรฝังแร่ตรงไหนบ้าง
จากนั้นจะฝังเข็มยาวลงไปเพื่อเป็นท่อนำแร่ประมาณ 20 – 40 เข็ม ขึ้นอยู่กับขนาดของต่อมลูกหมากและตำแหน่งของแร่รวมถึงรังสีว่าจะแผ่ออกมาอยู่ในพื้นที่แค่ไหน เมื่อฝังเข็มนำแร่เรียบร้อย ก็นำปืน มิกที่บรรจุเมล็ดแร่แมกกาซีนละ 15 เมล็ด ยิงแร่ผ่านเข็มที่ฝังไว้ไปยังจุดที่คอมพิวเตอร์ประมวลผล โดยฝังแบบ one by one 1 จุด ต่อ 1 เมล็ดแร่ เมื่อฝังครบ ก็เป็นอันเสร็จการรักษา
“เมื่อรักษาเสร็จนำเข็มยาวออกจากจุดฝัง คนไข้ก็จะบาดเจ็บเป็นแผลเล็กๆ เท่าที่เข็มฝังลงไป ซึ่งถ้าเป็นที่สหรัฐฯ แพทย์จะอนุญาตให้กลับภายใน 2 -3 ชั่วโมงหลังจากการฝัง แต่ถ้าเป็นที่เมืองไทย โดยธรรมชาติคนไข้ชาวไทยมักจะชอบความสะดวกและอุ่นใจเมื่ออยู่ใกล้หมอ จึงอาจจะให้อยู่ดูอาการสัก 1 คืน จากนั้นจะให้กลับบ้านได้”
“ภายหลังฝังจะไม่มีอาการใดๆ เลย จนให้หลังไปประมาณ 2 สัปดาห์กัมมันตภาพรังสีเริ่มทำงาน ก็จะมีอาการเล็กน้อย คือต่อมลูกหมากบวม มีอาการตีบเล็กน้อยที่ท่อปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะช้าลง และอาจจะปัสสาวะบ่อยขึ้น ส่วนน้อยที่ตีบมากอาจจะต้องใช้สายยางสวนเป็นการชั่วคราว”
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านรังสีรักษารับรองผลการรักษาจากประสบการณ์ที่เคยทำให้คนไข้ชาวอเมริกันมากว่า 1,300 คนว่า สำหรับคนไข้ที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมากระยะเริ่มต้น เมื่อรักษาด้วยวิธีการฝังแร่นี้ รับรองการหายถึง 90-95 % เลยทีเดียว ส่วนมะเร็งระยะกลางที่แพร่ออกไปจากต่อมลูกหมากบ้างเล็กน้อยก็ยังอยู่ในระดับที่พอรักษาได้อยู่ แต่อาจจะต้องใช้วิธีอื่นร่วมด้วยเช่นการให้ฮอร์โมน ผู้ป่วยที่ไม่สามารถรักษาด้วยวิธีใหม่นี้กรณีเดียวคือกรณีที่มะเร็งลามไปที่อื่นแล้วเช่น ลามไปต่อมน้ำเหลือง เป็นต้น
สำหรับค่ารักษาพยาบาลจะตกอยู่ที่ประมาณ 500,000-700,000 บาท อย่างไรก็ตาม นพ.วิรุณกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า แม้ว่าวิธีการรักษาดังกล่าวนี้จะมีผลดีตรงที่สมรรถภาพทางเพศจะไม่สูญเสียไปกับการรักษาเหมือนวิธีการรักษาอื่นๆ ด้วยนั้น แต่ก็ไม่ควรที่ผู้ป่วยที่รับการฝังแร่ไปแล้วจะมีบุตร เนื่องจากกัมมันตภาพรังสีที่ฝังไว้จะมีผลให้เด็กแท้งหรือผิดปกติได้
ส่วนข้อซักถามเกี่ยวกับแร่และการฝังแร่กับมะเร็งอื่นๆ นั้น นพ.วิรุณให้ความกระจ่างว่า แร่ที่นำมาฝังเพื่อรักษามะเร็ง เป็นแร่สังเคราะห์ที่ทำขึ้นโดยเฉพาะ และวิธีการฝังแร่โดยใช้กัมมันตภาพรังสีบำบัดมะเร็งนี้ สามารถใช้ในมะเร็งอื่นๆ ได้ด้วย โดยประสบการณ์ที่คุณหมอเคยทำให้ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งในลำคอ ก็สามารถฝังแร่รักษาได้ หรือในผู้ป่วยสตรีที่เป็นมะเร็งปากมดลูกก็ใช้วิธีนี้ได้เช่นกัน แต่เป็นการฝังโดยแร่คนละชนิดกัน
