ยุคสมัยนี้ ผู้หญิงก็ทำงานเก่งไม่แพ้ผู้ชาย บางรายทำงานในสายที่ไม่เกี่ยวกับที่เรียนมา แต่อาจด้วยประสบการณ์ที่คลุกคลีมาตั้งแต่วัยเด็ก ประกอบกับการเรียนรู้เพิ่มอีกนิดหน่อย ก็ช่วยให้เกิดความชำนาญ
“นุ่น-ภัทรา มณีรัตนะพร” ลูกสาวคนกลางของครอบครัวมณีรัตนะพร ผู้บริหารสาวสวยแห่งแลนดี้โฮม ผู้รับหน้าที่ในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท แลนดี้โฮม (ประเทศไทย) จำกัด ที่มีใจรักงานศิลป์ เธอจบการศึกษาด้าน Jewelry Design จากมหาวิทยาลัย Central Saint Martins, London ก่อนจะตัดสินใจศึกษาต่อด้านการตลาด เพื่อมาต่อยอดธุรกิจของทางบ้าน ด้วยดีกรีปริญญาโท Marketing Management จากมหาวิทยาลัยเวสมินเตอร์ ลอนดอน
ปัจจุบันกำลังศึกษาด้านงานบริหาร กับสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และถึงแม้ว่างานหลักจะต้องรับหน้าที่ในการบริหารงานธุรกิจของครอบครัว แต่เจ้าตัวก็ยังมีงานอดิเรกที่ชื่นชอบ ด้วยการออกแบบเครื่องประดับ และเริ่มต้นสร้างแบรนด์เครื่องประดับ Maison Magie (เมซองซ์ เมจี้) ควบคู่ไปด้วย
ถึงแม้ว่าเธอจะชื่นชอบงานด้านศิลปะและดีไซน์ แต่ก็ยังถือว่าเป็นลูกไม้ที่หล่นไม่ไกลต้นนัก เพราะเธอมักจะยึดหลักคำสอนและแนวคิดการทำงานของคุณพ่อ (พิเชษฐ์ มณีรัตนะพร) มาปรับใช้ ซึ่งเวลาทำงานเธอมักจะมองถึงภาพรวมใหญ่ๆ ให้ชัดเจนอยู่เสมอ ก่อนจะเจาะลึก ลงรายละเอียดให้ตัวเองเข้าใจในทุกขั้นตอน และด้วยหน้าที่หลักในการเป็นผู้บริหารด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งต้องรับหน้าที่หลักในด้านงานดีไซน์ บ้านทุกหลังของ แลนดี้โฮม จึงต้องออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “บ้านคุณภาพ” ที่สามารถตอบโจทย์ให้กับทุกคนในครอบครัว
ปัจจุบันทางเลือกในการอยู่อาศัยของคนเรามีมากมาย มีทั้งการซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียมที่ออกแบบโครงการไว้ให้พร้อม จากดีเวลลอปเปอร์ที่มีให้เลือกมากมาย บางคนอาจเลือกที่จะนำที่ดินแปลงเปล่าผืนงามที่ซื้อมา ที่ดินที่ได้รับมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษ หรือรีโนเวทบ้านหลังเก่าบนที่ดินเดิม เพื่อให้มั่นใจว่าได้เป็นเจ้าของบ้านที่ถูกใจตั้งแต่โครงสร้างไปจนถึงฟังก์ชั่นการใช้งาน
สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจกับทางเลือกของการปลูกบ้านเอง เพราะดูว่าเป็นภาระใหญ่ แถมยังเคยเห็นข่าวคราวของคนรู้จัก หรือแม้แต่คนดังในสังคม ที่บ้านสร้างไม่เสร็จตามกำหนด งบบานปลาย แถมผู้รับเหมายังทิ้งงาน งานนี้ในฐานะผู้ที่คลุกคลีกับวงการรับสร้างบ้านมาตั้งแต่เด็ก “นุ่น-ภัทรา” จึงมีคำแนะนำดีๆ มาบอกต่อสำหรับใครที่กำลังลังเลว่าจะสร้างบ้านบนที่ดินเปล่าของตัวเอง แต่ไม่อยากปวดหัว
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า ข้อดีของการซื้อบ้านจากโครงการบ้านจัดสรรคือ มั่นใจว่าได้บ้านจะสร้างเสร็จพร้อมอยู่ตามกำหนด แต่ในแง่โครงสร้างบ้าน ฟังก์ชั่นการใช้งาน อาจจะไม่ยืดหยุ่นและไม่สามารถรองรับความต้องการของแต่ละครอบครัวได้ 100% แถมหน้าตาบ้านยังเหมือนกันหมด เพราะต้องเป็นไปตามแบบของโครงการ
