>>บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย โชว์สมรรถนะของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ในกิจกรรม BMW xDrive Xperience 2015 ซึ่งจัดขึ้นที่ “ไทย โปโล แอนด์ อีเควสเทรียน คลับ พัทยา” จังหวัดชลบุรี โดยเปิดโอกาสให้ Celeb Online ร่วมทดลองขับรถยนต์ Sports Activity Vehicle (SAV) สองรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยระบบ xDrive ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d และบีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive30d M Sport ท่ามกลางวิวทิวทัศน์อันงดงามของเมืองพัทยา เพื่อพิสูจน์ถึงความคล่องตัว ปลอดภัย และอเนกประสงค์ของรถยนต์ตระกูล xDrive บนเส้นทางที่จัดเตรียมเพื่อยนตรกรรมสายพันธุ์สปอร์ตนี้โดยเฉพาะ
บีเอ็มดับเบิลยู xDrive ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ บีเอ็มดับเบิลยู xDrive สามารถปรับการทำงานให้เข้ากับทุกสภาพการขับขี่ พร้อมฝ่าอุปสรรคสุดท้าทายด้วยสมรรถนะการเกาะถนนที่ยอดเยี่ยม
เซ็นเซอร์ในระบบบีเอ็มดับเบิลยู xDrive จะทำหน้าที่ในการตรวจจับสภาพการขับขี่อย่างต่อเนื่อง และกระจายแรงขับระหว่างล้อหน้าและล้อหลังแบบอัตโนมัติตลอดเวลา ผ่านการคำนวณโดยระบบอัจฉริยะ ซึ่งอาศัยข้อมูลต่างๆ ทั้งความเร็วรถ อัตราการหมุนของล้อ องศาของพวงมาลัย ตำแหน่งของคันเร่ง เพื่อวิเคราะห์การตอบสนองระหว่างล้อหน้าและล้อหลังให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ขับขี่และสภาพท้องถนนได้อย่างลงตัว
ระบบบีเอ็มดับเบิลยู xDrive สามารถถ่ายกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังเพลาล้อข้างที่ยึดเกาะถนนได้ดีที่สุดในทันที โดยไม่ทำให้ตัวรถมีอาการสะดุดแต่อย่างใด ระบบส่งกำลังและคลัตช์แบบ Multiple-Plate ที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ สามารถถ่ายแรงบิดเกือบทั้งหมดจากเครื่องยนต์ไปยังเพลาหน้าหรือเพลาหลังได้ภายในเวลาเพียง 0.1 วินาที ก่อนที่จะกลับสู่การถ่ายกำลังที่อัตราส่วน 40:60 ตามปกติ ส่งผลให้ระบบขับเคลื่อน xDrive มีสมรรถนะในการเกาะถนนและการทรงตัวยอดเยี่ยมในทุกสภาวะอากาศและสภาพการขับขี่
นอกจากนี้ ยังสามารถปรับการทำงานเพื่อเพิ่มสมรรถนะการทรงตัวขณะเข้าโค้ง ป้องกันการเกิดอาการไวโค้งหรือดื้อโค้ง มอบความมั่นใจไร้กังวลในทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีล้ำยุคนี้ บีเอ็มดับเบิลยูจึงมอบประสบการณ์การขับขี่สุดอัจฉริยะด้วยสมรรถนะของรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อพันธุ์แท้ ทั้งความแม่นยำในการควบคุม การเข้าโค้ง รวมถึงการแยกระบบการทำงานในส่วนของเครื่องยนต์และการขับขี่ออกจากกัน
สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู X3 รุ่นปรับโฉมใหม่ด้วยขนาดของตัวรถที่มีมิติในระดับกลางเมื่อเทียบกับบีเอ็มดับเบิลยู X5 รวมถึงความสามารถในการควบคุมรถที่ปราดเปรียว บีเอ็มดับเบิลยู X3 รุ่นปรับโฉมใหม่จึงเป็นสุดยอดยนตรกรรมระดับพรีเมียมเมื่อเทียบกับรถยนต์ประเภทเดียวกันอย่างแท้จริง บีเอ็มดับเบิลยู X3 เจเนอเรชันล่าสุดได้พัฒนาเอกลักษณ์อันโดดเด่นของรุ่นก่อนหน้าทั้งในด้านการขับขี่ที่นุ่มสบาย และการปรับใช้งานในหลากหลายสถานการณ์
