"เจี๊ยบ ลลนา" เผยคืบหน้าเรือนหอ เสร็จแล้ว 50 เปอร์เซ็นต์ โชคดีไม่มีปัญหาผู้รับเหมา แต่โอดไม่มีเงินทำสวนแล้ว ไม่อยากให้งบบานปลาย เผยทะเลาะหวานใจ อีกฝ่ายไม่อนุญาตให้นำของเล่นเข้าบ้าน เผยยังอยากแต่งงาน จดทะเบียนถูกต้อง รอแค่กฎหมายรับรอง บอกออกพรุ่งนี้ก็จะแต่งพรุ่งนี้ เสียใจถูกริดรอนสิทธิ์เพราะมีแฟนเพศเดียวกัน ไม่มีอะไรรองรับ ทั้งที่เป็นคนที่รัก ตายไปจะยกสมบัติให้ใคร
คืบหน้าไปมากแล้ว สำหรับเรือนหอ "เจี๊ยบ ลลนา ก้องธรนินทร์" ที่เตรียมไว้ครองคู่กับ "เดียร์ บุศรา" หวานใจ โดยเจ้าตัวเปิดใจในงาน Healthy Living Day #โชคดีที่ได้เลือก ณ โรงภาพยนตร์สกาลา โดยเผยว่าโชคดีมากที่ไม่มีปัญหาเรื่องผู้รับเหมา ส่วนตอนนี้ทุ่มเงินสร้างบ้าน จนหมดเงินทำสวนแล้ว
"ตอนนี้ประมาณ 50% แล้วค่ะ ก็ถือว่าเร็วกว่ากำหนดนิดนึง เพราะเขามีแผนงานออกมาเลยว่าเดือนนี้ต้องได้กี่เปอร์เซ็นต์ ตอนนี้มีปัญหาเรื่องไม่มีเงินทำสวนค่ะ (หัวเราะ) ไม่มีปัญหาเรื่องผู้รับเหมาค่ะ ถือว่าโชคดีมากจริงๆ ที่เราได้ผู้รับเหมาที่ดีมาก ก็รู้สึกว่าดีใจที่ได้เลือกทั้งคนออกแบบและผู้รับเหมารายนี้ เพราะสมัยก่อนก็เคยเจอกับตัวเองเหมือนกันเรื่องผู้รับเหมาไม่เก็บงานนั่นนี่ แต่พอวันนี้รู้สึกดีมากที่เขาทำทุกอย่างโปร่งใสและเป็นไปตามขั้นตอน รายงานเราทุกวัน"
"ถามว่างบบานปลายหรือยัง ตอนนี้ติดปัญหาเรื่องงบทำสวนนี่แหละที่ยังไม่มี (หัวเราะ) แต่งบสร้างบ้านมีแล้ว เพราะเอางบทำสนามหญ้ามาโปะ ตอนนี้ก็เลยไม่มีสวน ก็เลยคิดว่าต้องหาเงินมาปูสนามหญ้าเองก่อน (หัวเราะ)"
"ถามว่ามีของที่เราอยากได้ไหม มันก็ไม่ได้อยากได้ทุกวัน คือเราคิดไว้อยู่แล้วว่าต้องมีอะไรบ้าง แต่เรายังไม่รู้ราคา คือก็คิดคร่าวๆ ว่าน่าจะราคานี้ แต่เอาจริงๆ มันมากกว่านั้นนิดนึง เราก็ไม่เป็นไรนิดนึงๆ แต่พอหลายๆ อย่างรวมกันค่าสวนก็หมดเลย ไม่อยากให้เกินงบไปเยอะ ก็ถ้ายังไม่มีค่าทำสวน ก็ค่อยๆ เก็บใหม่ สวนก็คงเอาแค่สนามหญ้าไปก่อน ถามว่าถึง 20 ล้านไหม ตอนนี้ยังไม่ถึงขนาดนั้น"
ใจมาหลังเห็นบ้านเป็นรูปเป็นร่าง ลั่นอยากใช้ของดี หวังอยู่ไปจนแก่
