xs
xsm
sm
md
lg

เปิดตัว เอ-อัครพล เลือดใหม่ของ “ เจียรวนนท์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอ-อัครพล เจียรวนนท์ - 谢超 - xie chao
ชื่อรถยนต์ MAXUS อาจจะยังดูใหม่เกินไปสำหรับคนไทย และ เอ-อัครพล เจียรวนนท์ ก็ยังคงเด็กเกินไปสำหรับแวดวงวงการธุรกิจ แต่อีกไม่นานชื่อทั้ง 2 นี้จะต้องติดปากคนไทยแน่นอน เพราะเอ-อัครพล ทายาทรุ่นใหม่ของตระกูลมหาเศรษฐีหมื่นล้านบาทคนนี้ที่ชอบรถยนต์เป็นชีวิตจิตใจกำลังเร่งเครื่องเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจใหม่นี้ให้ติดตลาด

 
เอ-อัครพล เจียรวนนท์ ลูกชายของ นพดล-อมรา เจียรวนนท์ และเป็นหลานปู่คนโตของเจ้าสัวจรัญ-คุณหญิงเอื้อปราณี เจียรวนนท์ เป็นทายาทรุ่นใหม่ที่น่าจับตามองของ “เจียรวนนท์” ตระกูลมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของเมืองไทย ด้วยบุคคลิกโดดเด่นของหนุ่มน้อยวัยเพียง 25 ปีที่ขณะนี้กำลังฝึกงานอยู่กับคุณพ่อนพดลที่เป็นรองประธานกลุ่มธุรกิจยานยนต์และอุตสาหกรรม บริษัท อี.ซี.ไอ. กรุ๊ป จำกัด ในเครือ ซีพี ซึ่งผลิตรถยนต์ยี่ห้อ ”เอ็มจี” และนำเข้ารถตู้ MAXUS
การวางตัวให้หนุ่มหน้าใสคนนี้เข้ามาเป็นถึงผู้ช่วยรองประธานกรรมการกลุ่มธุรกิจยานยนต์และอุตสาหกรรมเครือซีพี ย่อมไม่ได้เป็นเพียงเพื่อสร้างสีสัน หรือสร้างข่าวหวือหวาไปวันๆ บนหน้าสื่อ หากแต่จัดวางตัวตามความเหมาะสม เพื่อให้มาเสริมสร้างความแข็งแกร่งธุรกิจด้านอุตสาหกรรมนั่นเอง

 
ความสนใจเรื่องการทำธุรกิจมาของหนุ่มเอ เริ่มต้นตั้งแต่เด็ก เพราะมีโอกาสได้ติดตามพ่อทำงาน-ทานข้าว เล่นกีฬากับเพื่อนนักธุรกิจตลอด ทำให้ได้เห็นวิธีการทำงาน วิธีคิดเรื่องการติดต่อการค้าโดยปริยาย “ผมเห็นแล้วชอบ อยากเก่งเหมือนคุณปู่กับคุณพ่อ ก็พยายามจดจำ เวลาสงสัยก็ถาม คิดอยากให้เป็นอย่างไรก็เสนอ ผมเป็นคนที่พูดมากถามมากจนถูกดุบ่อยๆ พอเข้ามาช่วยงานของครอบครัวคุณปู่-คุณย่า คุณธนินทร์ คุณพ่อ คุณแม่บอกเสมออยากทำอะไรก็ทำ แต่ต้องเป็นงานสุจริต ส่วนเรื่องการใช้ชีวิตที่ครอบครัวเน้นมากๆคือเรื่องความซื่อสัตย์ ประหยัด และขยัน สามข้อนี้เป็นหลักสำคัญที่พวกลูกหลานนำมาใช้ในการทำงานตลอด”

 
และเช่นเดียวกับกฏเหล็กในการหล่อหลอมของคนในตระกูลให้ซึมซับเรื่องธุรกิจ ในเครือ โดยลูกหลานทุกคนจะต้องผ่านการเคี่ยวกรำความยากลำบากมาก่อน เอ-อัครพล เล่าว่าระหว่างเรียน Information management system มหาวิทยาลัย Shanghai Ocean University ของจีน เมื่อโรงเรียนปิดเทอม เขาถูกมอบหมายภาระกิจให้กลับมาฝึกงานที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลเว่น ครั้งนั้นเขาต้องเปลี่ยนมาใช้นามสกุล “รจณ์ไพบูลย์” ของคุณแม่อมราชั่วคราว เพื่อไม่ให้พนักงานรู้ว่าเขาคือทายาทของเจ้าสัว
ที่นั่นเขาถูกใช้ทำงานทุกอย่างเหมือนพนักงานทั่วไป ตั้งแต่กวาดพื้น ล้างส้วม แบกของ เรียงสินค้า เช็คสต๊อก เก็บเงิน
 