นพ.วิรุณ โทณะวณิก แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านรังสีรักษา ฝังแร่มะเร็งต่อมลูกหมาก เปิดเผยผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากโรงพยาบาลในสหรัฐอเมริกา มายังโรงพยาบาลปิยะเวท ว่าปัจจุบันในประเทศไทย การรักษามะเร็งต่อมลูกหมากที่เป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ มีเพียงการให้ฮอร์โมน ฉายรังสี และการผ่าตัดเท่านั้น ซึ่งจากการฉายรังสี ก็จะทำลายสมรรถภาพทางเพศลงไปประมาณ 50% ส่วนการผ่าตัดนั้นทำลายสมรรถภาพทางเพศไปกว่า 90% หรือเกือบทั้งหมดทำให้คุณภาพชีวิตหลังผ่าตัดไม่ดีเท่าที่ควร
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันในสหรัฐอเมริกา ได้มีวิธีการรักษาแบบใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมมาก ด้วยเพราะมีโอกาสรักษาหายขาด ในมะเร็งต่อมลูกหมากที่เพิ่งเป็นในระยะเริ่มต้น โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องฉายแสง แผลที่ทำการรักษามีขนาดเล็ก ไม่เจ็บตัวมาก และที่สำคัญคือแทบไม่มีผลกระทบต่อสมรรถภาพทางเพศและความสามารถในการกลั้นการขับถ่าย นั่นคือการฝังแร่กัมมันตภาพรังสีเข้าไปในต่อมลูกหมากเพื่อใช้รังสีจากแร่นั้นรักษามะเร็งต่อมลูกหมาก ซึ่งวิธีนี้กำลังเป็นที่นิยมมากในสหรัฐฯ แถมสนนราคาค่าใช้จ่ายในการรักษา จะถูกกว่าวิธีผ่าตัดหรือฉายแสง
นพ.วิรุณให้ข้อมูลต่อไปอีกว่า การรักษาด้วยวิธีดังกล่าว จะเป็นการรักษามะเร็งด้วยกัมมันตภาพรังสีจากแร่ที่จะฝังเข้าไปในต่อมลูกหมาก โดยแร่ที่ใช้กันอยู่จะมีอยู่สองชนิดคือ Iodine -125 และ Iridium – 192 ส่วนเครื่องมือในการฝังแร่ในต่อมลูกหมากโดยหลักแล้วก็คือเส้นแร่ที่จะใช้ฝัง , ปืนยิงแร่หรือที่เรียกว่าปืนมิก (Mick) ,เข็มที่จะสอดเข้าไปในต่อมลูกหมากเพื่อเป็นท่อนำแร่, ตาราง Gird ที่ใช้ในการทาบพิกัดการฝังเข็มเข้าไปในต่อมลูกหมาก และคอมพิวเตอร์ชุดพิเศษที่มีซอฟต์แวร์เพื่อใช้ในการผ่าตัด
“เริ่มด้วยการเตรียมผู้ป่วยด้วยการวางยาสลบ เพราะกรรมวิธีการรักษาแม้จะไม่ทำให้ผู้ป่วยเป็นแผลใหญ่เหมือนการผ่าตัดแต่ก็ยังมีความเจ็บปวดอยู่ แต่สำหรับกรณีที่ผู้ป่วยหัวใจไม่แข็งแรง เราก็ยังสามารถจะเลี่ยงวิธีการวางยาสลบเป็นการวางยาชาเข้าไปในไขสันหลัง”
นพ.วิรุณได้ให้ข้อมูลต่อไปว่า จะนำตารางGrid เพื่อบอกพิกัดการเจาะเข็มทาบลงไปที่บริเวณระหว่างลูกอัณฑะและทวารหนัก อันเป็นจุดของต่อมลูกหมาก ซึ่งตาราง Grid อันนี้จะแสดงผลในจอคอมพิวเตอร์ โดยคอมพิวเตอร์จะแสดงผลเป็นภาพอัลตราซาวนด์ และประมวลผลออกมาว่าควรฝังแร่ตรงไหนบ้าง
