ศบค. เผยไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 7 ราย โดยเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้า State Quarantine และ Alternative State Quarantine จากรัสเซีย 1 ราย จอร์แดน 1 ราย คูเวต 1 ราย อิตาลี 1 ราย มัลดีฟส์ 1 ราย ฝรั่งเศส 1 ราย และ สวีเดน 1 ราย ด้านทั่วโลกติดเชื้อ 47.8 ล้านราย สหรัฐฯ ติดเชื้อสะสมเกือบ 10 ล้านราย
วันนี้ (4 พ.ย.) ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 7 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้าสถานกักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) ประกอบด้วย รัสเซีย 1 ราย จอร์แดน 1 ราย คูเวต 1 ราย อิตาลี 1 ราย มัลดีฟส์ 1 ราย ฝรั่งเศส 1 ราย และสวีเดน 1 ราย ซึ่งวันนี้มีผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม 7 ราย
ส่งผลให้มีจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 3,804 ราย เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 2,451 ราย และผู้ป่วยที่ตรวจพบในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ 856 ราย ส่วนผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มอีก 7 ราย รวมเป็น 3,612 ราย ยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 133 ราย ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 59 ราย
รายละเอียด ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7 ราย
รายที่ 1 มาจากรัสเซีย เป็นเพศชาย สัญชาติรัสเซีย อายุ 48 ปี อาชีพนายหน้าซื้อขายบริษัท เดินทางมาถึงไทย 26 ต.ค. 63 การตรวจหาเชื้อ ตรวจครั้งที่ 1 วันที่ 26 ต.ค. 63 (Day 0) ผลไม่พบเชื้อ ตรวจครั้งที่ 2 วันที่ 31 ต.ค. 63 (Day 15) ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ เข้าพัก Alternative State Quarantine (ASQ) กทม. หลังจากนั้น เข้ารักษาตัวโรงพยาบาลเอกชน
รายที่ 2 มาจากจอร์แดน เป็นเพศชาย สัญชาติไทย อายุ 21 ปี อาชีพนักเรียน เดินทางมาถึงไทย 27 ต.ค. 63 ต่อเครื่องบินที่ประเทศกาตาร์ การตรวจหาเชื้อ วันที่ 1 พ.ย. 63 (Day 5) ผลพบเชื้อ มีอาการไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก มีเสมหะ เข้าพัก State Quarantine (SQ) กทม. หลังจากนั้นเข้ารักษาตัวสถาบันประสาทวิทยา
รายที่ 3 มาจากอิตาลี เป็นเพศชาย สัญชาติอิตาเลียน อายุ 56 ปี อาชีพนักธุรกิจ เดินทางมาถึงไทย 30 ต.ค. 63 ต่อเครื่องบินที่ประเทศกาตาร์ การตรวจหาเชื้อ วันที่ 2 พ.ย. 63 (Day 3) ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ เข้าพัก Alternative State Quarantine (ASQ) กทม. หลังจากนั้นเข้ารักษาตัวโรงพยาบาลเอกชน
รายที่ 4 มาจากมัลดีฟส์ เป็นเพศหญิง สัญชาติมัลดีฟส์ อายุ 22 ปี อาชีพนักเรียน เดินทางมาถึงไทย 30 ต.ค. 63 ต่อเครื่องบินที่ประเทศกาตาร์ การตรวจหาเชื้อ วันที่ 2 พ.ย. 63 (Day 3) ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ เข้าพัก Alternative State Quarantine (ASQ) กทม. หลังจากนั้นเข้ารักษาตัวโรงพยาบาลเอกชน
รายที่ 5 มาจากฝรั่งเศส เป็นเพศชาย สัญชาติไทย อายุ 27 ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางมาถึงไทย 30 ต.ค. 63 การตรวจหาเชื้อ วันที่ 2 พ.ย. 63 (Day 3) ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ เข้าพัก State Quarantine (ASQ) ชลบุรี หลังจากนั้นเข้ารักษาตัวโรงพยาบาลตราด
รายที่ 6 มาจากสวีเดน เป็นเพศหญิง สัญชาติไทย อายุ 39 ปี อาชีพแม่บ้าน เดินทางมาถึงไทย 31 ต.ค. 63 ต่อเครื่องบินที่ประเทศกาตาร์ การตรวจหาเชื้อ วันที่ 1 พ.ย. 63 (Day 1) ผลพบเชื้อ มีน้ำมูก เข้าพัก Alternative State Quarantine (ASQ) กทม. หลังจากนั้นเข้ารักษาตัวโรงพยาบาลเอกชน
ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ เข้าสถานกักกันทุกประเภท (Quarantine Facilities) และเคยมีประวัติติดเชื้อโควิด-19
รายที่ 7 มาจากคูเวต เป็นเพศชาย สัญชาติคูเวต อายุ 44 ปี อาชีพว่างงาน (โรคประจำตัว DM, HT, CAD, IHD, DLD) เคยตรวจเชื้อให้ผลบวก เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 63 ไม่มีอาการ เดินทางมาถึงไทย 28 ต.ค. 63 ต่อเครื่องบินที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ การตรวจหาเชื้อ ครั้งที่ 1 วันที่ 28 ต.ค. 63 (Day 0) ผลไม่พบเชื้อ ตรวจครั้งที่ 2 วันที่ 2 พ.ย. 63 (Day 5) ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ เข้าพัก Alternative State Quarantine (ASQ) กทม. หลังจากนั้น เข้ารักษาตัวโรงพยาบาลเอกชน
สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน 2563 เวลา 10.00 น. ยอดผู้ติดเชื้อรวม 47,844,811 ราย อาการรุนแรง 88,126 ราย รักษาหายแล้ว 34,352,711 ราย เสียชีวิต 1,220,224 ราย
อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด
1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 9,692,528 ราย
2. อินเดีย จำนวน 8,312,947 ราย
3. บราซิล จำนวน 5,567,126 ราย
4. รัสเซีย จำนวน 1,673,686 ราย
5. ฝรั่งเศส จำนวน 1,502,763 ราย
ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 147 จำนวน 3,804 ราย