เอเจนซีส์ - เปิดปฎิบัติการสนับสนุนกองกำลังส่วนหน้าในอัฟกานิสถานก่อนที่จะถอนกำลังกลับอังกฤษในปี 2014 ค่ายทหารอังกฤษในอัฟกานิสถานแบสชัน(Bastion)นั้นถือเป็นค่ายทหารนอกประเทศอังกฤษที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ปฎิบัติการป้อนยุทธปัจจัยเป็นเสมือนฝันร้ายของระบบโลจิสติกที่ต้องสนับสนุนความต้องการของทหารอังกฤษราว 28,000นายในค่าย โดยโครงการ IWM หรือ Imperial War Museum ของอังกฤษ ได้รวบรวมเรื่องราวชีวิตของกำลังพลอังกฤษที่ปฎิบัติการในสมรภูมิรบเพื่อให้คนรุ่นใหม่เรียนรู้ชีวิตของทหารอังกฤษในสมรภูมิรบสมัยใหม่
การต้องปฎิบัติหน้าที่ท่ามกลางความเป็นไปได้ที่จะถูกกลุ่มก่อการร้ายจะโจมตีตลอดเวลา หรือการต้องผจญกับอุณภูมิที่สูงถึง 50 องศาเซลเซียส พายุทะเลทราย และปัญหาต่างๆนาๆกับความไม่แน่นอนของชีวิตในอัฟกานิสถานที่แบสชัน(Bastion) ค่ายทหารอังกฤษนอกประเทศที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา แต่สิ่งหนึ่งที่ทหารอังกฤษจำนวนราว 28,000นาย ต้องมีแน่นอนคือต้องมีมันฝรั่งถุงในอาหารค่ำของพวกเขา โดยในปี 2011พบว่า ทหารค่ายแบสชันนั้นบริโภคมันฝรั่งถุงมีน้ำหนักรวมเท่ากับรถเมลแดงสองชั้นของอังกฤษ หรือราว 7.5 ตัน ต่อสัปดาห์
โดยรวมแล้ว ค่ายแบสตันที่ตั้งอยู่ในทะเลทรายของอัฟกานิสถานนั้นมีขนาดเท่ากับเมืองรีดดิงในอังกฤษ ค่ายนี้ตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนในการสู้รบแนวหน้า จากการเปิดเผยของIWM หรือ Imperial War Museum ของอังกฤษที่จัดทำเพื่อเรียนรู้ชีวิตของทหารอังกฤษสมัยใหม่ในสมรภูมิรบที่มีเครื่องอำนวยความสะดวกพร้อมมากกว่าในอดีต
และแน่นอนที่สุด ชีวิตที่อยู่หลังไกปืน จากการรวบรวมของIWM นั้นเป็นหน้าที่ของปฎิบัติการสนับสนุนกำลังพลด้านยุทธปัจจัยที่ต้องจัดหาทุกอย่างให้พร้อม ซึ่งหน่วยงานต้องต่อสู้กับความยากลำบากในด้านภูมิประเทศ อากาศ และความไม่พร้อมของสาธารณูปโภคในประเทศที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานในการสู้รบ เพื่อจะให้แน่ใจว่า อุปกรณ์ทางทหารชิ้นพิเศษ หรือแม้กระทั่งสิ่งธรรมดาเช่น อาหาร น้ำ และขวัญกำลังใจยามไกลบ้าน เช่น จดหมายจากทางบ้านในยอร์กเชียร์ จะส่งตรงถึงนายทหารที่ปฎิบัติหน้าที่ โดยปฎิบัติการขนส่งจะเริ่มต้นเดินทางจาก RAF BRIZ NORTON ในอังกฤษไปยังค่ายแบสชันในอัฟกานิสถานและจะส่งต่อไปให้ทหารที่ปฎิบัติงานในแนวหน้าอีกทีหนึ่ง
