บีบีซี - ชายวัย 21 ปีที่ถูกจับกุมตัวฐานต้องสงสัยลงมือแทงทหารฝรั่งเศสนายหนึ่งใกล้กรุงปารีสเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ยอมรับสารภาพวันพุธ (29) เป็นผู้ก่ออาชญากรรมดังกล่าว ขณะที่ทางประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ ชี้ไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงคดีนี้กับเหตุฆาตกรรมโหดในกรุงลอนดอน
อัยการฟรองซัวส์ โมแลงส์ เผยแต่เพียงชื่อผู้ต้องสงสัยรายนี้ที่มีนามว่า อเล็ดซานเดร โดยเขาเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลาม และยอมรับว่าตนเองต้องการโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐ ขณะที่สื่อมวลชนรายงานว่าชายคนดังกล่าวเป็นที่รู้จักกันดีของตำรวจในฐานะผู้เคยก่อคดีอาญาตัวยง
ตำรวจจับกุมชายคนนี้ได้ในตอนเช้าของวันพุธ (29) ในเมืองอีฟว์ลีน ห่างจากกรุงปารีส ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 45 กิโลเมตร หลังดำเนินการแกะรอยจากหลักฐานต่างๆที่ตรวจพบ ณ จุดเกิดเหตุ
เหตุแทงเจ้าหน้าที่รัฐครั้งนี้เกิดขึ้นเพียง 3 วัน ตามหลังปฏิบัติการสังหารโหดพยายามฆ่าตัดคอทหารอังกฤษนายหนึ่ง นอกค่ายทหารแห่งหนึ่งในเขตวูลวิช ของกรุงลอนดอน อย่างไรก็ตาม ทาง ออลลองด์ชี้ไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงทั้งสองคดีว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกัน
อัยการโมแลงส์บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ผู้ต้องสงสัยลงมือแทงนายทหารด้วยมีเจตนาฆ่าอย่างชัดเจนและน่าเชื่อว่าความพยายามก่อเหตุคราวนี้มีต้นตอจากอุดมการณ์ทางศาสนา ด้วยภาพจากกล้องวงจรปิดพบเห็นชายคนนี้ท่องบทสวดมุสลิมไม่กี่นาทีก่อนก่อเหตุโจมตี
อย่างไรก็ตาม ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเคยเตือนก่อนหน้านี้ว่าไม่ควรด่วนสรุปคดีนี้จนเกินไป เนื่องจากตอนนี้กระบวนการสืบสวนยังอยู่ในขั้นตอนแรกๆ เท่านั้น “เราจำเป็นต้องรู้ถึงแรงจูงใจ ภูมิหลังและสิ่งแวดล้อมทางครอบครัวของเขา”
เซดริก คอร์ดิเยร์ ทหารชาวฝรั่งเศสวัย 23 ปี ซึ่งถูกส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล เวลานี้มีอาการทรงตัว หลังถูกแทงที่ลำคอในย่านชอปปิ้งใต้ดินและศูนย์การขนส่งของกรุงปารีสเมื่อวันเสาร์ (25) ขณะออกลาดตระเวนร่วมกับทหารอีก 2 นาย
ขณะเกิดเหตุ คอร์ดิเยร์ที่สวมเครื่องแบบและถืออาวุธ กำลังลาดตระเวนย่านธุรกิจลา เดอ ฟรองซ์ ของปารีส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเฝ้าระวังการก่อการร้ายของฝรั่งเศส ด้วยการนำทหารเข้าลาดตระเวนในย่านท่องเที่ยว ธุรกิจ และการขนส่งที่สำคัญ โดยผู้เห็นเหตุการณ์บรรยายมือโจมตีว่าเป็นชายไว้หนวดเคราและน่าจะมีเชื้อสายแอฟริกาเหนือ ขณะที่ภาพจากกล้องวงจรปิดพบเห็นเขาถอดเสื้อคลุมออกแล้วหลบหนีไปด้วยการแต่งกายแบบชาวตะวันตก
ฝรั่งเศสอยู่ในภาวะประกาศเตือนภัยขั้นสูงตามหลังคำขู่โจมตีของกลุ่มอัลกออิดะห์ในแอฟริกาเหนือ อันเกี่ยวข้องกับการที่ฝรั่งเศสส่งทหารเข้าไปแทรกแซงในมาลี และด้วยการประกาศเตือนภัยขั้นสูงนี้จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงมีทหารลาดตระเวนในกรุงปารีสและพื้นที่สำคัญอื่นๆ