xs
xsm
sm
md
lg

เปิดบทบาทใหม่เหล่าเซเลบเอลิสต์ นั่งตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์ประเทศแปลก

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



มีหลายคนมักสงสัยว่า ทำไมมหาเศรษฐีเบอร์ต้นๆ ของเมืองไทยหลายคนถึงได้มีตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์พ่วงท้าย เพราะในโลกใบนี้มีประเทศเล็กๆ หลายแห่งที่ไม่พร้อมที่จะตั้งสถานทูตหรือสถานกงสุลขึ้นมาในประเทศไทยได้ ด้วยเหตุผลนานัปการ เช่น การตั้งสถานทูตต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก หรือมีความสัมพันธ์ระดับประเทศที่ไม่มากนัก จึงมีการตั้งตำแหน่ง กงสุลกิตติมศักดิ์” ขึ้นมา ซึ่งส่วนใหญ่จะตั้งคนในประเทศนั้นๆ ขึ้นมาทำหน้าที่นี้เพื่อทำหน้าที่แทนพลเมืองของประเทศที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินไทย
ที่สำคัญตำแหน่ง “กงสุลกิตติมศักดิ์” นั้น นอกจากจะไม่มีเงินเดือนแล้ว ยังต้องใช้เงินในกระเป๋าตัวเองทุกบาททุกสตางค์ในการหาที่ทำการกงสุล ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมถึงมีแต่มหาเศรษฐีนักธุรกิจคนดังมาดำรงตำแหน่งนี้ โดยหน้าที่ของกงสุลแต่ละคนนอกจากมีพันธกิจหลัก คือ เป็นคนกลางในการเชื่อมสัมพันธไมตรีสองประเทศให้แน่นแฟ้นแล้ว บรรดากงสุลทุกคนยังต้องทำให้ประเทศที่ตัวเองได้รับการแต่งตั้ง ให้เป็นที่รู้จักแก่คนไทยและชาวโลก

วันนี้จึงมีกงสุลคนดังของเมืองไทย 6 ท่าน มาแนะนำความโดดเด่นของประเทศที่ตัวเองได้รับการแต่งตั้ง ประเทศไหนจะว้าวแค่ไหนตามมากันเลยค่ะ



“สนั่น อังอุบลกุล” กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ สาธารณรัฐมัลดีฟส์ประจำประเทศไทย และยังพ่วงด้วยตำแหน่งประธานสมาคมคณะกงสุลกิตติมศักดิ์ (ประเทศไทย) เล่าให้ฟังถึงบทบาทหน้าที่กงสุลกิตติมศักดิ์ว่า มีหน้าที่หลักคือการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้มีความกระชับแน่นแฟ้นมากขึ้นในทุกด้าน และแน่นอนว่าผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์ได้นั้น ต้องเป็นผู้มีหัวใจแบ่งปันอย่างแท้จริง เพราะตำแหน่งนี้นอกจากจะไม่มีเงินเดือนเป็นค่าตอบแทนแล้ว ยังต้องเป็นผู้ควักกระเป๋าเองทั้งสิ้น ดังนั้น กงสุลในประเทศไทยส่วนใหญ่จึงเป็นนักธุรกิจที่มีหน้าที่การงานมั่นคง

“มีหลายคนพากันงงๆ เมื่อเห็นพวกเราเป็นคนไทยแล้วมาเป็นกงสุลให้ต่างชาติ ก็มองเราอีกแบบ ที่สำคัญผมมักจะเจอคำถามว่าทำไปเพื่ออะไรกัน ผมมองว่าเป็นหน้าที่อย่างหนึ่งของคนไทย คือ สานสัมพันธ์ให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างเมืองไทยและต่างประเทศ เราไม่ได้หวังสิ่งใดตอบแทน เพราะเราเองต้องเป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายเองทั้งหมดด้วย แต่ถือเป็นเกียรติของวงศ์ตระกูล และตอบแทนคุณแผ่นดิน ยิ่งเราทำหน้าที่กงสุลของเราได้ดีที่สุด ต่างชาติก็จะชื่นชมคนไทยและทำให้ภาพลักษณ์ของเมืองไทยดีขึ้นในสายตาชาวต่างชาติ” สนั่นเล่าถึงหน้าที่ของกงสุลกิตติมศักดิ์

