>>Celeb Online มีโอกาสได้รู้จักกับหนุ่มคนนี้ตั้งแต่ก่อนที่เขาจะเข้าสมัครประกวด AF10 ด้วยซ้ำ เพราะประวัติที่น่าสนใจ เทมเป็นเด็กไทยที่เกิดและเติบโตในประเทศอังกฤษมา 20 กว่าปี แต่จู่ๆ เขาก็ตัดสินใจลองมาหาประสบการณ์แปลกใหม่ที่เมืองไทยบ้านเกิดของพ่อแม่ดูสักตั้ง และหนุ่มคนนี้ก็ไม่ธรรมดา เคยเป็นมาแล้วทั้งการ์ดของไนต์คลับ ผ่านการฝึกฝนเพื่อเป็นทหารคอมมานโดของอังกฤษ นักร้องเพลงอาร์แอนด์บี และตอนนี้ความฝันของเขาคือการเป็นนักแสดงในเมืองไทย
เมื่อประมาณเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว “เมธี ทับทิมทอง” หรือที่เพื่อนๆ เรียกกันติดปากว่า “เทม” ตัดสินใจกลับมาบวชทดแทนผู้มีพระคุณที่เมืองไทย และปักหลักอยู่ที่เมืองไทย เพราะเกิดหลงเสน่ห์เมืองไทยและคนไทยเข้าอย่างจัง แม้ว่าคุณพ่อคุณแม่และน้องชายยังคงใช้ชีวิตอยู่ที่อังกฤษก็ตาม
“ผมชอบบรรยากาศของเมืองไทย มาอยู่ที่นี่ค่อนข้างแฮปปี้นะ เพราะผมไม่เคยอยู่เมืองไทยมาก่อน อย่างมากก็ได้กลับมาไทยช่วงซัมเมอร์ที่อังกฤษปีละครั้ง ที่นั่นฝนตก อากาศครึ้มตลอด นานๆ จะมีแดดออกมาที แต่ที่ไทยอากาศร้อนตลอด พอถึงวันหยุด คิดจะไปที่ไหนก็ได้เที่ยวทั้งปี ผมชอบความหลากหลายของเมืองไทย ชีวิตไนต์ไลฟ์ก็สนุกมาก ชอบวัฒนธรรมของที่นี่ คนเฟรนด์ลี่กว่าเยอะครับ
ตอนที่เพิ่งกลับมาเมืองไทยใหม่ๆ สองเดือนแรกผมไปฝึกงานอยู่ที่โรงแรมพระยา พาลาซโซ ตอนนั้นเขาเพิ่งเปลี่ยนการจัดการใหม่ ทำให้ขาดสตาฟฟ์ที่พูดภาษาอังกฤษได้ แล้วผมเข้าไปพอดี ก็เลยได้ไปทำในส่วนของ Service Manager ซึ่งสิ่งที่ผมชอบคือ ข้างหลังโรงแรมจะเป็นชุมชน ผมต้องเดินผ่านทุกวัน บางวันเดินๆ อยู่ก็จะมีชาวบ้านมาชวนผมพูดคุยและกินอาหารอีสานด้วยกันกับเขา ซึ่งที่อังกฤษจะหาชีวิตแบบนี้ไม่ได้เลย ผมชอบชีวิตที่ไม่มีการปรุงแต่ง เพราะฉะนั้นที่เมืองไทยจึงเหมาะสมที่สุด”
แต่งานโรงแรมไม่ใช่ความฝันของหนุ่มอายุ 23 ปีคนนี้ ในเมื่อเขาเรียบจบมาทางด้าน Performing Art จากมหาวิทยาลัยเคนซิงตัน เขาจึงเริ่มเดินตามความฝันด้วยการไปเรียนร้องเพลง แคสติ้งงานตามที่ต่างๆ และมีโอกาสได้ถ่ายแบบลงนิตยสารบ้างเล็กๆ น้อยๆ ล่าสุดเทมได้ไปลองทดสอบการเป็นผู้ประกาศข่าวภาษาอังกฤษ พร้อมๆ กับการเตรียมตัวสำหรับเข้าประกวดเวทีปั้นดาวต่างๆ ในเมืองไทย
