หน้าร้อนอย่างนี้เมนูคลายร้อนที่ร้านอาหารไทยหลาย ๆ แห่งขาดไม่ได้ก็คือ “ ข้าวแช่” อาหารหน้าร้อนหอมเย็นชื่นใจภูมิปัญญาของคนไทยที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี สำหรับปีนี้ร้านSiam Wisdom ได้ข้าวแช่สูตรเด็ด“ข้าวแช่สราญรมย์” (350 บาท ++) มาเสิร์ฟเป็นมื้อพิเศษตลอดช่วงหน้าร้อนนี้ (จนถึงสิ้นเดือนเมษายน)
เมื่อเอ่ยถึง”ข้าวแช่สราญรมย์” นักชิมข้าวแช่หลายคนต้องรู้จักและเคยลิ้มลองความอร่อยกันมาบ้างแล้ว เจ้าของร้านสราญรมย์ซึ่งเป็นเจ้าของสูตรข้าวแช่คือ อนันต์โรจน์ ทังสุพานิช ซึ่งบอกที่มาของความอร่อยว่าได้เก็บสิ่งละอันพันละน้อยมาจากตระกูลเก่าที่มีชื่อในการทำข้าวแช่ ทั้งลูกกะปิ พริกหยวก แม้กระทั่งการทำหรุ่มที่สวยงาม แล้วปรุงให้ อ.จักรพันธุ์ โปษยกฤต ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ ชิมอยู่เป็นประจำจนกระทั่งวันหนึ่ง อ.จักรพันธุ์ได้เอ่ยปากว่า”รสชาติอร่อยมาก ทำขายได้แล้ว” จากนั้นเป็นต้นมาทุก ๆ หน้าร้อนที่ร้านสราญรมย์ สุขุมวิท31จะต้องมีข้าวแช่เพื่อคลายร้อนให้กับลูกค้าอยู่ประจำ
แม้ว่าร้านสราญรมย์จะเลิกกิจการไปหลายปีแล้วแต่ก็ยังมีลูกค้าประจำเรียกร้องจนปีนี้ร้าน Siam Wisdom จึงเปิดครัวต้อนรับสำรับข้าวแช่สราญรมย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ข้าวแช่สราญรมย์ประกอบด้วย ข้าวลอยน้ำดอกมะลิ ดอกชมนาดและอบเทียนอีกเล็กน้อยเพื่อให้กลิ่นหอมละมุน ส่วนเครื่อง “กับข้าวแช่” มีด้วยกัน 6 อย่าง คือลูกกะปิ ปลายี่สนผัดหวาน ไชโป้วผัดหวาน ซึ่งทั้ง 3 อย่างนี้คือสูตรดั้งเดิมของข้าวแช่เมืองเพชร และที่เพิ่มขึ้นมาคือ พริกหยวกยัดไส้ หอมแดงยัดไส้ หมูเค็มผัดหวาน ซึ่งแต่ละอย่างนั้นล้วนเลือกใช้วัตถุดิบชั้นดีจากแหล่งที่มีชื่อเสียง ประกอบกับเคล็ดลับของส่วนผสมที่ลงตัว ขั้นตอนการทำที่ประณีต จึงทำให้ข้าวแช่สราญรมย์มีความอร่อยจนเป็นที่ติดใจของลูกค้า
ความอร่อยของข้าวแช่นั้นนอกจากจะให้ความหอมจากน้ำลอยดอกไม้ที่ใส่น้ำแข็งเย็นชื่นใจแล้ว เครื่องข้าวแช่ทั้ง 6 อย่างซึ่งมีรสชาติทั้งหวาน มัน และเค็ม เมื่อทานรวมกันจะให้ความหอมอร่อยกลมกล่อม และภูมิปัญญาโบราณของคนไทยที่ใช้ผักหลากรสชาติทั้งรสร้อนแรงอย่างกระชายดอกจำปี รสเย็นแบบแตงกวา เปรี้ยวแบบมะม่วง รสฉุนอย่างต้นหอมหยิก มาช่วยเสริมให้ข้าวแช่มีรสชาติอร่อยแบบลงตัว
นอกจากข้าวแช่แล้ว อีกสำรับหนึ่งที่ขอแนะนำว่าห้ามพลาดเช่นกันคือ “ข้าวมันส้มตำ” ( 280 บาท++) เมนูโบราณที่ปัจจุบันหาทานแบบครบเครื่องยากเย็นแสนเข็ญ สำหรับข้าวมันส้มตำที่ร้าน Siam Wisdom ต้องบอกว่าครบสูตรจริง ๆ เพราะผู้เขียนคิดว่ามีเพียงข้าวมันกับส้มตำเท่านั้น แต่โบราณให้ทานคู่กับแกงเผ็ดไก่หน่อไม้ หมูฝอย น้ำพริกผัดส้มมะขามและ ใบชะพลู ใบเล็บครุฑชุบแป้งทอด
ส้มตำที่ทานกับข้าวมันนั้นแตกต่างจากส้มตำที่ทานกันทั่วไปที่เรียกว่าส้มตำลาว สำหรับส้มตำที่กินกับข้าวมันจะใช้ความเปรี้ยวจากมะขามที่ไม่เปรี้ยวแหลมเหมือนมะนาว ใส่พริกแห้งแทนพริกขี้หนูสด และไม่ใส่ถั่วฝักยาว รสชาติของส้มตำครกนี้ต้องออกรสเปรี้ยวหวานละมุนเพื่อตัดความเลี่ยนมันของข้าวมันที่หุงด้วยกะทิ
ส่วนสำรับอื่น ๆ คือแกงเผ็ดไก่ก็ไม่เผ็ดจัดจ้านแต่ให้รสชาติความละมุนของพริกแกงที่โขลกวันต่อวัน กินคู่กับหมูฝอย น้ำพริกผัดส้มมะขามและ ใบชะพลู ใบเล็บครุฑชุบแป้งทอด ตักโน่นคำนี่คำกินเผลอแป๊บเดียวอร่อยจนหมดสำรับเลย
Siam Wisdom เป็นร้านอาหารไทยแบบFine Dining ที่พยายามอนุรักษ์อาหารไทยโบราณให้คงอยู่ ที่นี่จึงเสิร์ฟแต่อาหารไทยที่ล้วนหาทานได้ยาก ตั้งอยู่ เลขที่66 ซอยสุขุมวิท 31 ถนนสุขุมวิท คลองตันเหนือ , วัฒนา , กรุงเทพมหานคร 10110 โทร 02-260-7811 เปิดบริการ 12.00-14.00 และ 18.00-22.30 น.
