เจ้าไวรัสโคโรนา 2019 นี้ช่างแสนร้ายกาจ พุ่งเป้าแบบไม่เลือกหน้า มากกว่า 10 รายชื่อบุคคลชั้นนำในประเทศต่างๆ ของโลกแล้วที่ต่างก็ออกมายอมรับว่า พวกเขาติดเชื้อโควิด-19
ขนาดเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ แห่งราชวงศ์อังกฤษ ผู้ซึ่งทรงบุกเบิกนำการไหว้มาใช้ในการทักทายแทนการจับมือกันตั้งแต่เริ่มต้นการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อรักษาระยะห่างทางสังคมตามคำแนะนำจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ก็ยังติดเชื้อโควิด-19 โดยโฆษกของสำนักพระราชวังอังกฤษออกมาแถลงข่าว เมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา
เคราะห์ดีที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์มีพระพลานามัยแข็งแรง จึงปรากฏพระอาการประชวรเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ขณะที่ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ พระชายา ไม่ติดเชื้อไวรัสแต่อย่างใด โดยทั้ง 2 พระองค์ทรงกักพระองค์อยู่ในวังที่สกอตแลนด์ และหลังจากพักฟื้นพระวรกายอยู่ 7 วันแพทย์ก็ลงความเห็นว่า เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์มีพระพลานามัยที่ดีขึ้นแล้ว
ข่าวหลายกระแสรายงานว่า เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์น่าจะทรงติดเชื้อโควิด-19 มาจาก เจ้าชายอัลแบต์ ที่ 2 แห่งโมนาโก ซึ่งได้มีการแถลงข่าวไปในวันที่ 19 มีนาคม ว่าทรงมีผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวก
เจ้าชายอัลแบต์ แห่งโมนาโก นับว่าทรงเป็นประมุขของประเทศรายแรกของโลกที่ติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 โดยโฆษกของราชวงศ์โมนาโกกล่าวด้วยว่า ด้วยพระพลานามัยของเจ้าชายอัลแบต์ก็ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง
บอริส จอห์นสัน เป็นอีกหนึ่งผู้นำประเทศที่ตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 โดยเขาออกมาประกาศเมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา หลังจากเริ่มมีอาการไอและมีไข้สูง ทำให้ต้องบัญชาการแก้ปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ในอังกฤษจากบ้านระหว่างกักตัว
“ผมต้องทำงานจากบ้านครับ นั่นเป็นสิ่งเดียวที่จะทำได้ในขณะนี้” นายกรัฐมนตรีของอังกฤษโพสต์วิดีโอลงทวิตเตอร์ “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ผมยังปฏิบัติหน้าที่ได้ ต้องขอบคุณเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ทำให้ผมไม่ขาดการสื่อสารกับทีมงานในการต่อสู้กับโคโรนาไวรัส”
ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีกระทรวงสุขภาพจิต นาดีน ดอรีส เป็นกลุ่มคนผู้บริหารประเทศรายแรกๆ เลยที่ได้ออกมาแถลงข่าวว่าเธอติดเชื้อไวรัสโคโรนา ซึ่งเป็นเวลาหลังจากที่เธอได้เข้าร่วมงานอีเวนต์กับบอริส จอห์นสัน ตอนนั้นก็ทำให้ผู้คนเป็นห่วงนายกรัฐมนตรีของประเทศเป็นอย่างมาก ซึ่งในขณะนั้นบอริสยืนกรานว่าจะไม่ไปตรวจหาเชื้อจนกระทั่งเกิดอาการป่วยดังกล่าว
โซฟี ทรูโด ภริยาของ ฯพณฯ จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีของแคนาดา เป็นผู้ใกล้ชิดของผู้นำประเทศที่ติดเชื้อโควิด-19 โดยเธอตรวจพบหลังจากเดินทางมาร่วมงานอีเวนต์ใหญ่ในกรุงลอนดอน ซึ่ง จัสติน ทรูโด รีบแยกตัวจากภรรยาทันทีหลังจากที่รู้ข่าว และเขาก็ไม่มีอาการของโรคแต่อย่างใด
ด้านนายกรัฐมนตรีของเยอรมนี อังเกลา แมร์เคิล เองก็ต้องกักตัว 14 วัน หลังจากที่แพทย์ซึ่งมาฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ให้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เสียเอง ทำให้ต้องกลับไปเก็บตัวทำงานที่บ้านตั้งแต่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา
