>>ถ้าไม่ได้ฟังจากปากของ “ป้อง-วุฒิชัย หาญพานิช” ผู้ปลุกปั้นแบรนด์ Harnn ผลิตภัณฑ์โฮมสปาชั้นนำของไทยที่นำจิตวิญญาณแห่งเอเชียมาสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ คงไม่เชื่อว่าธุรกิจมูลค่ามหาศาลนี้จะเริ่มต้นจากเงินลงทุนเพียงไม่กี่บาท ที่สำคัญ ตั้งแต่วันแรกที่ทำแบรนด์จนถึงวันนี้ เขาไม่เคยมี Business Plan มีเพียงปรัชญาที่ฝังอยู่ในใจว่า “ทุกครั้งที่มีวิกฤต ย่อมมีโอกาสซ่อนอยู่”
ผู้บริหารหนุ่มพาย้อนไปสู่จุดเริ่มต้นของแบรนด์ว่าถือกำเนิดขึ้นหลังวิกฤตฟองสบู่ปี 40 ตอนนั้นเขาเป็นสถาปนิกหนุ่มไฟแรงอยู่ที่ฮ่องกง แต่เมื่อเศรษฐกิจไม่เป็นใจ วงการสถาปนิกไม่หอมหวานเหมือนเคย เขาก็ตัดสินใจกลับเมืองไทย เพื่อมองหาโอกาสใหม่ให้ชีวิต โดยตั้งใจจะกลับมาทำธุรกิจส่วนตัวที่ใช้เงินลงทุนที่มีไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน
“สมัยนั้นรุ่นพี่ที่เป็นดีไซเนอร์ สถาปนิกต่างหันมาทำเฟอร์นิเจอร์ ของแต่งบ้านเยอะ แต่ผมเองกลับสนใจธุรกิจสบู่ธรรมชาติ ซึ่งตอนนั้นในเมืองไทยยังไม่มีใครทำ แต่เริ่มบูมที่ยุโรปและออสเตรเลีย สูตรที่หาได้ตอนนั้นส่วนใหญ่มาจากยุโรปที่ใช้โอลีฟออยล์เป็นเบสซึ่งผู้ผลิตไทยทำตามคงไม่ได้ เพราะต้องนำเข้า ทำให้ต้นทุนการผลิตสูง ผมเลยกลับมามองหาสน้ำมันของไทย ก็ไปสะดุดที่น้ำมันรำข้าว ซึ่งมีการค้นคว้าแล้วว่ามีวิตามินอีธรรมชาติที่ดีต่อผิว”
การค้นพบในครั้งนั้น ทำให้อดีตสถาปนิกหนุ่มต้องสวมบทนักวิทยาศาสตร์จำเป็น โดยใช้ห้องครัวที่บ้านเป็นห้องทดลองเพื่อลองผิดลองถูกอยู่นาน จนในที่สุดความพยายามก็บรรลุผล เขาได้สูตรสบู่น้ำมันรำข้าวที่น่าพอใจจนสามารถต่อยอดไปสู่ธุรกิจที่วาดฝันได้
“พอได้สูตรมาแล้ว ผมไม่หยุดแค่นั้น ผมมาคิดว่าจะทำไงให้สบู่ของผมมีเอกลักษณ์แตกต่าง ผมนึกถึงสมุนไพรบ้านเราที่ผมคุ้นเคยตั้งแต่เด็กเพราะชอบตามคุณย่าเข้าครัว แล้วจึงนำภูมิปัญญาไทยเหล่านั้นกลับมาใส่ในสินค้า”
เพียงแค่เปิดตัวครั้งแรก สินค้าของป้องก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีออเดอร์เข้ามามากมาย “ผมเริ่มลงทุนซื้อเตาต้มสบู่เพิ่ม จ้างคนงานมาช่วยอีก 3 คน แต่ยังใช้ห้องครัวเป็นฐานการผลิตเช่นเดิม จนตอนหลังคุณพ่อไล่ออกจากบ้าน (หัวเราะ) ก็เลยไปเช่าบ้านเป็นโรงงานเล็กๆ ด้วยความที่ธุรกิจผมเริ่มต้นแบบโฮมเมดจริงๆ ทำให้ทุนตั้งต้นในการทำธุรกิจของผมไม่สูงนัก แต่ธุรกิจมีการเติบโตที่น่าพอใจ ช่วง 1-2 ปีแรก เราทำธุรกิจในลักษณะ OEM หรือรับจ้างผลิต ไม่มีแบรนด์เป็นของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม แม้เขาจะได้ชื่อว่าเป็นผู้ผลิตสบู่ธรรมชาติรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย แต่ป้องมักถามตัวเองเสมอว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้ธุรกิจนี้ยั่งยืน คำตอบที่ได้คือ การสร้างแบรนด์ของตัวเอง นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ Harnn
“เราคาดการณ์ตลาดไม่ผิดเลย พอเข้าสู่ปีที่ 3 มีคู่แข่งที่ผลิตสบู่ธรรมชาติเกิดขึ้นเป็นสิบราย เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่สร้างแบรนด์ ธุรกิจที่เราทำวันหนึ่งอาจล้มหายไป โดยในช่วงแรกที่สร้างแบรนด์ เราตัดสินใจลดสัดส่วน OEM ลงจนกระทั่งปีต่อมาเราตัดสินใจผลิตเฉพาะภายใต้แบรนด์เราเท่านั้น ถามว่าเสี่ยงมั้ย เสี่ยงนะ แต่เรามองว่าจะดีกับธุรกิจในระยะยาว”