เทมบอกเราว่า เรื่องของการแสดงไม่เคยอยู่ในความคิดเขามาก่อน จนกระทั่งได้ลองลงคอร์สการแสดงสมัยเรียนมหาวิทาลัยโดยบังเอิญ และรู้สึกสนใจอย่างจริงจัง “เหตุผลที่ผมเข้าคอร์สนี้เพราะผมไม่ชอบนั่งเรียน แต่พอได้เรียนแล้วก็ชอบเลยครับ ก่อนหน้านี้ผมชอบเรียนอะไรที่เกี่ยวกับร่างกายอยู่แล้ว อย่างพวกศิลปะการต่อสู้ต่างๆ ผมชอบทำกิจกรรมที่ต้องออกไปลุยมากกว่าการนั่งเลกเชอร์ การมาเรียนการแสดง ก็เหมือนผมได้ลุยอีกแบบหนึ่ง แต่เป็นการแสดงออกทางการแสดงอารมณ์ สีหน้าท่าทางแทน”
แต่ตามประสาเด็กวัยรุ่นเมืองนอก เทมจึงต้องเรียนและทำงานไปด้วย ซึ่งเขาได้ไปเป็นบาร์เทนเดอร์ ก่อนที่จะฉีกแนวไปเป็นการ์ดตามไนต์คลับ “เป็นบาร์เทนเดอร์ได้สักพัก แต่ยังรู้สึกไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ เลยขอลองไปเป็นการ์ดของไนต์คลับ ตอนนั้นทางคลับมองผมแล้วถามว่า คุณแน่ใจเหรอ (หัวเราะ) เพราะผมค่อนข้างตัวเล็ก ผมเลยบอกไปว่าให้ลองดูก่อน เพราะผมเองก็เคยเรียนมวยไทย กระบี่กระบอง บราซิลเลียนจูจิตซึมาก่อน เป็นพวกชอบเข้ายิม ชอบทำให้ร่างกายแข็งแรงอยู่แล้ว
เมื่อผมพิสูจน์ตัวเองได้ว่าสามารถจัดการพวกที่ทะเลาะวิวาทกันในไนต์คลับได้ เลยได้ทำต่ออยู่ 3 ปีกว่า เพราะหนึ่งคือ เงินดีครับ ถือว่าเป็นงานเสี่ยง เราต้องรู้จักควบคุมตัวเอง วิธีแก้ปัญหาของผมคือการเข้าไปเคลียร์ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาคลับ บาร์ ซึ่งพ่อผมจะสอนเสมอว่าใช้สมองกับฝีปากก่อนใช้กำลัง ซึ่งมีหลายครั้งที่ผมเคลียร์ได้ด้วยการพูดคุยและประนีประนอม แต่ถ้าไม่ไหวก็มีที่ต้องใช้กำลังด้วย แต่งานแบบนี้ต้องมีใบอนุญาตจากทางการก่อน จึงจะถือเป็นการป้องกันตัวและระงับเหตุ ไม่อย่างนั้นเราก็จะถือว่าผิดกฎหมายครับ”
ระหว่างที่ได้เป็นการ์ด ทำให้เทมได้รู้จักกับรุ่นพี่ที่เคยเป็นทหารมาก่อน จนเขาเริ่มหันเหความสนใจไปที่การเป็นทหารหน่วยคอมมานโดของอังกฤษ จนทำให้เขาตัดสินใจเข้าฝึกจนเกือบจะได้ไปเป็นทหารอังกฤษเต็มตัว