เช่นเดียวกับกษัตริย์และราชินีของมาเลเซีย สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่าน อับดุลละฮ์ เรียยาตุดดิน อัล-มุซตาฟา บิลละฮ์ ซะฮ์ อิบนี อัล-มาร์ฮุม สุลต่าน ฮาจี อะฮ์มัด ซะฮ์ อัล-มุซตาอิน บิลละฮ์ และสมเด็จพระราชินีตุนกู ฮายาห์ อซิซาห์ อมีนาห์ ไมมูนาห์ อิสกันดาริยาห์ รายา ประไหมสุหรี อากง ซึ่งขณะนี้เป็นประเทศที่มียอดผู้ป่วยโควิด-19 มากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็ต้องทรงกักพระองค์เอง หลังจากที่มีเจ้าหน้าที่ในสำนักพระราชวังฯ ถึง 7 คนตรวจพบว่าติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019
สำหรับสมเด็จพระราชาธิบดี คนที่ 16 ของมาเลเซีย และพระราชินี ทรงได้รับการตรวจแล้วไม่พบว่ามีเชื้อไวรัส แต่อย่างไรก็ตามทรงต้องกักพระองค์เองเป็นเวลา 14 วันตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก
สำหรับที่อื่นๆ ของโลกก็มี ปีเตอร์ ดัตตัน รมว.มหาดไทยของออสเตรเลีย ที่ติดเชื้อหลังเดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกา ที่เขาไปพบปะกับอีวานกา ทรัมป์ และอัยการ วิลเลียม บาร์
อิราช ฮารีชี รมช.สาธารณสุขของอิหร่าน ก็ออกมายืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 โดยเริ่มมีอาการป่วยตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ไม่กี่วันหลังจากที่ไปร่วมแถลงข่าวเรื่องการระบาดของไวรัสโคโรนา โดยในวันที่ 3 มีนาคมก็มีรายงานข่าวว่าสมาชิกสภาของอิหร่าน 5 คนติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เช่นเดียวกับรองประธานาธิบดีอิหร่าน อิชาก ญาฮันกิรี ที่อัลญะซีเราะห์ รายงานว่าติดเชื้อเช่นเดียวกัน
ในสหรัฐฯ ยังมีสมาชิกสภาฯ หลายราย ตั้งแต่วุฒิสมาชิก แรนด์ พอล จากเคนทักกี ส.ส.มาริโอ ดิแอซ-บาลาร์ต จากฟลอริดา และ ส.ส.เบน แมคเอดัมส์ จากยูทาห์
นอกจากนี้ ยังมีนายกเทศมนตรีเมืองไมอามี ฟรานซิส ซัวเรซ ที่บอกว่าติดโควิด-19 หลังจากเดินทางไปร่วมงานอีเวนต์ของสถานทูตบราซิล ทำให้ ไจร์ โบลโซนาโร ประธานาธิบดีของบราซิล และผู้ช่วยด้านการสื่อสารของเขา ฟาบิโอ วาย์นการ์เทน ที่เข้าร่วมงานนั้นด้วย ต้องทำการกักตัว 14 วัน โดยผลออกมาว่าฟาบิโอก็ติดเชื้อด้วย
ขนาดเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ แห่งราชวงศ์อังกฤษ ผู้ซึ่งทรงบุกเบิกนำการไหว้มาใช้ในการทักทายแทนการจับมือกันตั้งแต่เริ่มต้นการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อรักษาระยะห่างทางสังคมตามคำแนะนำจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ก็ยังติดเชื้อโควิด-19 โดยโฆษกของสำนักพระราชวังอังกฤษออกมาแถลงข่าว เมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา
เคราะห์ดีที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์มีพระพลานามัยแข็งแรง จึงปรากฏพระอาการประชวรเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ขณะที่ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ พระชายา ไม่ติดเชื้อไวรัสแต่อย่างใด โดยทั้ง 2 พระองค์ทรงกักพระองค์อยู่ในวังที่สกอตแลนด์ และหลังจากพักฟื้นพระวรกายอยู่ 7 วันแพทย์ก็ลงความเห็นว่า เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์มีพระพลานามัยที่ดีขึ้นแล้ว
ข่าวหลายกระแสรายงานว่า เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์น่าจะทรงติดเชื้อโควิด-19 มาจาก เจ้าชายอัลแบต์ ที่ 2 แห่งโมนาโก ซึ่งได้มีการแถลงข่าวไปในวันที่ 19 มีนาคม ว่าทรงมีผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวก
เจ้าชายอัลแบต์ แห่งโมนาโก นับว่าทรงเป็นประมุขของประเทศรายแรกของโลกที่ติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 โดยโฆษกของราชวงศ์โมนาโกกล่าวด้วยว่า ด้วยพระพลานามัยของเจ้าชายอัลแบต์ก็ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง
บอริส จอห์นสัน เป็นอีกหนึ่งผู้นำประเทศที่ตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 โดยเขาออกมาประกาศเมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา หลังจากเริ่มมีอาการไอและมีไข้สูง ทำให้ต้องบัญชาการแก้ปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ในอังกฤษจากบ้านระหว่างกักตัว