"ใช่ เพราะเจี๊ยบรู้สึกว่าบ้านเป็นสิ่งที่เราอยู่ทุกวัน คือเจี๊ยบเป็นคนที่ถ้าเลือกแล้วก็อยากใช้ของดีๆ ไม่ใช่ต้องใช้ของแพงนะ แต่ใช้ของดี ไม่ใช่ว่าใช้แล้วเปลี่ยน ไม่อยากให้เป็นปัญหานั้น ก็เลยจะเน้นอะไรที่เราใช้แล้วทนนานและคุ้มค่ากับระยะเวลาที่เราอยู่ เพราะเจี๊ยบไม่ได้คิดว่าจะอยู่บ้านนี้ 2 ปีแล้วขาย ก็คิดว่าจะอยู่จนแก่ ก็เลยคิดว่าเราควรจะลงทุน เพราะตอนเด็กๆ ก็เคยอยู่บ้านพ่อแม่มาก่อน เราก็จะเจอปัญหาเรื่องปลวก เรื่องน้ำรั่ว แล้วพอเรามีโอกาสได้สร้างบ้านตัวเองเรื่องอะไรที่เราเจอมาตั้งแต่เด็กเราก็ไม่อยากเจออีก เราก็เต็มที่กับพวกระบบพวกนี้เลย"
รับทะเลาะ "เดียร์" อีกฝ่ายไม่อนุญาตให้นำของเล่นบางชิ้นเข้าบ้าน
"ก็มีบ้าง เพราะตอนนี้ของเล่นเจี๊ยบบางชิ้นยังไม่ได้รับอนุญาตให้เอาเข้าบ้าน (หัวเราะ) คือตอนแรกจะเอาไปวางข้างๆ หิ้งพระ เขาก็บอกว่ามันไม่ดี จะเอาหุ่นตัวใหญ่ๆ ไปวางข้างพระได้ยังไง เราก็คิดว่าเหมือนอารักขาไง ตอนแรกวางข้างบันได แต่คนเดินมาเห็นตกใจตลอดเลย เพราะมันตัวเท่าคนเลย แล้วจะเอาไปวางข้างๆ พระก็กระไรอยู่ แต่มันก็ไม่มีที่แล้วไง เขาก็เลยบอกว่าเอาไว้ที่บ้านเดิมเถอะ นี่ยังมีอีกตัวนึงไซส์ใหญ่เหมือนกัน ยังหาที่ลงไม่ได้เลย"
"ถามว่ายอมไหม ก็ยอม แต่รอบ้านเสร็จก่อนนะเดี๋ยวอาจจะแอบไปวางไว้ตรงไหน (หัวเราะ) คือเราแบ่งกันเป็นโซน คือเขายกห้องนอนไว้ เผื่อเจี๊ยบอยากเอาอะไรไว้ในห้องนอน ส่วนห้องทำงานตอนแรกก็จะให้เป็นห้องทำงานเขา แต่เจี๊ยบจะยึดเองเอาของเล่นไปเก็บในห้องทำงานทั้งหมด ทีนี้ก็จะมีโซนออฟฟิศของเขา ซึ่งเราก็โอเค เพราะจริงๆ ของเจี๊ยบก็เยอะนะ ของเขาก็เยอะ แต่ของเล่นเราเยอะกว่า มันก็เลยไม่พอกับโซนที่เขาเอาไว้ให้ (หัวเราะ) เราก็เริ่มลามไปมุมของเขา เขาก็บอกว่าอุตส่าห์ทำบ้านสวยๆ เขาก็ไม่อยากให้บ้านออกมาเกรียน เพราะของเล่นเรามันคนละสไตล์กับของเขาเลย"
"ตอนนี้พวกสถาปัตย์ต่างๆ โครงสร้างน่าจะเสร็จสิงหาคมปีหน้า แต่อินทีเรียยังไม่รู้เมื่อไหร่ (จะแต่งเลยไหม?) ยังๆ นี่ก็หมดตัวเลยนะเนี่ย ขอเก็บเงินก่อน (หัวเราะ) ถามว่าเป็นเรือนหอไหม ขอสร้างสวนให้เสร็จก่อนด้วยนะ สวนยังไม่เสร็จเลย เดี๋ยวคอร์กี้เลอะดิน ยังไม่มีเงินปูหญ้าเลย"
ลั่นอยากแต่ง รอแค่กฎหมายรองรับ บอกออกพรุ่งนี้ก็แต่งพรุ่งนี้ ลั่นถูกริดรอนสิทธิ เพราะมีแฟนเพศเดียวกัน ตายแล้วจะยกมรดกให้ใคร