ตลอดระยะเวลากว่า 17 ปีที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์แห่งสาธารณรัฐมัลดีฟส์ประจำประเทศไทย สนั่นได้ทำหน้าที่เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสาธารณรัฐมัลดีฟส์กับประเทศไทยให้แน่นแฟ้นมากขึ้น เพราะทุกปีเขาจะต้องเดินทางไปมัลดีฟส์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อร่วมฉลองวันชาติของมัลดีฟส์ แต่ปีนี้เนื่องจากติดสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงไม่ได้เดินทางไป แต่ก็ยังทำหน้าที่ดูแลพลเมืองชาวมัลดีฟส์ ที่ติดค้างอยู่ในประเทศไทยอย่างเต็มกำลังความสามารถ


“ที่ผ่านมานอกจากเราผลักดันให้มัลดีฟส์ได้รับการยกเว้น Visa on Arrival ในประเทศไทย เพื่อให้ชาวมัลดีฟส์ได้เดินทางง่ายขึ้น และทุกปีเราจะต้องบินไปประเทศมัลดีฟส์เพื่อไปร่วมงานวันชาติของเขา และเราจะนำสินค้าและผลิตภัณฑ์ของประเทศไทย ไปจัดแสดงที่นั่นด้วย แต่เนื่องจากปีนี้ติดสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เราจึงไม่ได้ไป แต่ก็พยายามช่วยเหลือชาวมัลดีฟส์ที่อยู่ในประเทศไทย ว่าระหว่างนี้เขาต้องการอะไร เราก็จะสนับสนุนเขาเท่าที่เราช่วยได้ในฐานะกงสุลฯ”

สนั่นยังเล่าถึงความโดดเด่นของมัลดีฟส์ว่า เป็นประเทศที่คลื่นไม่เคยกระทบฝั่ง เพราะได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีความสวยงามของชายหาดมากที่สุดในโลก มีปะการัง และสัตว์ทะเลน้อยใหญ่แหวกว่ายให้ได้ชมความงดงาม ซึ่งเป็นอีกความใฝ่ฝันของคู่รักทั่วโลกที่ต้องได้มาฮันนีมูนที่นี่

“มัลดีฟส์เป็นประเทศที่นับได้ว่ามีขนาดเล็กที่สุดในทวีปเอเชีย ทั้งในแง่ของจำนวนประชากรและขนาดพื้นที่ (300 ตร.กม.) และยังสูงจากระดับน้ำทะเลที่เตี้ยที่สุดในโลกอีกด้วยแต่ประเทศนี้มีความสวยงามของชายหาด ปะการัง และสัตว์ทะเล เหมาะแก่การพักผ่อน ดำน้ำ และโต้คลื่น จึงทำให้ในแต่ละปี มีคู่รักหนุ่มสาวชาวไทยจำนวนมาก ต่างพากันไปพักผ่อนที่มัลดีฟส์”


ส่วนนักธุรกิจสาวใหญ่มากความสามารถ “แพร-พัชรพิมล ยังประภากร” เจ้าของแบรนด์ S’uvimol กระเป๋าหนังจระเข้แท้ ที่ตอนนี้เพิ่งได้รับการแต่งตั้งจากสาธารณรัฐโกตดิวัวร์ ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์ของสาธารณรัฐโกตดิวัวร์ (ไอวอรีโคสต์) ทวีปแอฟริกาตะวันตก ประจำประเทศไทย โดยมีหน้าที่สำคัญในการดูแลชาวโกตดิวัวร์ ที่พำนักอยู่ในประเทศไทย เป็นตัวแทนของไอวอรีโคสต์เข้าร่วมงานพระราชพิธีต่างๆ ในประเทศไทย และกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้มีความแน่นแฟ้นมากขึ้น

