“ผมเป็นคนไม่ชอบสังคม เวลาว่างชอบอยู่กับตัวเองและครอบครัว แต่ถ้านึกเบื่อได้ออกกำลังกายหรืออ่านหนังสือดีๆ ซักเล่ม ที่สามารถช่วยแก้ปัญหาหรือสร้างความรู้ใหม่ๆ นั่นคือ ความสุขมากมายของผมแล้ว” นี่คือหนึ่งในความคิด ระหว่างที่ได้พูดคุยกับสถาปนิกหนุ่มหล่อ ถวนันท์ ธเนศเดชสุนทร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเวล เดเวลลอปเมนท์ จำกัด ในวันว่างกับกิจกรรมกึ่งสันโดษ
ปอ-ถวนันท์ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของคุณแม่เซเลบคนดัง อย่าง อัมพาพันธ์ (คงสมพงษ์) ธเนศเดชสุนทร เป็นอีกหนึ่งหนุ่มที่น่าจับตา จากความสามารถที่โดดเด่น ทำให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานตั้งแต่อายุยังน้อย ขณะที่ส่วนตัวใช้ชีวิตเรียบง่ายพิถีพิถัน
ปอในท่วงท่าสบายๆ เล่าย้อนถึงอดีตในวัยเด็กว่า แม้จะเติบโตมาในครอบครัวทหารชั้นผู้ใหญ่ในฐานะ “ลูกเลี้ยง” ของ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ หรือ ”บิ๊กจ๊อด” ประธาน รสช. ผู้เรืองอำนาจในยุคหนึ่ง แต่เขากลับชื่นชอบเรื่องการออกแบบงานศิลปะมากกว่า
“จริงๆ แล้วทั้งแม่และลุง (พล.อ.สุนทร) ก็อยากให้เป็นทหาร เพราะตอนเด็กเวลามีอะไรมากระทบก็จะอ่อนไหวบ้าง เรื่องนี้ลุงจะเน้นมากว่า ผู้ชายต้องเป็นผู้นำ ต้องหนักแน่นและเข้มแข็ง แต่พอรู้ว่าผมชอบงานศิลปะ ลุงก็ไม่บังคับแถมสนับสนุนแนะนำให้ไปเรียนต่อที่อังกฤษ ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ได้คิดว่าต้องไปไกลขนาดนั้น แต่เมื่อลุงบอก ผมก็เชื่อว่านี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่ลุงมอบให้ผม” ปอกล่าว
หลังจบสถาปัตยกรรมศาสตร์ เกียรตินิยมอันดับ 2 จาก Oxford Brookes University และปริญญาโทด้านการออกแบบผังเมืองจากUniversity of Westminster อังกฤษ หนุ่มปอก็ลัดฟ้ากลับไทย มาเป็นอาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นาน 3 ปี ก่อนจะตัดสินใจลาออกมาลุยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ D65 Condominium ของตัวเอง และทุ่มเทให้งานอย่างเต็มที่
“จริงๆ ชีวิตผมไม่เคยพร้อมเลยนะ เรียนหนังสือก็ ไม่เคยวางแผนล่วงหน้า พอถึงเวลาถูกส่งไปเรียนเมืองนอก ก็ไปเลย จากไม่เคยทำอะไรเอง พอไปอยู่ที่โน่นต้องทำเองหมด มันกลายเป็นความรับผิดชอบ เวลาจะทำอะไรก็ต้องทำให้ได้ตามแผนที่วางไว้ พอทำงานผมจะทุ่มเทเต็มที่ แต่ผมจะใช้เทคนิคทำงานสบายๆ ไม่คิดว่าเป็นหน้าที่ โชคดีว่างานของผมเป็นสิ่งที่ชอบ ผมก็อยู่กับงานได้ 7 วัน อย่างสบายๆ”