ระหว่างที่ปลุกปั้นแบรนด์ ป้องบอกว่าเขาไม่เคยหยุดที่จะเรียนรู้ เขาเฝ้าศึกษาพฤติกรรมของลูกค้าจนพบว่าร้านที่ออเดอร์สินค้าไปแล้วขายดี คือ ร้านที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบแพกเกจจิ้ง ใช้วิธีการห่อสบู่ที่น่าสนใจมาดึงดูดลูกค้ารวมทั้งออกแบบร้านให้สวย จัดวางสินค้าให้ดี ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เขาเก็บเกี่ยวมาเพื่อต่อยอดและพัฒนาแบรนด์จนเป็นอย่างที่เห็นทุกวันนี้
พอแบรนด์เริ่มอยู่ตัว ผู้บริหารหนุ่มเริ่มคิดการใหญ่ว่า ถ้า Harnn มีชอปของตัวเองจะรอดมั้ย? เขาเริ่มหาคำตอบด้วยการทยอยติดต่อศูนย์การค้าต่างๆ ปรากฏว่าถูกปฏิเสธหมด สุดท้ายโชคดีไปได้พื้นที่เปิดชอปเล็กๆ ที่พัทยาและสนามบินดอนเมือง ซึ่งทั้งสองชอปนี้ไม่เพียงได้รับกระแสตอบรับดีแต่ยังได้มอบโอกาสครั้งสำคัญให้กับแบรนด์อีกด้วย
“มีสามีภรรยาต่างชาติคู่หนึ่งมาเห็นสินค้าของเราที่ดอนเมือง เขาไม่เพียงซื้อกลับไปเยอะมาก หลายวันต่อมายังติดต่อมาว่าขอนำแบรนด์เราไปเปิดชอปที่ปารีสซึ่งเราก็ยินดี ถือเป็นการเปิดชอปแรกของเราที่ต่างประเทศ หลังจากนั้นเราก็ทยอยเปิดชอปทั้งในต่างประเทศเรื่อยมา จนปัจจุบันมี 65 ชอป ใน 15 ประเทศ”
ถามว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้แบรนด์มาได้ไกลขนาดนี้ ป้องบอกว่านอกจากตัวสินค้าที่แตกต่าง มีความยูนีค ยังเกิดจากมุมมองการทำธุรกิจแบบครบวงจร ไม่ได้มองแต่ตัวสินค้า แต่เน้นพัฒนาคนในองค์กร การตลาด พนักงานหน้าร้าน ดิสเพลย์ของร้าน เป็นต้น แต่กว่าจะกำหนดกรอบให้ทุกอย่างที่กล่าวมาลงตัวนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
“ผมเชื่อว่าอุปสรรคเกิดขึ้นได้ทุกวัน ถ้าใครทำธุรกิจแล้วบอกว่าไม่มีอุปสรรค ผมว่าตายแน่นอนเพราะอุปสรรคคือ สิ่งที่จะทำให้เราพัฒนาต่อเนื่อง ทำให้แบรนด์ของเราเข้มแข็งขึ้น ตัวผมเริ่มต้นธุรกิจด้วยเงินไม่ถึง 1 ล้านบาท ทุกวันนี้จะขยายสาขาก็ไม่ได้ใช้เงินมาก ผมอาศัยเอากำไรที่ได้มาต่อยอดธุรกิจ ผมไม่ได้มีเงินทุนมหาศาลมาสร้างโรงงาน ซื้อเครื่องจักร ซึ่งนี่อาจจะเป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง เพราะทำให้ผมไม่ได้มองตัวเองว่าเป็นผู้ผลิต เราลงทุนกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์เราจึงไปได้ไกล เรามีซัปพลายเออร์จากทั่วโลกพร้อมจะนำเสนอไอเดียสดใหม่ให้เรา เรามีหน้าที่ชอปปิ้งไอเดียที่น่าสนใจมาใส่ในสินค้าเรา”
ป้องทิ้งท้ายอย่างน่าสนใจว่า 17 ปีที่โลดแล่นในวงการธุรกิจ เขาไม่เคยมี Business Plan เพราะเขาอยากทำธุรกิจแบบเป็นธรรมชาติที่สุด โดยเลือกทำในสิ่งที่ดีที่สุด และวันนี้การเติบโตของแบรนด์ Harnn คงเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า ความพยายามที่ผ่านมาของเขาไม่สูญเปล่า
มาปั้นธุรกิจของตัวเองกันเถอะ
1.ก่อนอื่นต้องถามตัวเองก่อนว่าชอบหรือรักที่จะทำอะไร เพราะถ้าได้ทำในสิ่งที่ชอบคุณจะสามารถทำสิ่งนั้นได้ตลอดชีวิต
2.อย่าวิ่งหนี แต่ให้วิ่งหาอุปสรรคให้มากที่สุด เพราะยิ่งพบกับอุปสรรคยิ่งทำให้เราได้พัฒนาธุรกิจ พัฒนาศักยภาพของตัวเองมากขึ้นเท่านั้น
3.ลองหาธุรกิจอะไรที่แปลกใหม่ คนอื่นไม่ทำ เพราะถ้ามัวทำตามคนอื่น เราต้องเหนื่อยกับการวิ่งตามคนอื่นไปตลอด :: Text by FLASH
