xs
xsm
sm
md
lg

โจรใต้เหิม ไล่ยิง"อุสตาซ" สอนศาสนาดับ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-คนร้ายไล่ยิง "อุสตาซ" จนรถเสียหลักพุ่งชนบ้าน เสียชีวิตที่โรงพยาบาล ผบก.ปัตตานี สั่งปิดล้อมตรวจค้นทันที คาดฝีมือแนวร่วมสร้างสถานการณ์ โฆษกกอ.รมน.ภาค 4 ระบุกลุ่มคนร้ายยังหวังสร้างความแตกแยก โยนบาปเจ้าหน้าที่ ด้านผบ.ทบ.ยันข้อเรียกร้อง 5 ข้อของบีอาร์เอ็น ขัดต่อกฎหมาย ยอมรับไม่ได้ เผยให้บริษัทเอกชนพัฒนาถังแก๊สใช้วัสดุลดอันตรายจากการระเบิด พร้อมควบคุมการซื้อขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

เมื่อเวลา 08.30 น. วานนี้ (21 ส.ค.) พ.ต.อ.ยุคล ประสาทนานนท์ ผกก.สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุคนถูกยิงบนถนนบ่อทอง-น้ำดำ หมู่ 5 บ้านไผ่มัน ต.บ่อทอง จึงนำกำลังไปที่เกิดเหตุพบรถยนต์โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ ทะเบียน กง 4232 ปัตตานี ชนกับผนังบ้านของบ้านเลขที่ 79 ทำให้ทั้งรถและตัวบ้านได้รับความเสียหาย ที่ตัวรถมีรูกระสุนหลายแห่ง ภายในพบกองเลือดจำนวนมาก คนเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลหนองจิก แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา

ทราบชื่อนายฮูมัยดี มูซอ อายุ 38 ปี อุสตาซโรงเรียนชุมชนมูลนิธิอิสลามบ้านปาแดลางา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี อยู่บ้านเลขที่ 62/3 หมู่ 3 ต.บางเขา อ.หนองจิก ถูกยิงเข้าที่ศีรษะ และลำตัวหลายแห่ง

สอบสวนทราบว่า ขณะผู้ตายขับรถยนต์ออกจากบ้าน เพื่อไปสอนหนังสือที่โรงเรียน ถึงที่เกิดเหตุมีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 3 คน ใช้รถกระบะตามประกบยิง ทำให้รถเสียหลักพุ่งชนบ้าน หลังเกิดเหตุพล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผบก.ภ.จว.ปัตตานี สั่งกองกำลังร่วม 3 ฝ่ายปิดล้อมตรวจค้นทันที เบื้องต้นคาดว่าเป็นฝีมือกลุ่มแนวร่วมสร้างสถานการณ์

เวลา 11.30 น. ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.)ภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของนายฮูมัยดี มูซอ อุสตาซโรงเรียนชุมชนมูลนิธิอิสลามบ้านปาแดลางา ที่ได้สูญเสียนายฮูมัยดีจากการกระทำอันโหดเหี้ยมของผู้ก่อเหตุรุนแรง ซึ่งฆ่าได้แม้กระทั่งครูผู้เป็นทรัพยากรทางการศึกษา เป็นผู้ให้วิชาความรู้ ให้แสงสว่างแก่บุตรหลาน และประชาชนในพื้นที่ ถือว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อบทบัญญัติของศาสนาอิสลามอย่างสิ้นเชิง

ทั้งนี้ เพราะการทำร้ายครู การฆ่าครูไม่เพียงเป็นการกระทำที่ตรงกันข้ามกับแนวทางของศาสดาเท่านั้น แต่ยังเป็นการฝ่าฝืนหลักศาสนาอย่างยากที่หาคำใดมาประณามจึงจะเหมาะสม

พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการทหารบก ได้ย้ำให้กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ดูแลความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน ไม่แบ่งเชื้อชาติ ศาสนา ไม่ละเมิดต่อหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด พร้อมกำชับให้รวบรวมพยานหลักฐาน พิสูจน์สาเหตุที่แท้จริง ติดตามจับกุมผู้ที่ก่อเหตุครั้งนี้มาลงโทษให้เร็วที่สุด

"กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ขอเรียกร้องให้ผู้ก่อเหตุรุนแรง ยุติพฤติกรรมกลับกลอก หลอกลวง เพื่อสร้างความแตกแยกระหว่างพี่น้องชาวไทย ด้วยการทำร้ายพี่น้องประชาชน แล้วโยนความผิดให้เจ้าหน้าที่รัฐ พร้อมทั้งขอเรียกร้องให้องค์กรด้านสิทธิมนุษยชน กลุ่มพลังมวลชน ร่วมแสดงพลังต่อต้านผู้ก่อเหตุรุนแรงทุกรูปแบบ เพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเราไม่เห็นด้วย และปฏิเสธการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมเช่นนี้"

ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.กล่าวถึงการที่พล.ต.อ. ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการคลับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.ปกต.) จะเรียกประชุมเพื่อหาข้อสรุปข้อเสนอ 5 ข้อของขบวนการบีอาร์เอ็นในวันที่ 22 ส.ค.นี้ว่า ต้องดูว่าเรื่องใดที่ขัดต่อกฎหมาย เรื่องใดที่ยังไม่มีข้อเท็จจริง เช่น กล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่เป็นผู้ก่อเหตุ ถ้ามีหลักฐานก็ให้เอามายืนยัน เพราะนายกกรัฐมนตรี สั่งการไว้ชัดเจนว่าหากมีเหตุการณ์เช่นนั้นจริงให้ลงโทษสถานหนัก
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งที่ได้เตรียมการ คือ หัวข้อที่จะไปพูดคุย เพื่อทำให้เหตุรุนแรงลดลง เพราะประชาชนทั้งไทยพุทธและไทยมุสลิมบาดเจ็บและสูญเสีย รวมถึงเศรษฐกิจ และชื่อเสียงของประเทศ อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่อยากจะชี้แจงต่อสังคมโลก คือ การที่ต้องมีทหารเข้าประจำการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะยังมีความไม่สงบเกิดขึ้น ส่วนเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทหาร ตำรวจ และพลเรือน จะดูแลประชาชน 2 ล้านคนอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ ยังได้ให้บริษัทเอกชนหาแนวทางพัฒนาถังแก๊สจากวัสดุที่ไม่เป็นอันตราย ซึ่งกำลังทดลองใช้อยู่ ถ้าได้ผลจะขอร้องให้คนในพื้นที่ใช้กันให้ทั่วถึง เพื่อลดอันตรายจากระเบิด สำหรับการลักลอบขนระเบิดตามแนวชายแดน ต้องขอความร่วมมือจากเพื่อนบ้าน รวมทั้งให้ตำรวจควบคุมการซื้อขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใน 3 จังหวัดภาคใต้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อเสนอของบีอาร์เอ็น 5 ข้อ มีข้อไหนรับได้หรือรับไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อะไรที่ขัดต่อข้อกฎหมายก็ยังรับไม่ได้ ทั้งนี้ มีอีกหลายข้อที่ต้องพูดคุยกัน ซึ่งต้องใช้เวลา ขณะเดียวกันในส่วนของต่างประเทศต้องระมัดระวังไม่ให้เข้ามาเกี่ยวข้อง ต้องให้เขาอยู่ในลักษณะอำนวยความสะดวก เพื่อให้การพูดคุยและการแก้ปัญหาเป็นไปอย่างสันติ อย่าให้ใครเข้ามาตัดสินในบ้านเรา
กำลังโหลดความคิดเห็น