"เจี๊ยบก็อยากนะ ก็รอพร้อมก่อน อยากให้มีกฎหมายมารองรับ คือถ้ามีกฎหมายรองรับออกเมื่อไหร่ ถ้าสมมติออกพรุ่งนี้ก็แต่งพรุ่งนี้เลยนะ ถามว่าทำไมไม่แต่งที่เมืองนอกที่เขามีรองรับ แต่มันไม่รองรับที่นี่ไง (หัวเราะ) คือสำหรับคู่เจี๊ยบเราไม่ได้แต่งกันเพื่อที่จะประกาศว่าฉันมีความรักต่อกันมากมายอะไรนะ แต่เจี๊ยบคิดว่ามันเป็นสิทธิที่เราควรจะได้รับ อย่างต่างๆ ที่เราทำมามันมีปัญหาจริงๆ จากที่แต่ก่อนเราไม่เคยมาศึกษาเรื่องนี้ เรารู้สึกว่ามันไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่พอวันนึงที่เราใช้ชีวิต เราเริ่มโตขึ้นมันก็มีผล"
"อย่างเช่นเรื่องการกู้เงิน จะไปกู้บ้านมันก็มีปัญหาว่ากู้ในฐานะอะไร แทนที่เจี๊ยบจะได้สิทธิตามที่เจี๊ยบทำงานมา คือไม่ใช่คู่สามีภรรยากันก็ใช้สิทธิด้วยกันไม่ได้ ก็ถูกตัดมาว่าใช้ในส่วนนั้นไม่ได้ อย่างเช่นทำประกันชีวิตด้วย นี่ยังโชคดีที่มีบางเจ้าเขารองรับ เพราะไม่อย่างนั้นเวลาเสียชีวิตแล้วจะยกให้ใครล่ะ (หัวเราะ) เรื่องพวกนี้ก็จะถูกซักเยอะ มันน่าจะมีสิทธิที่รองรับตรงนี้ให้สามารถใช้ชีวิตได้เหมือนคู่ชายหญิงปกติ"
"เพราะเจี๊ยบว่าวันนี้มันไม่ได้มีแค่คู่ชายหญิงแล้ว ความรักมันเกิดขึ้นได้กับทุกคน และมันเป็นการวางแผนในอนาคตว่าสมมติเราตายไปเขาจะอยู่ยังไง เขาก็เป็นคนที่เรารักเหมือนกัน หรือการตัดสินในเรื่องของการรักษาพยาบาล เขาต้องให้ญาติสายตรงในการตัดสินใจ แต่คู่ที่เป็นแบบนี้เขาไม่ได้จดทะเบียน เพราะมันยังไม่มีอะไรรองรับ จะไปตัดสิทธิริดรอนได้ยังไงในเมื่อเขาเป็นคนที่ใช้ชีวิตกับเรามาตลอด เจี๊ยบว่าเรื่องนี้มันสำคัญ และเจี๊ยบก็เป็นประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่ไม่ได้ทำตัวเสียหายอะไร แต่ในสิทธิพวกนี้เจี๊ยบได้น้อยกว่าคนอื่น เจี๊ยบก็เลยอยากจะได้สิทธินั้นบ้าง"
"แต่ถ้ากฎหมายไม่ออก ไม่ใช่ว่าจะไม่แต่งหรอก เจี๊ยบว่าทุกวันนี้สังคมไทยมันเปิดกว้างมากขึ้นนะ เจี๊ยบเชื่อว่าอีกไม่นานก็น่าจะมีข่าวดีเร็วๆ นี้ หมายถึงว่าเขาจะออกกฎหมายนะ (หัวเราะ) เจี๊ยบเชื่อว่าอีกไม่นานถ้าทุกอย่างมันเข้าที่เข้าทาง เขาแก้ปัญหาทุกอย่างได้ เขาก็อาจจะนำไปพิจารณาและนำไปแก้ไขได้ เจี๊ยบเชื่อว่าวันนี้เราก็เปิดกว้างไปมากแล้ว ถามว่าจะจัดงานไปก่อนไหม อันนั้นก็เป็นเรื่องของอนาคต ก็ไว้ได้สวนเสร็จก่อนค่อยว่ากันใหม่"