“ผมต้องทำงานจากบ้านครับ นั่นเป็นสิ่งเดียวที่จะทำได้ในขณะนี้” นายกรัฐมนตรีของอังกฤษโพสต์วิดีโอลงทวิตเตอร์ “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ผมยังปฏิบัติหน้าที่ได้ ต้องขอบคุณเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ทำให้ผมไม่ขาดการสื่อสารกับทีมงานในการต่อสู้กับโคโรนาไวรัส”
ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีกระทรวงสุขภาพจิต นาดีน ดอรีส เป็นกลุ่มคนผู้บริหารประเทศรายแรกๆ เลยที่ได้ออกมาแถลงข่าวว่าเธอติดเชื้อไวรัสโคโรนา ซึ่งเป็นเวลาหลังจากที่เธอได้เข้าร่วมงานอีเวนต์กับบอริส จอห์นสัน ตอนนั้นก็ทำให้ผู้คนเป็นห่วงนายกรัฐมนตรีของประเทศเป็นอย่างมาก ซึ่งในขณะนั้นบอริสยืนกรานว่าจะไม่ไปตรวจหาเชื้อจนกระทั่งเกิดอาการป่วยดังกล่าว
โซฟี ทรูโด ภริยาของ ฯพณฯ จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีของแคนาดา เป็นผู้ใกล้ชิดของผู้นำประเทศที่ติดเชื้อโควิด-19 โดยเธอตรวจพบหลังจากเดินทางมาร่วมงานอีเวนต์ใหญ่ในกรุงลอนดอน ซึ่ง จัสติน ทรูโด รีบแยกตัวจากภรรยาทันทีหลังจากที่รู้ข่าว และเขาก็ไม่มีอาการของโรคแต่อย่างใด
ด้านนายกรัฐมนตรีของเยอรมนี อังเกลา แมร์เคิล เองก็ต้องกักตัว 14 วัน หลังจากที่แพทย์ซึ่งมาฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ให้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เสียเอง ทำให้ต้องกลับไปเก็บตัวทำงานที่บ้านตั้งแต่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา
เช่นเดียวกับกษัตริย์และราชินีของมาเลเซีย สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่าน อับดุลละฮ์ เรียยาตุดดิน อัล-มุซตาฟา บิลละฮ์ ซะฮ์ อิบนี อัล-มาร์ฮุม สุลต่าน ฮาจี อะฮ์มัด ซะฮ์ อัล-มุซตาอิน บิลละฮ์ และสมเด็จพระราชินีตุนกู ฮายาห์ อซิซาห์ อมีนาห์ ไมมูนาห์ อิสกันดาริยาห์ รายา ประไหมสุหรี อากง ซึ่งขณะนี้เป็นประเทศที่มียอดผู้ป่วยโควิด-19 มากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็ต้องทรงกักพระองค์เอง หลังจากที่มีเจ้าหน้าที่ในสำนักพระราชวังฯ ถึง 7 คนตรวจพบว่าติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019
สำหรับสมเด็จพระราชาธิบดี คนที่ 16 ของมาเลเซีย และพระราชินี ทรงได้รับการตรวจแล้วไม่พบว่ามีเชื้อไวรัส แต่อย่างไรก็ตามทรงต้องกักพระองค์เองเป็นเวลา 14 วันตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก
สำหรับที่อื่นๆ ของโลกก็มี ปีเตอร์ ดัตตัน รมว.มหาดไทยของออสเตรเลีย ที่ติดเชื้อหลังเดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกา ที่เขาไปพบปะกับอีวานกา ทรัมป์ และอัยการ วิลเลียม บาร์
อิราช ฮารีชี รมช.สาธารณสุขของอิหร่าน ก็ออกมายืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 โดยเริ่มมีอาการป่วยตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ไม่กี่วันหลังจากที่ไปร่วมแถลงข่าวเรื่องการระบาดของไวรัสโคโรนา โดยในวันที่ 3 มีนาคมก็มีรายงานข่าวว่าสมาชิกสภาของอิหร่าน 5 คนติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เช่นเดียวกับรองประธานาธิบดีอิหร่าน อิชาก ญาฮันกิรี ที่อัลญะซีเราะห์ รายงานว่าติดเชื้อเช่นเดียวกัน
ในสหรัฐฯ ยังมีสมาชิกสภาฯ หลายราย ตั้งแต่วุฒิสมาชิก แรนด์ พอล จากเคนทักกี ส.ส.มาริโอ ดิแอซ-บาลาร์ต จากฟลอริดา และ ส.ส.เบน แมคเอดัมส์ จากยูทาห์
นอกจากนี้ ยังมีนายกเทศมนตรีเมืองไมอามี ฟรานซิส ซัวเรซ ที่บอกว่าติดโควิด-19 หลังจากเดินทางไปร่วมงานอีเวนต์ของสถานทูตบราซิล ทำให้ ไจร์ โบลโซนาโร ประธานาธิบดีของบราซิล และผู้ช่วยด้านการสื่อสารของเขา ฟาบิโอ วาย์นการ์เทน ที่เข้าร่วมงานนั้นด้วย ต้องทำการกักตัว 14 วัน โดยผลออกมาว่าฟาบิโอก็ติดเชื้อด้วย