ผบ.ทบ.ระบุ 5 ข้อเรียกร้องของบีอาร์เอ็น ถ้าขัดต่อกฎหมายก็ยอมไม่ได้ รอหารือ ศปก.กปต.พรุ่งนี้ก่อนสรุป เผยให้บริษัทเอกชนพัฒนาถังแก๊สใช้วัสดุที่ลดอันตรายจากการระเบิด และควบคุมการซื้อขายอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ ปัองกันเหตุระเบิด
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงการที่ พล.ต.อ. ประชา พรหมนอก รองนากยกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการคลับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศปก.กปต. จะเรียกประชุมเพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับข้อเสนอทั้ง 5 ข้อของบีอาร์เอ็นในวันที่ 22 ส.ค.นี้ว่า การประชุมในวันพรุ่งนี้จะมี ผบ.เหล่าทัพเข้าร่วมหาแนวทาง และสาระในการที่จะพูดคุยกับบีอาร์เอ็นครั้งต่อไป ซึ่งเป็นไปตามที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมได้สั่งการไว้ ซึ่งต้องหารือกันในประเด็นที่ฝ่ายบีอาร์เอ็นเรียกร้อง และต้องชี้แจงว่าเรื่องใดที่เป็นหน้าที่ และขัดต่อกฎหมาย รวมถึงเรื่องที่ยังไม่มีข้อเท็จจริง เช่น กรณีที่มีการกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่เป็นผู้ก่อเหตุ ถ้ามีหลักฐานก็เอาออกมายืนยัน เพราะนายกฯ ได้สั่งการเอาไว้ชัดเจน หากมีเหตุการณ์เช่นนี้จริงให้ลงโทษสถานหนัก ซึ่งจากการสืบทราบเหตุการณ์ต่างๆ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้เกี่ยวข้องกับหลายส่วน หลายพวกทั้งเรื่องความขัดแย้งส่วนตัว จึงทำให้ไปเกี่ยวพันกับความรุนแรงที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ เมื่อช่วงที่ผ่านมาก็มีบุคลากรทางการศึกษาเสียชีวิต ซึ่งก่อนหน้านั้นในการพูดคุย เราก็มีการระบุไปแล้วว่าอย่าไปทำคนเหล่านี้ เพราะเขาไม่มีกำลังที่จะไปสู้รบกับใคร แต่ก็ยังถูกทำร้ายอยู่
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สิ่งที่ได้เตรียมการคือเรื่องหัวข้อที่จะไปพูดคุยเพื่อทำให้สถานการณ์รุนแรงลดลง เพราะประชาชนทั้งไทยพุทธและไทยมุสลิมได้รับการบาดเจ็บและสูญเสีย รวมถึงด้านเศรษฐกิจ และชื่อเสียงของประเทศ อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ตนอยากจะชี้แจงต่อสังคมโลกก็คือ การที่ต้องมีทหารเข้าไปประจำในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็เพราะว่ายังมีสถานการณ์ที่ยังไม่สงบเกิดขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติของทุกประเทศ ที่รัฐบาลจะต้องส่งคนไปดูแลตามหน้าที่ และการปฏิบัติงานทางทหารเราก็ไม่ได้ทำเต็มรูปแบบ
ส่วนเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของ 3 จังหวัดภาคใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ทหาร ตำรวจ และฝ่ายพลเรือนจะดูแลประชาชน 2 ล้านคนอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ตนได้ให้บริษัทเอกชนไปหาแนวคิดเพื่อพัฒนาถังแก๊สที่ทำมาจากวัสดุที่ไม่เกิดอันตราย ซึ่งขณะนี้ก็นำไปทดลองใช้อยู่ ถ้าได้ผลจะขอร้องให้คนในพื้นที่ได้ใช้กันให้ทั่วถึง เพื่อที่จะลดอันตรายจากระเบิด สำหรับการลักลอบขนระเบิดตามแนวชายแดน ก็ต้องขอความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมการซื้อขายอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้
