เอเอฟพี – เอกสารกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุ ประธานเหมาเจ๋อตงเคยเสนอยกผู้หญิงจีน 10 ล้านคนให้สหรัฐฯ ฟรี ๆ อ้างผู้หญิงล้นประเทศ ระหว่างการเจรจาอันแพรวพราวด้วยชั้นเชิงทางการทูตระหว่างผู้นำจีนกับ เฮนรี่ คิสซิงเจอร์ ยอดนักการทูตมะริกัน เพื่อปูทางไปสู่การฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติมหาอำนาจ
เอกสารความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนช่วงปี 2516-2519 ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันอังคาร ( 12 ก.พ.2551) ได้บันทึกบทสนทนาระหว่างบุคคลทั้งสอง โดยเหมาบอกว่าการอพยพผู้หญิงจีนไปสหรัฐฯ จะทำให้การค้าระหว่างชาติทั้งสองเริ่มต้นขึ้นได้ แต่สหรัฐฯก็จะ “เสียหาย” เพราะจะเกิดปัญหาประชากรล้นประเทศเหมือนที่จีนประสบ
ทั้งสองฝ่ายเปิดฉากคุยกันที่ทำเนียบของเหมาเมื่อวันที่ 17 เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2516 โดยคิสซิงเจอร์กำลังพยายามปูทางฟื้นฟูความสัมพันธ์ หลังจากหนึ่งปีก่อนหน้านั้นประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสันเพิ่งเหยียบย่างแผ่นดินจีน อันนับเป็นเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์
การพูดคุยออกรสชาติจนล่วงเลยเที่ยงคืน เหมา ขณะกำลังเคี้ยวซิก้าร์ ได้พูดถึงการค้าซึ่งไม่แจ่มใสระหว่างกัน โดยกล่าวว่า จีนเป็น”ชาติที่ยากจนมาก” และ”สิ่งที่เรามีมากจนล้นเกินก็คือผู้หญิง” วาทะนั้นเรียกเสียงหัวเราะครืนในที่ประชุม ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีโจวเอินไหล ร่วมวงด้วย
พอคิสซิงเจอร์ ซึ่งเวลานั้นเป็นที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีนิกสัน ตอบผู้นำจีนไปว่า สหรัฐฯ ไม่มี “โควต้า” หรือ”พิกัดอัตราภาษีศุลกากร”สำหรับผู้หญิงจีนหรอกครับท่าน เสียงหัวเราะก็ยิ่งดังลั่น
จากนั้น คิสซิงเจอร์ ได้พยายามชี้ชวนให้เหมาเห็นถึงภัยคุกคามจากสหภาพโซเวียต และปัญหาอื่น ๆ ในโลก แต่เหมากลับวกมาเรื่องผู้หญิงจีนอีกจนได้
“ให้พวกหล่อนไปยังที่ของคุณเถอะ พวกหล่อนจะก่อหายนะ นั่นคือวิธีที่คุณจะแบ่งเบาภาระของเราไปได้” เหมาบอก
“คุณอยากได้ผู้หญิงจีนของเรามั๊ย? เราให้คุณได้สิบล้านคนนะ” ซึ่งคิสซิงเจอร์ตั้งข้อสังเกตว่าเหมากำลังแก้ไขข้อเสนอ
เหมายังพูดต่อไปว่า “ถ้าทำอย่างนั้น เราจึงจะปล่อยให้พวกหล่อนสร้างความฉิบหายขึ้นในชาติคุณได้ ผลประโยชน์พวกคุณก็จะพัง เรามีผู้หญิงอยู่ในชาติเรามากเกินไป พวกหล่อนทำได้สารพัด”
“พวกหล่อนคลอดลูก และลูกหลานของเราก็มีมากมายเกินไปแล้ว”
แต่นักการทูตสุขุมลุ่มลึกอย่างคิงซิงเจอร์ไม่จนแต้ม จึงเลี่ยงไปว่า “ นี่เป็นข้อเสนอใหม่ที่แจ๋วดีครับท่าน เราคงต้องศึกษาดูก่อน”
คนทั้งสองกลับมาพูดเรื่องภัยคุกคามจากสหภาพโซเวียตอีก โดยเหมาหวังว่ามอสโคว์จะเข้าโจมตีจีน และพ่ายแพ้กลับไป ทว่าก็ยังไม่วายคร่ำครวญว่า “ผู้หญิงในประเทศเรามีมากเกินไป จนไม่รู้ว่าจะต่อสู้ยังไง”
หวังไห่ทรงรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน จึงต้องเตือนท่านผู้นำว่า ถ้าการบันทึกถ้อยคำสนทนากันนี้ เผยแพร่ออกไป “มีหวังประชาชนโกรธแง๋ๆ”
คิสซิงเจอร์เห็นด้วยกับเหมาว่า ต้องยกเลิกการบันทึกเรื่องที่คุยกัน แต่พอคิสซิงเจอร์พูดล้อเล่นอีกว่า เขาจะเอาเรื่องนี้ไปพูดเวลาแถลงข่าวครั้งหน้า เหมากลับตอบว่า “ผมไม่กลัวอะไรอีกแล้ว”