ปอบอกว่า วันจันทร์ถึงวันศุกร์เขาจะทำงานที่ออฟฟิศ เสาร์-อาทิตย์เมื่ออยู่กับครอบครัว แทนที่จะไปเที่ยวห้างสรรพสินค้าชอปปิงตามประสาหนุ่มๆ เขาเลือกที่จะไปขับรถเที่ยวตะเวนชมเมือง ดูตึกรามบ้านช่อง ถ้าเบื่อปอจะเปลี่ยนไปทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ชื่นชอบ ตั้งแต่อยู่บ้านทำกับข้าวให้ภรรยา (พลอยจันทร์ วิฑูรชาติ) ทานกัน หลบมุมอ่านหนังสือ หรือเลือกไปเล่นกีฬาสุดโปรด อย่าง ตีกอล์ฟ และ มวยไทย กิจกรรมที่ทำทุกอย่าง กับช่วงเวลา อารมณ์และปัญหา ถ้ารู้ว่าร่างกายเริ่มล้า ก็มาดูสุขภาพ เขาจะออกกำลังกายทันที
“จริงๆ ชอบเล่นทุกอย่าง แต่ชอบตีกอล์ฟเพราะได้เพื่อน ได้ออกกำลัง ได้คุยเรื่องงานด้วย แต่มีช่วงหนึ่งอยากหุ่นดีอยากมีกล้ามเนื้อ เลยไปต่อยมวยไทย (หัวเราะ) ตรงนี้ทำให้ผมรู้สึกนับถือนักมวยทุกคนเลยนะครับ เพราะมันเหนื่อยมาก (ลากเสียงยาว) ยกหนึ่งมี 3 นาที เวลาเรานั่งดูเหมือนแป๊ปเดียว แต่พอขึ้นไปต่อยจริงๆ กว่าจะหมดเวลาแทบตาย ต่อยไปนึกไป ทำไมมันนานนักวะ กลับมาบ้านแต่ละทีเนื้อตัวเขียว แต่มันโล่งนะครับ ผมชกมา 2 ปีกว่า ร่างกายเฟิร์มทุกส่วน แต่ตอนนี้ต้องเลิก เพราะมีปัญหาเรื่องปวดหลัง หมอสั่งงดกิจกรรมที่สุ่มเสี่ยง ตอนหลังเลยหันมาวิ่งแทน”
ผู้ชายสบายๆ คนนี้บอกว่า ถ้าเครียดเรื่องงานหรือเรื่องคน เขาจะอยู่เงียบๆ คนเดียว อ่านหนังสือ ช่วยให้เขาสงบและพบทางออก โดยเขาจะอ่านหนังสือทุกประเภท หากวันไหนที่อยากอยู่บ้าน ผู้ชายคนนี้จะทำอาหารให้ภรรยาคนสวยทาน ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย หรือ ยุโรป เขาทำได้หมด อีกทั้งยังชอบคิดค้นเมนูใหม่ๆ ปอในวัย 36 ปี ยังบอกถึงกิจกรรมใหม่ๆ ในวันสบายของเขาอีกด้วยว่า ทุกวันนี้เขาและภรรยายังเดินสายไหว้พระ “เพราะด้วยวัยที่เริ่มมากขึ้น ภรรยาจะชอบไปไหว้พระก็จะต้องพาเขาไป ได้สวดมนต์ไหว้พระผมว่าเป็นอีกสิ่งที่ช่วยให้สบายใจ ก่อนหน้านั้นก็ไม่คิดว่าอยากเข้าวัดทำบุญเลย เพราะงานเรามากพอแล้ว แต่พอถึงวันนี้ได้ลองไปก็เริ่มติดใจมากขึ้น”
เมื่อถามถึงชีวิตในวันนี้ หนุ่มปอบอกค่อนข้างพอใจ เขามีความสุขกับงานที่ได้ทำ ได้อยู่กับคนรัก ได้อยู่กับลูกน้องที่ดี “แค่นี้ผมรู้สึกพอใจแล้ว ในอนาคตไม่หวังอะไรอีกแล้ว ขอแค่ดูแลคนรอบข้างให้มีความสุขเหมือนผมก็พอ อันนี้เป็นสิ่งที่ลุง (พล.อ.สุนทร) สอนเสมอในเรื่องการดูแลคน” ก่อนจากกัน ปอยังบอกอีกว่า ความสุขไม่ได้เป็นผู้เลือกที่จะอยู่กับใคร แต่ตัวเราเองต่างหาก ที่เป็นคนกำหนดว่าจะสุขหรือทุกข์ ในวันนี้หากเพียงแต่ลงมือปฏิบัติด้วยตัวเอง ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ ก็มีความสุขแล้ว