ผู้จัดการออนไลน์ – แหล่งข่าวใกล้ชิดได้เปิดเผยว่า หลังดัชนีตลาดหุ้นจีนยังเดินหน้าตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทางผู้คุมกฎตลาดหุ้นจีนเตรียมงัดมาตรการต่างๆอาทิการเร่งอนุมัติกองทุนใหม่ๆ การเล็งจะให้บริษัทอสังหาฯกลับมาจดทะเบียนในตลาดได้ และการที่กรมภาษีแห่งชาติจีนอาจจะมีการลดอัตราภาษีอากรแสตมป์เพื่อกระตุ้นความเชื่อมั่นและความคึกคักของตลาดหลักทรัพย์
ในช่วงที่ผ่านมาผลกระทบทั้งจากเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจในประเทศได้ฉุดให้ดัชนีตลาดหุ้นแดนมังกรที่เคยคึกคักให้ร่วงลงอย่างต่อเนื่องจนในขณะนี้เริ่มเบียดเส้น 4,000 จุดแล้ว ล่าสุดแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับคณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์จีน (ซีเอสอาร์ซี) คนหนึ่งได้ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้ทางผู้คุมกฎของจีนกำลังเตรียมจะออกมาตรการชุด เพื่อที่จะกระตุ้นตลาด
มาตรการแรกน่าจะเป็นการเร่งอนุมัติกองทุนและบริษัทหลักทรัพย์ใหม่ๆเร็วขึ้น โดยตั้งแต่เดือนก.พ.เป็นต้นมา ได้มีการทยอยอนุมัติกองทุนใหม่ไปหลายราย โดยเฉพาะช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเพียงสัปดาห์เดียวก็มีการอนุมัติไปถึง 9 บริษัท โดยหนังสือพิมพ์ซั่งไห่เจิ้งเจวี้ยนเป้า ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ด้านหลักทรัพย์ของจีนได้อ้างคำอธิบายของนักวิเคราะห์ที่ได้ระบุว่า “นั่นเป็นสัญญาณที่ชี้ให้เห็นถึงนโยบายของทางการ ที่ต้องการจะช่วยให้มีการดึงเงินทุนเข้ามากระตุ้นตลาดอย่างชัดเจน โดยมีเจตนาเพื่อบรรเทาความกังวลของผู้ลงทุนในตลาด”
การที่ผู้คุมกฎจีนเห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว เป็นเพราะความซบเซาของตลาดในระยะสั้นที่เกิดขึ้น ดังนั้นจำเป็นต้องมีการชักนำกองทุนใหม่ๆเข้ามาเป็นตัวนำ เพื่อสร้างความคึกคักและบรรยากาศที่ดีในตลาด โดยทางซีเอสอาร์ซียังจะเร่งปรับปรุงศักยภาพในการตรวจสอบบริษัทที่จะทำไอพีโอ และควบรวมเพื่อให้การตรวจสอบมีประสิทธิภาพและรวดเร็วขึ้นอีกด้วย
จากการประเมินเบื้องต้น กองทุนที่จดทะเบียนเพิ่มในเดือนก.พ. จะมีมูลค่าเฉลี่ยกองทุนละ 8,000 ล้าน – 10,000 ล้านหยวน ดังนั้นคาดว่าจะทำให้มีการระดมทุนเพิ่มราว 80,000 ล้านหยวน ซึ่งทุนเหล่านี้น่าจะเข้าสู่ตลาดได้อย่างเร็วในเดือนมี.ค.
นอกจากมาตรการดังกล่าวแล้ว แหล่งข่าวยังได้ระบุว่า ทางผู้คุมกฎก็กำลังพิจารณาและวางแผนที่จะให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกหยุดการให้ทำไอพีโอก่อนหน้านี้กลับมาเริ่มใหม่ได้อีกครั้ง พร้อมทั้งมีข่าวในวงการว่า ในขณะที่ตลาดหลักทรัพย์กำลังเริ่มลดความคึกคักลง ทางการจีนอาจจะให้มีการปรับลดภาษีอากรแสตมป์เพื่อกระตุ้นตลาดอีกครั้ง โดยเตรียมที่จะลดจาก 0.3% เหลือ 0.2%
ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมภาษีแห่งชาติจีนได้รบุว่า ในปี 2007 รายได้จากภาษีอากรแสตมป์จีนคิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 200,500 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากปี 2006 จำนวน 182,500 ล้านหยวน หรือเพิ่มขึ้น 10.2 เท่าตัว หรือแทบจะเท่ากับจำนวนภาษีอากรแสตมป์ตลอด 16 ปีที่ผ่านมา และตั้งแต่ต้นเดือนก.พ. ที่ผ่านมาก็มีนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้อกมาเรียกร้องให้ทางการจีนลดภาษีอากรแสตมป์ลง
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับผู้คุมกฎได้เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงในซีเอสอาร์ซียังมองตลาดในแง่ดีอยู่มาก เพียงแต่มีความกังวลเรื่องความเชื่อมั่นกับความตื่นตระหนกของผู้ลงทุนเท่านั้น