ขณะที่ การปลูกบ้านเอง ข้อดีคือ เจ้าของบ้านสามารถเลือกแบบบ้านที่ถูกใจ พร้อมเทเลอร์เมดในการออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งานได้ดั่งใจ แต่ทั้งนี้ก็ต้องมั่นใจว่า ได้บริษัทออกแบบบ้าน ผู้รับเหมาที่มีความเป็นมืออาชีพมาดูแล ทางที่ดีเจ้าของบ้านควรมีเช็กลิสต์ในใจก่อนว่า ชอบหน้าตาแบบบ้านสไตล์ไหน จากนั้นก็สำรวจความต้องการของตัวเองและครอบครัวว่า มีความต้องการอะไรบ้าง เช่น อยากมีกี่ห้องนอน กี่ห้องน้ำ กี่ที่จอดรถ เป็นต้น
เลือกแบบบ้านลงตัวแล้ว อย่ามองข้ามการคำนวณค่าใช้จ่าย เพราะในขณะที่การซื้อบ้านจากโครงการราคาสุทธิทางโครงการจะกำหนดมาเรียบร้อย แต่ถ้าเป็นการปลูกบ้านเอง งบประมาณจะบานปลายหรือไม่ เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบบ้าน บางคนอาจเลือกหาแบบบ้านที่ถูกใจจากอินเตอร์เน็ต บางคนอาจไปจ้างบริษัทออกแบบบ้าน แล้วนำแบบบ้านนั้นไปหาบริษัทรับสร้างบ้าน หรือจัดประมูลผู้รับเหมาอีกทอดหนึ่ง ซึ่งวิธีการนี้จะทำให้มีค่าใช้จ่ายในการสร้างบ้านเพิ่มขึ้นมาอีกประมาณ 3-5% ของราคาค่าก่อสร้าง และหากได้บริษัทรับสร้างบ้าน หรือผู้รับเหมารายย่อยที่ไม่มีความเชี่ยวชาญมาสร้างบ้านให้ อาจจะทำให้ค่าใช้จ่ายในการปลูกสร้างเพิ่มมากขึ้น
ดังนั้น สำหรับลูกบ้านที่ไม่อยากปวดหัว อาจเลือกใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้านที่มีประสบการณ์ เข้าใจถึงปัญหาต่างๆ ในการสร้างบ้านเป็นอย่างดี เป็น One Stop Service ดูแลตั้งแต่การให้คำปรึกษา การออกแบบบ้าน ไปจนถึงบ้านสร้างเสร็จสมบูรณ์พร้อมเข้าอยู่ โดยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ แต่ก็ต้องยอมรับว่าราคาอาจจะสูงกว่าแบบที่กล่าวมาข้างต้น
“นุ่นอยากเปรียบเทียบให้เห็นภาพว่า การตัดสินใจว่าจะเลือกบริษัทออกแบบบ้านเอง แล้วไปหาผู้รับเหมามาดูแลต่อ กับใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้านแบบเหมารวมทุกอย่างไปเลย ก็เหมือนกับเวลาเดินทาง แล้วเราต้องเลือกระหว่างใช้บริการสายการบินต้นทุนต่ำ กับสายการบินที่ให้บริการแบบฟูลเซอร์วิส สำหรับสายการบินต้นทุนต่ำเริ่มต้นอาจจะเปิดมาในราคาที่ถูก แต่มาพร้อมความเสี่ยงและราคาที่อาจจะบานปลายในอนาคต หากต้องบวกค่าจองที่นั่ง ค่าโหลดกระเป๋า ค่าอาหารบนเครื่อง ราคาก็อาจจะสูสีกับสายการบินแบบฟูลเซอร์วิสก็ได้ ก็เหมือนกับการใช้บริการผู้รับเหมาก่อสร้างรายย่อย ที่เปิดราคาต่อตารางเมตรอาจจะถูกกว่าบริษัทรับสร้างบ้าน แต่ก็จะไม่รวมค่าใช้จ่าย เช่น การรับประกันโครงสร้าง การตรวจสอบคุณภาพงาน QC ซึ่งหากเปรียบเทียบแล้ว ราคาอาจจะไม่ได้ต่างกับบริษัทรับสร้างบ้านเลย แต่อย่างน้อย เจ้าของบ้านก็ไม่ต้องแบกรับความเสี่ยง”
ทั้งหมดนี้ คือข้อคิดที่สาวเก่งอยากฝากสำหรับคนที่คิดจะสร้างบ้านบนที่ดินตัวเอง…