โดยโปรเจคชีวิตในสมรภูมิรบของIWM เกิดจากความร่วมมือของกระทรวงกลาโหมอังกฤษ เริ่มขึ้นในปี 2009 เพื่อเปิดโอกาศให้นายทหารได้บันทึกเรื่องราวของตนเองในสมรภูมิรบอัฟกานิสถานให้เป็นอนุสรณ์การเรียนรู้กับคนรุ่นหลังต่อไป โดยตั้งแต่เริ่มโครงการมามีนายทหารและครอบครัวกว่า 1,600 นาย เข้าร่วม หรือมากกว่า 75 หน่วยในกองทัพอังกฤษ ซึ่งมีการบันทึกสัมภาษณ์ไปแล้วกว่า 70 ราย ที่เก็บไว้ในหอจดหมายเหตุของIWM โดยโครงการนี้ได้ขยายเวลาเพื่อเก็บข้อมูลของทหารที่ปฎิบัติหน้าที่จนถึงปี 2013 ก่อนที่อังกฤษภายใต้กองกำลังนาโต้ในอัฟกานิสถานจะคืนอำนาจการดูแลประเทศให้กับรัฐบาลอัฟกานิสถานอย่างเป็นทางการในปี 2014
ทางด้านผู้อำนวยการทั่วไปของIWM ไดอานา ลี เผยว่า “ IWMได้รวบรวมเรื่องราวชีวิตของกำลังพลอังกฤษที่ปฎิบัติการในสมรภูมิรบ ในรูปแบบของจดหมาย ไดอารี รูปภาพ และสิ่งของ มาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยเกือบจะร้อยปีแล้วที่ทางเจ้าหน้าที่และผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ IWM ได้ออกไปแนวหน้าเพื่อจะเก็บรวบรวมเรื่องราวสู้รบไว้ในคอลเล็กชันของIWM เพื่อที่จะให้คนรุ่นถัดไปได้เรียนรู้ชีวิตในสมรภูมิของคนรุ่นก่อนหน้านั้น”
ด้านผู้บัญชาการปฏิบัติการกองกำลังร่วมสนับสนุนทางอากาศของอังกฤษ จอห์น เบสเซล ในอัฟกานิสถาน กล่าวว่า “มันเกี่ยวกับคน และโดยคน เป็นการเปิดโอกาสให้พวกเขาได้เล่าเรื่องตัวเองจาก คำบอกเล่า ภาพถ่าย และสิ่งของ นี่เป็นเรื่องราวของผู้คนที่ทุ่มเทให้โดยที่บ่อยครั้งจะถูกมองไม่เห็น เพื่อความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตของอัฟกานิสถาน”
Facts Sheet of Camp Bastion @ Afghanistan
A. ในปี 2011 ทหารอังกฤษบริโภคมันฝรั่งถุงที่มีหนักเท่ารถเมลแดงสองชั้นของอังกฤษ หรือราว 7.5 ตันต่อสัปดาห์
B.ในช่วงหน้าร้อนของอัฟกานิสถาน ที่มีอุณภูมิสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส นายทหารแต่ละนายต้องการน้ำดื่ม 10ลิตร ต่อวัน
C. ในปี 2010 สรรพาวุธราว 3,500 ตันได้ถูกเคลื่อนย้ายจากอังกฤษไปที่อัฟกานิสถาน
D. รถขนน้ำมัน 50 คันวิ่งเข้าค่ายแบสชันทุกวันพร้อมน้ำมันกว่า 150,000 ลิตรที่ทั้งค่ายใช้ทุกวัน
E. ไปรษณีย์พัสดุภัณฑ์น้ำหนักราว 30 ตัน ถูกส่งตรงมาค่ายแบสชันทุกสัปดาห์
F. หน่วยซ่อมยานยนต์ในค่ายมีอะไหล่ต่างชนิดกันมากกว่า 11,000 ชิ้น
G. ในปี 2012 มียานยนต์ในค่ายทั้งสิ้นมากกว่า 2,500 คัน