กงสุลป้ายแดง แพร เล่าถึงภารกิจสำคัญที่ต้องขับเคลื่อนหลังจากโควิด-19 หมดก็คือ การส่งเสริมให้นักธุรกิจไทยไปเปิดตลาดการค้าที่โกตดิวัวร์ และชักชวนนักธุรกิจจากที่นั่นมาเปิดตลาดที่ประเทศไทย เพราะจุดเด่นของประเทศนี้ มีทั้งการส่งออกเมล็ดโกโก้มากเป็นอันดับ 1 ของโลก


“โกตดิวัวร์ เป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 6 ของไทยในทวีปแอฟริกา จุดเด่นของประเทศนี้นอกจากการมีชายหาดที่ทอดยาวสวยที่สุดในโลกแล้ว เขายังเป็นประเทศที่มีการส่งออกเมล็ดโกโก้มาเป็นอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งหลังจากผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ไปแล้ว เราจะทำการโปรโมตการท่องเที่ยว และการทำธุรกิจระหว่างสองประเทศให้มากขึ้น เราจะจัดงานแสดงสินค้าไทยที่โกตดิวัวร์ และจัดงานแสดงสินค้าจากโกตดิวัวร์ที่ประเทศไทย เราอยากให้นักลงทุนไทยเปิดใจรับตลาดใหม่ ประเทศนี้กำลังเริ่มพัฒนาซึ่งเหมาะแก่การทำธุรกิจด้วย”


เช่นเดียวกับบทบาท กงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐลิทัวเนียประจำประเทศไทย ที่ มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ รับหน้าที่เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมานานกว่า 6 ปีแล้ว มาดามแป้งเล่าว่า กว่าจะได้รับตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องผ่านการทดสอบหลายขั้นตอน แต่เธอก็ภาคภูมิใจที่ได้มารับตำแหน่งนี้ เพราะถือเป็นส่วนหนึ่งในการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นขึ้น

“กว่าจะได้ทำหน้าที่นี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แป้งต้องเข้าสัมภาษณ์กับรัฐมนตรีของลิทัวเนียที่บินมาพูดคุย มีหน่วยงานต่างๆ ก็เป็นความภูมิใจที่เป็นคนไทยที่ได้รับเลือกจากรัฐบาลลิทัวเนีย เมื่อได้รับการคัดเลือกแล้วแป้งจึงอยากทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ทำให้ประเทศลิทัวเนียเป็นที่รู้จักมากขึ้น”


หน้าที่ของมาดามแป้งที่ผ่านมา คือ การทำให้ลิทัวเนียเป็นที่รู้จักของชาวไทย และจุดเด่นของประทศนี้คือ ความงดงามทางวัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมอาคารบ้านเรือนที่ยังคงความเป็นยุโรปดั้งเดิม

“หน้าที่ของแป้งที่ผ่านมา คือ การทำให้ลิทัวเนียเป็นที่รู้จัก มีพานักท่องเที่ยวไทยไปที่นั่น เชื่อมโยงกันทางธุรกิจ เพราะลิทัวเนียได้รับการขนานนามว่าไข่มุกแห่งทะเลบอลติก มีประชากรเพียง 3 ล้านคน นั่นทำให้ทรัพยากรมาก อาหารอร่อย นอกจากมีธรรมชาติที่งดงามราวกับสวรรค์ ทั้งป่าเบิร์ช และป่าดงดิบที่เขียวชอุ่มตลอดปีแล้ว ยังล้อมรอบด้วยทะเลสาบหลายแห่ง และเต็มไปด้วยปราสาทเก่าแก่ อาคารบ้านเรือนแบบยุโรปดั้งเดิม ในสไตล์กอธิก, เรเนซองส์, บาโร้ค, คลาสสิก ผสมผสานกันไป จนได้รับฉายาว่าเป็นดินแดนทะเลสาบและปราสาทเก่า”