“ยังไงก็ตาม พระเจ้าได้ส่งเทียบเชิญผมแล้วละ” ระหว่างการเจรจากันนั้น เหมาไอหนักจนน่ากลัว และเขาถึงแก่อสัญกรรมเมื่อเดือนกันยายน ปี 2519 จากนั้น จีนกับสหรัฐฯ ก็ฟื้นฟูความสัมพันธ์กันในปี 2522
เอกสารความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนช่วงปี 2516-2519 ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันอังคาร ( 12 ก.พ.2551) ได้บันทึกบทสนทนาระหว่างบุคคลทั้งสอง โดยเหมาบอกว่าการอพยพผู้หญิงจีนไปสหรัฐฯ จะทำให้การค้าระหว่างชาติทั้งสองเริ่มต้นขึ้นได้ แต่สหรัฐฯก็จะ “เสียหาย” เพราะจะเกิดปัญหาประชากรล้นประเทศเหมือนที่จีนประสบ
ทั้งสองฝ่ายเปิดฉากคุยกันที่ทำเนียบของเหมาเมื่อวันที่ 17 เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2516 โดยคิสซิงเจอร์กำลังพยายามปูทางฟื้นฟูความสัมพันธ์ หลังจากหนึ่งปีก่อนหน้านั้นประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสันเพิ่งเหยียบย่างแผ่นดินจีน อันนับเป็นเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์
การพูดคุยออกรสชาติจนล่วงเลยเที่ยงคืน เหมา ขณะกำลังเคี้ยวซิก้าร์ ได้พูดถึงการค้าซึ่งไม่แจ่มใสระหว่างกัน โดยกล่าวว่า จีนเป็น”ชาติที่ยากจนมาก” และ”สิ่งที่เรามีมากจนล้นเกินก็คือผู้หญิง” วาทะนั้นเรียกเสียงหัวเราะครืนในที่ประชุม ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีโจวเอินไหล ร่วมวงด้วย
พอคิสซิงเจอร์ ซึ่งเวลานั้นเป็นที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีนิกสัน ตอบผู้นำจีนไปว่า สหรัฐฯ ไม่มี “โควต้า” หรือ”พิกัดอัตราภาษีศุลกากร”สำหรับผู้หญิงจีนหรอกครับท่าน เสียงหัวเราะก็ยิ่งดังลั่น
จากนั้น คิสซิงเจอร์ ได้พยายามชี้ชวนให้เหมาเห็นถึงภัยคุกคามจากสหภาพโซเวียต และปัญหาอื่น ๆ ในโลก แต่เหมากลับวกมาเรื่องผู้หญิงจีนอีกจนได้
“ให้พวกหล่อนไปยังที่ของคุณเถอะ พวกหล่อนจะก่อหายนะ นั่นคือวิธีที่คุณจะแบ่งเบาภาระของเราไปได้” เหมาบอก
“คุณอยากได้ผู้หญิงจีนของเรามั๊ย? เราให้คุณได้สิบล้านคนนะ” ซึ่งคิสซิงเจอร์ตั้งข้อสังเกตว่าเหมากำลังแก้ไขข้อเสนอ
เหมายังพูดต่อไปว่า “ถ้าทำอย่างนั้น เราจึงจะปล่อยให้พวกหล่อนสร้างความฉิบหายขึ้นในชาติคุณได้ ผลประโยชน์พวกคุณก็จะพัง เรามีผู้หญิงอยู่ในชาติเรามากเกินไป พวกหล่อนทำได้สารพัด”
“พวกหล่อนคลอดลูก และลูกหลานของเราก็มีมากมายเกินไปแล้ว”
แต่นักการทูตสุขุมลุ่มลึกอย่างคิงซิงเจอร์ไม่จนแต้ม จึงเลี่ยงไปว่า “ นี่เป็นข้อเสนอใหม่ที่แจ๋วดีครับท่าน เราคงต้องศึกษาดูก่อน”
คนทั้งสองกลับมาพูดเรื่องภัยคุกคามจากสหภาพโซเวียตอีก โดยเหมาหวังว่ามอสโคว์จะเข้าโจมตีจีน และพ่ายแพ้กลับไป ทว่าก็ยังไม่วายคร่ำครวญว่า “ผู้หญิงในประเทศเรามีมากเกินไป จนไม่รู้ว่าจะต่อสู้ยังไง”
หวังไห่ทรงรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน จึงต้องเตือนท่านผู้นำว่า ถ้าการบันทึกถ้อยคำสนทนากันนี้ เผยแพร่ออกไป “มีหวังประชาชนโกรธแง๋ๆ”
คิสซิงเจอร์เห็นด้วยกับเหมาว่า ต้องยกเลิกการบันทึกเรื่องที่คุยกัน แต่พอคิสซิงเจอร์พูดล้อเล่นอีกว่า เขาจะเอาเรื่องนี้ไปพูดเวลาแถลงข่าวครั้งหน้า เหมากลับตอบว่า “ผมไม่กลัวอะไรอีกแล้ว”
“ยังไงก็ตาม พระเจ้าได้ส่งเทียบเชิญผมแล้วละ” ระหว่างการเจรจากันนั้น เหมาไอหนักจนน่ากลัว และเขาถึงแก่อสัญกรรมเมื่อเดือนกันยายน ปี 2519 จากนั้น จีนกับสหรัฐฯ ก็ฟื้นฟูความสัมพันธ์กันในปี 2522