ไชน่าเดลี่-จีนไฟเขียวบริษัทจัดการกองทุนชุดแรกจำนวน 9 แห่งให้บริการบริหารความมั่งคั่ง ซึ่งก่อนหน้านี้จำกัดให้เฉพาะธนาคารพาณิชย์เท่านั้น ไชน่าเดลี่รายงานวันอังคาร(19 ก.พ.)
บริษัทดังกล่าวได้แก่ ไชน่า เซ้าท์เทิร์น แมเนจเมนท์ คอมปานี,ฮาร์เวสท์ ฟันด์ แมนเนจเมนท์ คอมปานี,ไอซีบีซี สวิส แอสเซท แมเนจเมนท์ คอมปานี,อี ฟันด์ แมเนจเมนท์ คอมปานี,จงไห่ ฟันด์ แมเนจเมนท์ คอมปานี,ไชน่า ยูนิเวิลแซล แอสเซท แมเนจเมนท์ คอมปานี,เผิงหัว ฟันด์ แมเนจเมนท์ คอมปานี,กั๋วไท่ แอสเซท แมเนจเมนท์ คอมปานี และไลอ้อน ฟันด์ แมเนจเมนท์ คอมปานี
ทั้งนี้ ระเบียบฉบับใหม่ของคณะกรรมการกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์จีนระบุ บริษัทจัดการกองทุนสามารถให้บริการบริหารความมั่งคั่งแก่นักลงทุนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2008 โดยบริษัทต้องมีสินทรัพย์สุทธิไม่น้อยกว่า 200 ล้านหยวน และสินทรัพย์การจัดการในไตรมาสล่าสุดไม่น้อยกว่า 20,000 ล้านหยวน จึงจะสามารถให้บริการบริหารความมั่งคั่งได้ และบริษัทที่ได้รับอนุมัติ สามารถให้บริการลูกค้าที่มีเงินลงทุนไม่น้อยกว่า 50 ล้านหยวน
ด้านนักวิเคราะห์คาดว่า นักลงทุนนิติบุคคลจะเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัทจัดการกองทุนเหล่านี้ ขณะที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริการไพรเวทแบงก์กิ้งจะเป็นลูกค้ารายบุคคลมากกว่า
ในส่วนของบริหารความมั่งคั่ง บริษัทจัดการกองทุนสามารถลงทุนในตลาดหุ้น,พันธบัตร,กองทุนหลักทรัพย์,หนืระยะสั้น,หลักทรัพย์ที่มีสินทรัพย์หนุนหลังอยู่,ตราสารอนุพันธ์ทางการเงิน และผลิตภัณฑ์อื่นๆที่ระเบียบระบุ
และบริษัทจัดการกองทุนสามารถเก็บค่าธรรมเนียมในอัตราที่ห้ามเกินกว่า 20% ของผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งเหลียวป๋อจวิน นักวิเคราะห์ของฉางเจียง ซิเคียวริตี้ส์กล่าวว่า ค่าธรรมเนียมสูงจะช่วยเพิ่มแรงจูงใจให้บริษัทจัดการกองทุนเสนอบริการเหล่านี้ ซึ่งคล้ายคลึงกับกองทุนเอกชน เนื่องจากก่อนหน้านี้บริษัทฯบริการให้คำปรึกษาด้านการลงทุนแก่นักลงทุนเท่านั้น
ทั้งนี้ กั๋วไท่ ฟันด์ กล่าวว่าบริษัทเริ่มวางแผนให้บริการบริหารความมั่งคั่งตั้งแต่ปี 2003 แล้ว ซึ่งบริการนี้จะช่วยพัฒนาบริษัทกองทุนผ่านช่องทางการลงทุนที่หลากหลาย ซึ่งที่ผ่านมามีลูกค้าให้ความสนใจในบริการบริหารความมั่งคั่งของบริษัทเป็นจำนวนมาก
เหลียวคาดการณ์ว่า ปัญหาการแข่งขันระหว่างบริษัทจัดการกองทุนและธนาคารพาณิชย์อาจไม่เกิดขึ้น เนื่องจากบริษัทจัดการกองทุนจะลงทุนผลิตภัณฑ์บริหารความมั่งคั่งในตลาดหลักทรัพย์เป็นหลัก ขณะที่ธนาคารมักให้ความสำคัญกับเครื่องมือการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำเช่น พันธบัตร และหุ้นของบริษัทที่ตั้งขึ้นใหม่และออกขายเป็นครั้งแรก.