ดร.วีระชัย เตชะวิจิตร์ กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์แห่งสาธารณรัฐเอสโตเนียประจำประเทศไทย กล่าวว่า จุดเด่นของสาธารณรัฐเอสโตเนีย คือ ในปัจจุบันนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นประเทศผู้นำทางด้านดิจิทัล เป็นผู้คิดค้นโปรแกรมต่างๆ ที่ทั่วโลกให้การยอมรับมากมาย


“ชาวเอสโตเนียนเป็นผู้คิดค้นโปรแกรม Skype และ KSI Blockchain ขึ้นมาและที่ผ่านมารัฐบาลเอสโตเนียได้มีการจัด อบรมด้าน e-Governance ให้แก่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกกว่า 60 ประเทศ ในส่วนประเทศไทย ผมได้แนบแผ่นพับของโรงเรียนนานาชาติ เดอะ รีเจ้นท์ ซึ่งเป็นโรงเรียนนานาชาติระบบอังกฤษ และระบบ IB รวมทั้งแผ่นพับของสถาบันการศึกษานานาชาติรีเจ้นท์ ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตรปริญญาตรีของ UOL-LSE ที่เปิดสอนที่กรุงเทพฯ ไปในการประชุมด้วย เพราะพันธกิจสำคัญของผม คือ การสร้างนักเรียนที่มีความเป็นผู้นำรอบด้าน ซึ่งพวกเขาจะเป็นบุคลากรที่ดีที่จะทำให้โลกของเราน่าอยู่ สงบสุข และสามารถเชื่อมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทย และสาธารณรัฐเอสโตเนียให้ดียิ่งขึ้นไป”


ด้านนักธุรกิจหนุ่มใหญ่ อภิชาติ สุดแสวง กงสุลกิตติมศักดิ์ราชอาณาจักรเลโซโทประจำประเทศไทย บอกว่า ขณะนี้มีผู้ที่ให้ความสนใจสอบถามข้อมูลทั้งด้านการท่องเที่ยว การค้าการลงทุน และศักยภาพด้านต่างๆ ของประเทศเลโซโท โดยเฉพาะกลุ่มนักธุรกิจที่กำลังมองหาโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ เพราะประเทศเลโซโทตอบโจทย์ได้อย่างดียิ่ง เนื่องจากมีความพร้อมทั้งในด้านของทำเลที่ตั้ง สามารถเข้าถึงนานาประเทศในแอฟริกาตอนใต้สะดวก และมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว ที่มีภูมิประเทศสวยงามจนได้ชื่อว่าเป็น “สวิตเซอร์แลนด์แห่งแอฟริกา”


“เลโซโทถือเป็นประเทศที่อยู่บนที่สูง เต็มไปด้วยภูเขาจำนวนมากเรียงตัวสลับซับซ้อน สวยงามจนได้รับสมญานาม “สวิตเซอร์แลนด์แห่งแอฟริกา” มีสภาพอากาศเย็นสบายตลอดปี ในฤดูหนาวจะมีหิมะตกบนยอดเขา และมีการพัฒนาเป็นสกีรีสอร์ตที่ชาวยุโรปและชาวแอฟริกาจากส่วนอื่นๆ ของทวีป นิยมเดินทางมาท่องเที่ยว ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวในเลโซโทยังมีมากมาย เช่น น้ำตก Maletsunyane ที่มีความสูงที่สุดในทวีปแอฟริกา เขื่อนขนาดใหญ่ที่มีทิวทัศน์สวยงามเป็นไฮไลต์ ถ้ำที่เคยเป็นที่อาศัยของมนุษย์ถ้ำดึกดำบรรพ์ รวมทั้งมีรอยเท้าไดโนเสาร์ Lesothosaurus อยู่หลายแห่ง”


กำลังโหลดความคิดเห็น