โครงสร้างของบีเอ็มดับเบิลยู X3 ทำให้ตัวรถมีความคล่องตัวขณะขับขี่ในเมืองและยามเข้าโค้ง นั่งสบายและปลอดภัยแม้ในสภาพการขับขี่ที่ท้าทาย ทั้งยังทรงตัวได้นิ่งที่ความเร็วสูง ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ บีเอ็มดับเบิลยู xDrive ช่วยให้ตัวรถเกาะถนนอยู่เสมอในทุกสภาพอากาศ จึงทำให้รถยนต์อเนกประสงค์รุ่นนี้สมบูรณ์แบบสำหรับทั้งการขับขี่ทั่วไปในชีวิตประจำวันและทริปทางไกลที่ท้าทาย
ด้วยรูปลักษณ์แข็งแกร่งสไตล์บีเอ็มดับเบิลยู X ซีรีส์ ห้องโดยสารที่หรูหราผ่านการเลือกใช้วัสดุระดับพรีเมียม รวมไปถึงขุมกำลังดีเซลของบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d ที่มาพร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ที่มอบประสิทธิภาพในการประหยัดเชื้อเพลิงอย่างน่าประทับใจ
บีเอ็มดับเบิลยู X3 รุ่นปรับโฉมใหม่ มาพร้อมกับดีไซน์แบบสปอร์ตที่ดูทรงพลังด้วยแผงกันชนหน้า ช่องระบายอากาศหน้ากว้าง และกระจังหน้าไตคู่อันโดดเด่น ประกบข้างด้วยไฟหน้าที่มีให้เลือกทั้งในแบบซีนอนและแอลอีดี พร้อมชุดสัญญาณไฟเลี้ยวที่ติดตั้งไว้ทั้งภายในชุดไฟหน้าและกระจกมองข้าง และไฟตัดหมอกที่เลือกติดตั้งในแบบแอลอีดีได้เช่นกัน
ไม่เพียงรูปลักษณ์ที่สง่างาม บีเอ็มดับเบิลยู X3 รุ่นปรับโฉมใหม่ ยังมาพร้อมกับความสามารถอเนกประสงค์อันโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นการบรรทุกสัมภาระขนาดใหญ่หรือการบรรทุกทั่วไปสำหรับการใช้งานประจำวัน ก็สามารถทำได้อย่างไร้อุปสรรคด้วยการออกแบบกรอบประตูเก็บสัมภาระให้มีระดับต่ำ พร้อมกันนั้นฝากระโปรงหลังยังทำงานด้วยระบบไฟฟ้า พื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวางที่สุดเมื่อเทียบกับรถยนต์ประเภทเดียวกัน (550 ลิตร) ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู X3 สามารถตอบโจทย์ทุกการใช้งานได้อย่างแท้จริง
ขุมพลังดีเซลของบีเอ็มดับเบิลยู X3 สะท้อนถึงตำแหน่งผู้นำของบีเอ็มดับเบิลยูด้านผู้ผลิตเครื่องยนต์ที่เปี่ยมสมรรถนะและประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานยอดเยี่ยม ด้วยแรงบิดและกำลังเครื่องยนต์ที่มากถึง 190 แรงม้า มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ตื่นเต้นสนุกสนาน โดยมีการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเพียง 20 กม.ต่อลิตร
นอกจากนี้ เครื่องยนต์บีเอ็มดับเบิลยู xDrive20d สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม.ต่อชม.ได้อย่างน่าประทับใจเพียง 8.1 วินาที และมีการปล่อยก๊าซ CO2 เพียง 131 กรัมต่อกม. ส่งผลให้บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d เป็นยนตรกรรมที่โดดเด่นเหนือระดับท่ามกลางรถยนต์ประเภทเดียวกันอย่างแท้จริง
ส่วน บีเอ็มดับเบิลยู X5 สร้างมาตรฐานใหม่ของรถยนต์ Sports Activity Vehicle อีกครั้งในเจเนอเรชันที่ 3 ด้วยความหรูหรารอบด้าน พร้อมรองรับทุกความต้องการ และเทคโนโลยีอัจฉริยะมากมายที่ยกระดับทั้งสมรรถนะการขับขี่ ความนุ่มสบาย และการใช้งานแบบอเนกประสงค์ ทั้งบนท้องถนนและยามขับขี่ออฟโรด
รูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวและสมรรถนะขับเคลื่อนเฉพาะตัว ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู X5 เป็นสมาชิกรถยนต์ตระกูล X ของบีเอ็มดับเบิลยูอย่างแท้จริง โดยมาพร้อมดีไซน์ใหม่ที่มอบความโดดเด่นสง่างามและเสริมประโยชน์ใช้สอยตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์
รูปลักษณ์ใหม่ของบีเอ็มดับเบิลยู X5 ได้รับการออกแบบโดยมุ่งเน้นสมรรถนะทางอากาศพลศาสตร์ โดยไม่ทิ้งความโดดเด่นทั้งจากด้านหน้า ด้านหลัง และด้านข้าง จึงเป็นงานดีไซน์ที่ผสมผสานทั้งความสวยงามและการใช้งานเข้าไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ
กระจังหน้าแนวตั้งพร้อมสัญลักษณ์ ‘ไตคู่’ ขนาดใหญ่ พร้อมช่อง Aero Curtain ที่กระโปรงหน้า และช่องระบายอากาศ Air Breather ที่บริเวณซุ้มล้อหน้า ล้วนขับเน้นความสปอร์ตของตัวรถ ทั้งยังเพิ่มความประหยัดน้ำมันและลดระดับการคายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงอีกด้วย ส่วนด้านท้ายรถก็ยังคงออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์เช่นกัน ด้วย Air Blade บริเวณกระจกหลัง ที่ช่วยให้ตัวรถทั้งดูกว้างและลดแรงต้านของอากาศไปพร้อมๆ กัน
บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive30d M Sport มาพร้อมกับเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ขุมกำลังดีเซล 6 สูบ ซึ่งได้รับการพัฒนาในทุกรายละเอียดเพื่อมอบความสมดุลระหว่างสมรรถนะการขับขี่และประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานให้ดียิ่งขึ้น เครื่องยนต์ขนาด 3.0 ลิตร
เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ซึ่งประกอบด้วยเทอร์โบชาร์จ VNT และระบบหัวฉีดคอมมอนเรล มอบกำลังมากถึง 160 กิโลวัตต์/218 แรงม้า โดยมีแรงบิดสูงสุดที่ 560 นิวตันเมตร ที่ 1,500 ถึง 2,000 รอบต่อนาที เครื่องยนต์สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม.ต่อชม.ได้ภายในเวลาเพียง 7.8 วินาที โดยมีอัตราการประหยัดพลังงานเฉลี่ยที่ 16.9 กม.ต่อลิตร และลดการปล่อยก๊าซ CO2 อยู่ที่ 156 กรัมต่อกม.
บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive30d M Sport ขับเน้นเอกลักษณ์ความสปอร์ตของบีเอ็มดับเบิลยู X5 ด้วยชุดกันชนและบันไดสีเดียวกับตัวถัง พร้อมด้วยโลโก้ M ที่พื้นบันไดข้าง ส่วนกระโปรงหน้ามีช่องอากาศที่ใหญ่เป็นพิเศษ กรอบประตูแบบติดตั้งแถบไฟ และกระโปรงหลังพร้อมดิฟฟิวเซอร์ ช่วยควบคุมแรงกดที่เพลาหลังขณะขับขี่ที่ความเร็วสูง เสริมความสปอร์ตไปพร้อมกับช่วงล่างแบบ Adaptive M (พร้อมเทคโนโลยี Dynamic Damping Control และระบบกันกระแทกแบบถุงลม) ชุดล้ออัลลอยน้ำหนักเบา M Double Spoke 469 ขนาด 20 นิ้ว พร้อมยางรถยนต์ต่างขนาดหน้า-หลัง
นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive30d M Sport มาพร้อมกับฟังก์ชันแจ้งสถานะของระบบ xDrive ในรูปแบบกราฟิกสามมิติบนหน้าจอ ซึ่งจะแสดงตำแหน่งองศาของตัวรถในแนวนอนและแนวตั้งแบบเรียลไทม์ รวมถึงแสดงเข็มทิศบนแผงหน้าปัดอีกด้วย :: Text by FLASH