จากนั้นจะฝังเข็มยาวลงไปเพื่อเป็นท่อนำแร่ประมาณ 20 – 40 เข็ม ขึ้นอยู่กับขนาดของต่อมลูกหมากและตำแหน่งของแร่รวมถึงรังสีว่าจะแผ่ออกมาอยู่ในพื้นที่แค่ไหน เมื่อฝังเข็มนำแร่เรียบร้อย ก็นำปืน มิกที่บรรจุเมล็ดแร่แมกกาซีนละ 15 เมล็ด ยิงแร่ผ่านเข็มที่ฝังไว้ไปยังจุดที่คอมพิวเตอร์ประมวลผล โดยฝังแบบ one by one 1 จุด ต่อ 1 เมล็ดแร่ เมื่อฝังครบ ก็เป็นอันเสร็จการรักษา
“เมื่อรักษาเสร็จนำเข็มยาวออกจากจุดฝัง คนไข้ก็จะบาดเจ็บเป็นแผลเล็กๆ เท่าที่เข็มฝังลงไป ซึ่งถ้าเป็นที่สหรัฐฯ แพทย์จะอนุญาตให้กลับภายใน 2 -3 ชั่วโมงหลังจากการฝัง แต่ถ้าเป็นที่เมืองไทย โดยธรรมชาติคนไข้ชาวไทยมักจะชอบความสะดวกและอุ่นใจเมื่ออยู่ใกล้หมอ จึงอาจจะให้อยู่ดูอาการสัก 1 คืน จากนั้นจะให้กลับบ้านได้”
“ภายหลังฝังจะไม่มีอาการใดๆ เลย จนให้หลังไปประมาณ 2 สัปดาห์กัมมันตภาพรังสีเริ่มทำงาน ก็จะมีอาการเล็กน้อย คือต่อมลูกหมากบวม มีอาการตีบเล็กน้อยที่ท่อปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะช้าลง และอาจจะปัสสาวะบ่อยขึ้น ส่วนน้อยที่ตีบมากอาจจะต้องใช้สายยางสวนเป็นการชั่วคราว”
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านรังสีรักษารับรองผลการรักษาจากประสบการณ์ที่เคยทำให้คนไข้ชาวอเมริกันมากว่า 1,300 คนว่า สำหรับคนไข้ที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมากระยะเริ่มต้น เมื่อรักษาด้วยวิธีการฝังแร่นี้ รับรองการหายถึง 90-95 % เลยทีเดียว ส่วนมะเร็งระยะกลางที่แพร่ออกไปจากต่อมลูกหมากบ้างเล็กน้อยก็ยังอยู่ในระดับที่พอรักษาได้อยู่ แต่อาจจะต้องใช้วิธีอื่นร่วมด้วยเช่นการให้ฮอร์โมน ผู้ป่วยที่ไม่สามารถรักษาด้วยวิธีใหม่นี้กรณีเดียวคือกรณีที่มะเร็งลามไปที่อื่นแล้วเช่น ลามไปต่อมน้ำเหลือง เป็นต้น
สำหรับค่ารักษาพยาบาลจะตกอยู่ที่ประมาณ 500,000-700,000 บาท อย่างไรก็ตาม นพ.วิรุณกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า แม้ว่าวิธีการรักษาดังกล่าวนี้จะมีผลดีตรงที่สมรรถภาพทางเพศจะไม่สูญเสียไปกับการรักษาเหมือนวิธีการรักษาอื่นๆ ด้วยนั้น แต่ก็ไม่ควรที่ผู้ป่วยที่รับการฝังแร่ไปแล้วจะมีบุตร เนื่องจากกัมมันตภาพรังสีที่ฝังไว้จะมีผลให้เด็กแท้งหรือผิดปกติได้
ส่วนข้อซักถามเกี่ยวกับแร่และการฝังแร่กับมะเร็งอื่นๆ นั้น นพ.วิรุณให้ความกระจ่างว่า แร่ที่นำมาฝังเพื่อรักษามะเร็ง เป็นแร่สังเคราะห์ที่ทำขึ้นโดยเฉพาะ และวิธีการฝังแร่โดยใช้กัมมันตภาพรังสีบำบัดมะเร็งนี้ สามารถใช้ในมะเร็งอื่นๆ ได้ด้วย โดยประสบการณ์ที่คุณหมอเคยทำให้ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งในลำคอ ก็สามารถฝังแร่รักษาได้ หรือในผู้ป่วยสตรีที่เป็นมะเร็งปากมดลูกก็ใช้วิธีนี้ได้เช่นกัน แต่เป็นการฝังโดยแร่คนละชนิดกัน
