สำนักงานสก็ตแลนด์ ยาร์ด อังกฤษกล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานี้ ว่าได้รับข้อมูลใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดแอนน่า และการเสียชีวิตของ โดดี้ อัลฟาเยด ซึ่งจะนำมาประเมินผลการสอบสวนใหม่ที่มีการกล่าวหาว่าทั้งคู่ถูกฆาตรกรรมโดยหน่วยทหารอังกฤษ
ทั้งนี้มีเบาะแสแจ้งว่ามีการค้นพบอาวุธปืนและลูกกระสุน338นัดในห้องนอนของจ่า แดนนี่ ไนท์ติงเกล ซึ่งอยู่ในหน่วย SAS อันเป็นหน่วยนักแม่นปืนสไนเปอร์ โดยข้อมูลนี้ถูกส่งมายังสำนักงานกลางตำรวจของอังกฤษ เมื่อเดือนกันยายน 2554 ซึ่งมีเอกสารกล่าวอ้างอิงว่าทหารชื่อ N (นามสมมุติ) กล่าวหาว่าหน่วย SAS เป็นผู้อยู่เบื้องหลังของการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดแอนน่า โดย Sunday People ตีพิมพ์เป็นข่าวซึ่งมีข้อความตอนหนึ่งว่า
”เขา(ทหาร N)ได้บอกกับภรรยาของเขาว่า มันคือการเตรียมการจาก XXX ที่จะให้เจ้าหญิงสิ้นพระชนม์”
สำนักงานตำรวจกลางของอังกฤษได้ทำการประเมินข้อมูลดังกล่าวว่าน่าเชื่อถือเพียงใด และกล่าวว่าการเปิดเผยข้อมูลนี้ไม่ถือเป็นการรื้อฟื้นคดีนี้ใหม่ เพราะตำรวจก็ยังยืนยันในคำวินิจฉันเดิมว่าอุบัติเหตุครั้งนั้นเกิดจากความประมาทของเกิดจากสารถีอ็องรี ปอล ดื่มสุราจนเมามายและขับรถเร็วเกินกำหนดเพื่อหลบจากปาปาราสซี่ที่ติดตามอย่างไม่ลดละ จนประสบอุบัติเหตุในที่สุดที่ความเร็ว61-63ไมล์ เกินกว่าความเร็วที่กำหนดไว้ในอุโมงค์ถึงสองเท่า
ทั้งนี้ เจ้าหญิงไดแอนน่า พร้อมด้วยโดดี้และอ็องรี ปอล ถึงแก่ชีวิตหลังจากอุบัติเหตุรถยนตร์เมอร์เซเดสชนเสาตอม่อในอุโมงค์ใกล้สะพานแห่งอัลมาที่กรุงปารีส เพียงไม่กี่นาทีหลังจากที่รถคันดังกล่าวออกมาจากโรงแรมริซท์ จตุรัส ว็องโดมเมื่อก่อนรุ่งเช้าของวันที่ 31 สิงหาคม 2540
หลังจากเกิดเหตุมีการสอบสวนในคดีนี้โดยใช้เวลานานกว่า 90 วันจากปากคำของประจักษ์พยานประมาณ 250 ปาก และตำรวจทำการปิดคดีไปแล้วเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2551
โดยที่สำนักงานตำรวจกล่าวว่าได้ใช้จ่ายสำหรับการนี้ถึง8ล้านปอนด์ในช่วงการสอบสวนระหว่างปีค.ศ.2547-2549 และสรุปในที่สุดว่าการเสียชีวิตครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องถูกฆาตกรรมตามที่ถูกกล่าวหาโดยบางคน ซึ่งรวมไปถึงข้อสงสัยของโมฮัมหมัด อัล ฟาเยด บิดาของโดดี้