“ผมมีความสุขมากๆ ที่ได้สัมผัสงานตรงนั้น ผมไม่รู้สึกลำบากอะไรนะครับ คงเพราะชิน ไปเรียนอเมริกาตั้งแต่อายุ 15 คนเดียวก็ต้องทำงานหนักมาก่อนแล้ว ที่เซเว่นฯทำให้ผมได้ประสบการณ์หลายๆอย่าง ได้พบพี่ๆเพื่อนๆที่นั้น ผมประทับใจที่เขาสอนงาน ได้แบ่งปันทุกข์สุขกัน ตอนหลังพอเขารู้ว่าผมเป็นหลานคุณปู่ ก็มาขอโทษที่บางครั้งอาจเผลอทำอะไรไม่ดี ซึ่งผมก็อธิบายว่านี่คือการทำงาน ผมไม่เคยคิดมาใช้อำนาจบาตรใหญ่อะไรตรงนี้ เพราะทางครอบครัวก็ไม่ชอบให้ลูก-หลานลืมตัวใช้อำนาจข่มคนในทางที่ไม่ถูกต้องอยู่แล้ว”

 
ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ “เอ” เข้ามาทำงานให้ครอบครัวนั้นเขามีความสุขและสนุกกับการทำงานมาก ส่วนปัญหาและอุปสรรคในการทำงานอื่นๆนั้น “เอ” บอกว่ายังไม่เคยเจอเรื่องแรงๆ ที่ทำให้รู้สึกเครียดหรือกดดันตัวเองเลย เพราะหน้าที่ในตำแหน่งจัดซื้อของบริษัท แม็คซัส มอเตอร์ (ไทยแลนด์) ซึ่งเป็นงานเจรจาต่อรอง และส่วนใหญ่ได้พบปะกับนักธุรกิจจีนนั้น ก็เป็นงานถนัดของเขา "โชคดีที่ผมได้ไปเรียนทั้งที่อเมริกาและจีน ทำให้ได้เรียนวัฒนธรรมและสไตล์ของคน 2 ประเทศว่าเป็นอย่างไร รู้ว่าคนจีนมีคุณธรรม ซื่อสัตย์ตรงไปตรงมาทำให้ไม่มีปัญหาอะไร"

ด้วยวัยเพียง 25 ปี ทำไมเอ-อัครพลจึงถูกดันให้มารับผิดชอบธุรกิจสายรถยนต์ของกลุ่มซีพี อาจจะเป็นเพราะเขาเป็นคนบ้ารถยนต์มาก!! นั่นเอง

เพราะเมื่อพูดถึงเรื่องรถ ดวงตาของหนุ่มน้อยคนนี้ก็เป็นประกายสดใสบ่งบอกถึงความสุขทันที “เอ” บอกว่าเขาชอบรถ ชอบแต่งรถ ชอบฟังเสียงเวลาสตาร์ทรถ ชอบฟังเสียงท่อไอเสียรถ เพราะทุกครั้งที่ได้ฟังแล้ว เขามีความสุขอย่างมาก เขาเป็นคนสัมผัสรถยนต์ด้วยใจจริง ๆ

"รถแต่ละยี่ห้อจะดังไม่เหมือนกัน เสียงที่ผมชอบจะเป็นแบบไม่ต้องดังมาก แต่ต้องหนักแน่น ฟังแล้วให้ความรู้สึกเหมือนเขาเป็นคนสุขุม ที่ประทับใจมากเป็นของคุณพ่อ ตอนนั้นยังเด็กแต่จำแม่นว่า ได้ยินครั้งแรกก็ประทับใจ ฝังใจตั้งแต่นั้นมา พอคุณพ่อจะขายผมก็ขอ คุณพ่อบอกถ้าผมขับเป็นพ่อจะยกให้ ผมก็หัดขับวันนั้นเลย 30 นาทีขับให้พ่อดู พ่อถึงยอมยกให้ตอนนี้ถ้าวันไหนว่าง ก็ยังใช้คันนี้อยู่นะครับ เสียงของเขายังมีเสน่ห์สำหรับผมตลอด"

 
เอ ยังเปรียบเทียบการแต่งรถของเขาว่า เหมือนกับผู้หญิงเวลาแต่งหน้า คือหน้าเดิมแต่ต้องทาปาก เติมมาสคาร่า ขนตาปลอมเพื่อให้สวยมากขึ้น ส่วนการสะสมรถยนต์เขาเชื่อว่า ความรู้สึกก็คงไม่ต่างจากคนที่ชอบสะสมกระเป๋า-รองเท้าแบรนด์เนมชื่ออย่างแน่นอน
 
รอยยิ้มและดวงตาสดใส ทำให้เราอดถามถึงอนาคตการมีครอบครัวของเขาไม่ได้ ซึ่งเขาตอบชัดเจนว่า ณ วันนี้ยังไม่เจอสาวที่ใช่ ดังนั้นจึงขอใช้ชีวิตโสดอยู่กับงานและครอบครัวก่อน ส่วนสาวในสเป็คของเขานั้น ขอให้เป็นหญิงที่สวยเหมือนคุณแม่ สวยธรรมชาติ มรรยาทเรียบร้อยก็เพียงพอแล้ว สายเลือดซีพี เอ-อัครพล เจียรวนนท์ กล่าวทิ้งท้าย

กำลังโหลดความคิดเห็น