“ตอนผมเรียนมัธยมผมก็เคยฝึกทหารมาก่อน คล้ายๆ กับฝึก รด. ของบ้านเรา ประมาณอายุ 13 จนถึง 17 ปี แต่ตอนโตได้ไปฝึกกับทหารคอมมานโดของอังกฤษเก่าที่เกษียณแล้ว ซึ่งถือเป็นทหารที่มีชื่อเสียง ได้เข้าไปฝึกบนภูเขา ฝึกเอาตัวรอดเหมือนทหารทุกอย่าง เพราะครูฝึกอยากให้ผมพร้อมก่อนการสอบคัดเลือกจริงๆ ซึ่งถือว่าหนักมาก ผมฝึกไปจนถึงระดับที่ 5 จากทั้งหมด 8 ระดับ ถ้าผมจบขั้นที่ 8 ผมก็จะกลับมาเมืองไทยไม่ได้ เพราะเขาจะส่งผมเข้าไปในค่ายทหารอีก 8 เดือน เพื่อให้ผมพร้อมออกรบทันที”
แม้ว่าลูกจะมีความตั้งใจจริงกับการเป็นทหาร แต่ทางคุณพ่อคุณแม่ของเทมก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ทั้งครอบครัวจึงมาปรึกษากันอีกที ในที่สุดเทมก็ตัดสินใจพักการเป็นทหาร และเบนเข็มมาสนใจการแสดงที่เขาเรียนจบมาโดยตรง
“คุณพ่อคุณแม่บอกว่าเราเรียนมาขนาดนี้แล้ว ถ้าเราเกิดเป็นอะไรขึ้นมาเราทำงานอย่างอื่นไม่ได้ จะได้ไม่คุ้มเสีย พ่อแม่ผมบอกว่า ถ้าผมพูดว่า ...ไม่อยากเป็นอะไรอีกแล้วในชีวิตนอกจากเป็นทหาร ท่านก็จะไม่ขัดข้อง แต่ผมเองก็อยากลองงานแสดง เพราะผมเรียนจบมาด้านนี้ สำหรับทหารผมก็อยากเป็นอยู่ เพราะฝึกมาจนถึงระดับ 5 สามารถพักได้ 3 ปี และกลับไปฝึกต่อได้เลย แต่ถ้าเกินจากนั้นจะถูกตัดชื่อออก ส่วนของหน่วยคอมมานโด ผมสามารถเข้าร่วมได้จนถึงอายุ 32 ผมก็เลยอยากกลับมาลองทำตามความฝันที่เมืองไทยดูก่อน”
ระหว่างพูดคุย สังเกตได้ว่าภาษาไทยของเทมค่อนข้างดี อาจจะมีติดสำเนียงภาษาอังกฤษไปบ้าง แต่สำหรับเด็กหนุ่มที่อาศัยอยู่ต่างประเทศมาตั้งแต่เกิด นับว่าดีมากทีเดียว ซึ่งเทมบอกว่า คุณพ่อคุณแม่บังคับให้พูดภาษาไทยตอนอยู่ที่บ้านตั้งแต่เด็กๆ “ไม่อย่างนั้นผมก็จะพูดไม่ได้แน่ๆ เพราะรอบข้างเป็นฝรั่งหมดเลย เพื่อนคนไทยก็มีน้อยด้วย แต่เรื่องเขียน-อ่าน ภาษาไทย ผมยังไม่ได้นะครับ ตอนที่ผมไปแคสต์งานหนึ่ง ทีมงานส่งสคริปต์ให้ผมเป็นภาษาไทย ก็แย่เลย แต่เขาก็มาช่วยด้วยการแปลเป็นภาษาอังกฤษให้อีกที”
เทมเล่าให้ฟังว่า ตอนเด็กๆ เขาเป็นเด็กบู๊เลยทีเดียว จนทำให้คุณพ่อคุณแม่เป็นห่วง เพราะชอบเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ผิดที่ผิดเวลาเสมอๆ ทั้งที่เขายืนยันว่าไม่เคยหาเรื่องใครก่อน
“ผมเป็นเด็กโรงเรียนประจำครับ ก็เป็นธรรมดา มีใช้กำลังกันบ้าง แล้วผมก็มักจะได้เจอเพื่อนแนวๆ นี้ เวลาเพื่อนมีเรื่องกัน เราก็ต้องเข้าไปช่วยเคลียร์ปัญหา อาจจะเพราะเหตุนี้เองที่ทำให้ผมชอบอาชีพทหาร ผมชอบช่วยเพื่อน ชอบปกป้องเพื่อน ตอนอยู่อังกฤษยังชอบขี่มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์อีก ยิ่งมาทำงานเป็นการ์ด ที่บ้านก็ยิ่งเป็นห่วงไปใหญ่ แต่พอมาอยู่เมืองไทย เวลาคุยโทรศัพท์กับพ่อแม่ น้ำเสียงท่านฟังดูมีความสุขมากเลย คงเพราะไม่มีอะไรให้ต้องห่วงมาก”