ผู้สื่อข่าวถามว่า 5 ข้อเสนอของบีอาร์เอ็นข้อไหนรับได้หรือไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ยังไม่อยากบอกว่าข้อไหนที่รับได้หรือไม่ได้ แต่ถ้าอะไรที่ขัดต่อข้อกฎหมายก็ยังรับไม่ได้ ทั้งนี้ยังไม่อยากให้ถามถึงผลสรุป เพราะยังมีอีกหลายข้อที่ต้องพูดคุยกัน ซึ่งต้องใช้เวลา และต้องเตรียมการกันให้ดี ทั้งนี้สถานการณ์มีหลายพวกมีหลายกลุ่ม เราต้องรับฟังทุกกลุ่ม แล้วนำมาประมวลว่าแต่ละเรื่องแต่ละกลุ่มจะทำกันอย่างไร ในขณะเดียวกันในส่วนของต่างประเทศต้องระมัดระวังไม่ให้เข้ามาเกี่ยวข้อง ต้องให้เขาอยู่ในลักษณะของการอำนวยความสะดวก เพื่อให้การพูดคุยและการแก้ปัญหาเป็นไปอย่างสันติ อย่าให้ใครเข้ามาตัดสินในบ้านเรา
ผบ.ทบ.กล่าวว่า การประชุมในวันพรุ่งนี้ทุกคนได้เตรียมหลักการ และเหตุผลที่เราจะต้องตั้งหลักให้ได้ การดำเนินงานต่างๆ อาจจะต้องมีปัญหาบ้าง เราก็ต้องมีหลักการ และระมัดระวังในการที่จะก้าวต่อไป ไม่เช่นนั้นจะไปไม่ถึงจุดนั้น วันนี้คนที่เดือดร้อนมากที่สุดคือประชาชนในพื้นที่ รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ตกเป็นเป้าหมาย สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะต้องได้รับการแก้ไขก่อน สิ่งที่คิดว่าไม่เป็นธรรมและเป็นเงื่อนไขก็มาพูดกัน และหาสาเหตุแก้ปัญหากันเป็นเรื่องๆ
“ปัญหาในพื้นที่ภาคใต้ต้องแก้ด้วยกัน 3 ฝ่าย คือ ประชาชน ผู้ก่อความไม่สงบ และเจ้าหน้าที่ จึงต้องเดินตามยุทธศาสตร์ที่มีอยู่ของรัฐบาล คือการแก้ปัญหาอย่างสันติวิธี ซึ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันความจริงใจของรัฐในการดูแลประชาชน ขณะเดียวกัน การที่เราจะตกลง หรือจะไปพูดคุยอะไรกับใคร และมีข้อตกลงกันต้องได้รับการยอมรับทางกฎหมายว่าได้หรือไม่ได้ จึงจะนำไปสู่การปฏิบัติ แต่ในระหว่างนี้อยากขอร้องอย่าให้เกิดเหตุรุนแรงขึ้นอีกเลย แต่ก็ยังมีอยู่ ซึ่งแสดงว่ายังมีหลายพวก และเราก็ไม่ได้รับว่าจะต้องพูดคุยเฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง”
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) กล่าวว่า การประชุมศูนย์ปฏิบัติการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศกป.กปต.) ในวันที่ 22 ส.ค.นี้ ได้มอบหมายให้รองเสนาธิการทหารอากาศไปร่วมประชุม โดยข้อมูลขั้นต้นที่เราพิจารณาเห็นว่าข้อเสนอ 5 ข้อของบีอาร์เอ็นยังไม่เป็นที่ยอมรับ แต่เราไม่ปฏิเสธที่จะเปิดช่องทางในการที่จะทำให้เกิดสันติภาพโดยเร็ว ทางกองทัพอากาศ สนับสนุนช่องทางที่สามารถทำได้ ซึ่งในวันที่ 22 ส.ค.นี้ทางเหล่าทัพจะไปรับฟังข้อมูลก่อนและจะมาดูท่าทีว่าเราควรจะประชุมหารือร่วมกันหรือไม่ แต่เรื่องนี้ทุกเหล่าทัพได้ติดตามสถานการณ์อยู่คิดว่าไม่นานคงจะได้ข้อสรุป
