xs
xsm
sm
md
lg

สถาบันการเงินจีนเนื้อหอม ต่างชาติแห่ขอมีเอี่ยวหุ้นจีน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วอลสตรีท เจอนัล-สถาบันการเงินจีนเนื้อหอมไม่สร่าง ล่าสุด บาร์เคลย์ส พีแอลซี ธนาคารใหญ่อันดับ 3 ของอังกฤษ เล็งถือหุ้นเชิงยุทธศาสตร์ของ ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งชาติจีน(ซีดีบี) ขณะสถาบันการเงินต่างชาติอีกหลายแห่งเล็งชิงหุ้นในธนาคารเพื่อการลงทุนของจีน ที่ มอร์แกน สแตนลี่ย์ ตั้งใจจะขายทิ้ง เพื่อไปก่อตั้งบริษัทหลักทรัพย์ร่วมทุนแห่งใหม่ในจีน โดยผู้ประมูลต่างเล็งเสนอราคาสูงกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ


นอกจากแผนถือหุ้นเชิงยุทธศาตร์ของซีดีบีแล้ว บาร์เคลย์ จะได้รับไฟเขียวจากผู้คุมกฎในเร็ววัน ให้เข้าถือครองกรรมสิทธิ์หุ้นจำนวน 19.5% ของนิว ไชน่า ทรัสท์ แอนด์ อินเวสท์เมนท์ คอมปานี อย่างไรก็ดี ขณะนี้บาร์เคลย์ยังไม่ได้เริ่มเจรจาเรื่องการลงทุนในซีดีบี เนื่องจากซีดีบีเพิ่งได้รับไฟเขียวจากทางการในการปรับโครงสร้าง คริส หุย กรรมการผู้บริหารของบาร์เคลย์ แคปิตอลกล่าวเมื่อวันศุกร์(11 ม.ค.)

ทั้งนี้ บาร์เคลย์ และซีดีบี เริ่มต้นความร่วมมือมาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยซีดีบีอัดฉีดเงินจำนวน 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อหนุนบาร์เคลย์สประมูลซื้อเอบีเอ็น แอมโร โฮลดิ้ง เอ็นวี ธนาคารสัญชาติ ฮอลแลนด์ แข่งกับกลุ่มรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์(อาร์บีเอส)

ส่วนซีดีบี ซึ่งเชี่ยวชาญการปล่อยสินเชื่อให้แก่โครงการโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ และเป็นผู้บุกเบิกตลาดพันธบัตรในจีน ได้รับการอัดฉีดเงินจำนวน 20,000 ล้านเหรียญฯจากบรรษัทการลงทุนแห่งประเทศจีน(ซีไอซี)กองทุนบริหารความมั่งคั่งแห่งชาติจีนเมื่อต้นเดือนมกราคมนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ มีการอัดฉีดเงินจำนวนมหาศาลเพื่อปรับโครงสร้างธนาคารสำคัญหลายแห่งของจีนให้เป็นกิจการที่มีโครงสร้างของผู้ถือหุ้น ก่อนทำไอพีโอในตลาดหุ้น

นอกจากนี้ หุยยังกล่าวว่า บาร์เคลย์และซีดีบีอาจร่วมมือดำเนินธุรกิจพันธบัตร และบาร์เคลย์จะร่วมมือกับซีดีบีช่วยบริษัทจีนเข้าถือกรรมสิทธิ์หุ้นในต่างประเทศด้วย

นอกจากความเคลื่อนไหวของบาร์เคลย์แล้ว ทีพีจี และ เจซี ฟลาวเวอร์ แอนด์ โค บริษัทกองทุนเอกชนจากสหรัฐฯ และสตาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัทเพื่อการลงทุนจากปานามา ซึ่งควบคุมโดย Maurice “Hank” Greenberg ซีอีโอของเอไอจี ยักษ์ประกันภัยจากสหรัฐฯ ก็เป็นหนึ่งในสถาบันการเงินจากตะวันตกอีกหลายแห่งที่สนใจถือครองกรรมสิทธิ์หุ้นจำนวน 34.3% ในไชน่า อินเตอร์เนชั่นแนล แคปิตอล คอร์ป (ซีไอซีซี)ที่มอร์แกน สแตนลี่ย์ วาณิชธนกิจชั้นนำของโลกจากสหรัฐฯถืออยู่ คนวงในกล่าว

ทั้งนี้ เมื่อไม่นานมานี้ มอร์แกนได้ลงนามข้อตกลงจัดตั้งบริษัทหลักทรัพย์ร่วมทุนกับบริษัทไชน่า ฟอร์ทูน ซิเคียวริตี้ส์ คอมปานี แต่กฎระเบียบใหม่ ซึ่งออกโดยคณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์แห่งประเทศจีน (ซีเอสอาร์ซี) เมื่อวันที่ 28 ธันวาคมระบุว่า หุ้นสูงสุดที่นักลงทุนต่างชาติสามารถถือครองได้ในบริษัทหลักทรัพย์จีนจะยังคงอยู่ที่ประมาณ 33.3% ทั้งที่มีการลดกำแพงในด้านอื่นๆลงก็ตาม ทำให้มอร์แกนมีแผนขายหุ้นที่ถืออยู่ในซีไอซีซีหมดหน้าตัก เพื่อให้สามารถถือหุ้นในบริษัทฯแห่งใหม่ได้

ความสนใจของนักลงทุนต่างชาติในการเข้าถือหุ้นของมอร์แกนในซีไอซีซี สะท้อนถึงภาวะตลาดหุ้นจีนที่กำลังบูมอย่างหนัก ซึ่งปีที่แล้ว ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ขึ้นแท่นตลาดหุ้นที่มีมูลค่าการทำไอพีโอสูงที่สุดในโลก และเป็นตลาดที่มีผลประกอบดีที่สุดในเอเชีย โดยสามารถระดมทุนได้ทั้งสิ้น 55,300 พันล้านเหรียญฯ ซึ่งซีไอซีซี เป็นธนาคารเพื่อการลงทุนที่มีผลกำไรสูงสุดจากการจัดจำหน่ายหุ้นไอพีโอในจีนเมื่อปีที่แล้ว โดยจัดจำหน่ายหุ้นมูลค่าทั้งสิ้น17,700 พันล้านเหรียญฯ ทอมสัน ไฟแนนเชียล บริษัทสำรวจข้อมูลเชิงธุรกิจชั้นนำของโลกระบุ

นอกจากตลาดหุ้นแล้ว กองทุนต่างชาติยังกระหายสร้างฐานธุรกิจในตลาดกองทุนเอกชนน้องใหม่ของจีน และการถือหุ้นของซีไอซีซีจะช่วยเร่งให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวด้วย

“การเข้าถึงสถาบันการเงินที่น่าดึงดูดใจในจีน อย่างซีไอซีซี ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้น จึงมีผู้ให้ความสนใจเข้าถือกรรมสิทธิ์หุ้นของมอร์แกนในซีไอซีซีเป็นจำนวนมาก” คนวงในกล่าว.
กำลังโหลดความคิดเห็น