ส่วนตอนนี้เขาเป็นหนุ่มอารมณ์ดี สุดแอกทีฟคนหนึ่ง เข้ากับคนง่าย ยิ่งมาอยู่เมืองไทย เจอสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ยิ่งทำให้เข้าได้กับเพื่อนใหม่ๆ ได้ง่าย ใครชวนไปไหนก็ไปได้หมด “แต่อย่าให้คิดเองว่าจะไปไหน ทำอะไร ผมจะคิดไม่ออกครับ เพื่อนเลยบอกว่านิสัยผมเหมือนทหารเลย ต้องให้สั่งก่อน ถึงจะทำได้ (หัวเราะ) แต่ช่วงแรกที่มาอยู่เมืองไทย ผมอยากกลับอังกฤษมาก เพราะไม่ค่อยมีเพื่อน ไม่มีงาน แต่คุณพ่อคุณแม่บอกให้ใจเย็นๆ พอมีเพื่อนก็สนุกเลย”
ก่อนหน้านี้ เทม มุ่งมั่นตามฝัน ด้วยการไปเรียนร้องเพลงทุกสัปดาห์ เข้ายิมฟิตร่างกาย และตระเวนแคสติ้งงานตามที่ต่างๆ จนในที่สุดฝันก็เป็นจริง เมื่อได้เข้าไปเป็น 1 ใน 24 คนของบ้าน AF10 กับหมายเลขประจำตัว V6 เขาจะผ่านไปถึงสัปดาห์ที่เท่าไหร่คงไม่มีใครรู้ได้ แต่เทมบอกเราว่าเป้าหมายใหญ่ของเขาคือการได้เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงอยู่ในเมืองไทย
คงต้องจับตาดูหนุ่มคนนี้ให้ดีๆ เสียแล้ว....
นักร้องเฉพาะกิจ
แม้ว่าเทมจะออกตัวว่าเสียงเขาไม่ดีมาก แต่หนุ่มคนนี้เคยออกซิงเกิลเพลงแนวอาร์แอนด์บี ร่วมกับเพื่อนร่วมชั้นเรียนสมัยมหาวิทยาลัยมาแล้ว!!!
“ตอนนั้นทำเล่นๆ กับเพื่อนครับ มีเพื่อนชวนผมก็ไปทำ เขากำลังหาคนร้องคอรัส ผมพอร้องได้ ลองร้องให้ฟัง เขาก็โอเค ส่วนเพื่อนผมเขียนเพลงและร้องแร็ป ตอนแรกก็นึกแค่ว่าสนุกๆ แต่เอาเข้าจริงคือจริงจังเป็นเรื่องเป็นราวเลย มีนางแบบจากอเมริกาซึ่งเคยลงนิตยสารเพลย์บอย มาเล่นเอ็มวีให้ด้วย ชื่อเพลง The Way She Moves ของ Newfase & Tayme สมัยนั้นตอนที่เพลงออกมา เคยมีค่ายเพลงเล็กๆ มาเสนอให้เซ็นสัญญาเป็นนักร้อง แต่ตอนนั้นผมเรียนอยู่และอยากเป็นทหารมากกว่า ความสนใจที่อยากเป็นนักร้องเพิ่งมามีตอนมาอยู่เมืองไทยนี่เองครับ”
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net และ ติดตาม CelebStagram ได้ที่ http://www.manager.co.th/celebonline/celebstagram/