เข้าสู่เดือนเมษายนแล้ว สภาพอากาศเริ่มร้อนอบอ้าวขึ้นเรื่อยๆ แถมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็ยังคงเพิ่มมากขึ้นอีก หลายหน่วยงานพร้อมใจลดความเสี่ยงด้วยการให้พนักงาน “Work From Home” “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ถึงเราจะไม่ได้เข้าไปนั่งทำงานในออฟฟิศ แต่ก็อย่าละเลยความเสี่ยงในการนั่งทำงานที่บ้าน เพราะหากปฏิบัติตนไม่ถูกต้อง ก็อาจจะส่งผลให้ป่วยเป็นโรคออฟฟิศซินโดรม ได้โดยไม่รู้ตัว
ออฟฟิศซินโดรม ไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องอาจส่งผลให้เกิดอาการปวดเรื้อรัง กระทบต่อประสิทธิภาพและความสุขในการทำงานได้ ซึ่งเรื่องนี้ นพ.เฉลิมพล ชีวีวัฒน์ เเพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู ประจำศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า ออฟฟิศซินโดรม เป็นกลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด พบได้บ่อยในผู้ที่นั่งทำงานในออฟฟิศ เกิดจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น ท่าทางการทำงาน ท่านั่งทำงาน การวางมือ ข้อศอกบนโต๊ะทำงานที่ไม่ถูกต้อง การใช้ข้อมือซ้ำๆ ทำให้เกิดการอักเสบของเอ็นบริเวณข้อมือ หรือพังผืดเส้นประสาทบริเวณข้อมือได้ รวมไปถึงการจัดสิ่งแวดล้อมในการทำงานที่ไม่เหมาะสม เช่น ลักษณะโต๊ะทำงาน หน้าจอคอมพิวเตอร์ แสงสว่างในห้องทำงาน เป็นต้น
หากมีอาการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด โดยเฉพาะบริเวณคอ บ่า สะบัก การอักเสบของเส้นเอ็นบริเวณข้อศอก ข้อมือ นิ้วมือ เช่น การอักเสบของเอ็นโคนนิ้วโป้ง นิ้วล็อก การกดทับปลายประสาท ทำให้เกิดอาการชา รวมถึงอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ
เช็กลิสต์คุณเข้าข่ายป่วยออฟฟิศซินโดรมหรือไม่
มีแบบประเมินตนเองอย่างง่ายๆ เพื่อดูความเสี่ยงว่าเข้าเกณฑ์ออฟฟิศซินโดรมหรือไม่
- คุณนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวันหรือไม่?
- ระหว่างทำงาน มักปวดเมื่อยบริเวณต้นคอ ไหล่ หลัง เอว อยู่เสมอหรือไม่?
- ระหว่างทำงาน ปวดเมื่อยจนต้องกินยาแก้ปวด หรือไปนวดเพื่อให้หายปวดหรือไม่?
- รู้สึกตาพร่ามัว อ่านหน้าจอไม่ชัดระหว่างทำงานเป็นบางครั้งหรือไม่?
หากคำตอบส่วนใหญ่คือ “ใช่” แสดงว่าคุณเริ่มมีความเสี่ยงต่อโรคนี้ เบื้องต้นควรรีบปรับพฤติกรรม หรือปรึกษาแพทย์ทันที เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว
ปรับท่าทาง จัดสิ่งแวดล้อมให้ดี สร้างสุขในการทำงาน
ปรับท่าทางในการทำงานให้ถูกต้อง ด้วยการนั่งหลังตรง ฝ่าเท้าสองข้างแนบสนิทพื้น ไหล่ผ่อนคลาย ศอก สะโพก และเข่า งอประมาณ 90 องศา ข้อมือควรอยู่ในท่าตรง ไม่กระดก หรืองอมากเกินไป ในระหว่างทำงานควรมีการยืดกล้ามเนื้อ พักสายตาอย่างน้อยทุกชั่วโมง
ปรับสิ่งแวดล้อมและอุปกรณ์ในการทำงานที่เหมาะสม โต๊ะทำงานควรมีลิ้นชักแยกไว้วางคีย์บอร์ด เก้าอี้นั่งต้องมั่นคง ปรับระดับสูงต่ำได้ จอคอมพิวเตอร์ขอบบนจออยู่ระดับสายตา