xs
xsm
sm
md
lg

5 นิสัยเสีย! ที่แท้เป็นคุณต่อสุขภาพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

By Lady Manager

บางครั้ง “ความเหลวไหลก็เป็นเสน่ห์ของชีวิต” นะคะ

ยิ่งกว่านั้น การปล่อยตัวไร้สาระ สำแดงนิสัยไม่ดีของตัวเองออกมาเสียบ้าง กลับทำให้ร่างกายและจิตใจได้ผ่อนคลาย สุขภาพแข็งแรงขึ้นด้วยซ้ำ

ไม่เชื่อ?!?

ไปดูกันค่ะว่ามีบุคลิกนิสัยเสียแสนขี้เกียจอะไรบ้าง ที่เค้าศึกษากันแล้วว่าเป็นบวกต่อสุขภาพบ้างเหมือนกัน


1. กัดเล็บ บิดผม

เมื่อคุณสาวๆ กระวนกระวาย ไม่มั่นใจ มีความกังวลใจ บางคนแสดงออกด้วยการกัดเล็บ บางคนลืมตัวบิดผมม้วนผมตัวเอง บางคนนั่งงอตัวขดตัว และบางคนเดินวนไปวนมา ฯลฯ ซึ่งล้วนทำให้บุคลิกเสีย

แต่นักหัวใจวิทยา สตีเฟน ซินาตร้า (Stephen Sinatra) ผู้เขียน Reverse Heart Disease Now กล่าวว่า นานาอาการกระสับกระส่ายและเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ล้วนถือว่าเป็นการออกกำลังกาย

“เท่ากับช่วยเผาผลาญฮอร์โมนความเครียดในช่วงเวลากดดันนั้น”

งานวิจัยจาก Mayo Clinic ที่โรเชสเตอร์ ยังชี้ว่า อัตราการเผาผลาญไขมันเพิ่มขึ้นถึง 40% ในคนที่กำลังหงุดหงิดกระสับกระส่าย เหตุผลก็คือ การเคลื่อนไหวร่างกายอย่างต่อเนื่องมันจะกระตุ้นให้สมองหลั่งฮอร์โมนที่เพิ่มศักยภาพการเผาผลาญไขมัน

ดังนั้น เมื่อเครียดขึงกลัวกระวนกระวาย ก็จงแสดงออก อย่าเก็บกดไว้นะคะ

2. ตั้งวงซุบซิบนินทา

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยบราวน์จัดการทดลอง นำคนมาครหานินทาเรื่องคนอื่นกับคนที่ไว้ใจได้เป็นเวลา 20 นาที ผลปรากฏว่า 96%ของกลุ่มคนนี้ได้ลัลล้าอารมณ์ดียาวต่อไปอีกถึง 4 ชั่วโมง และผู้หญิงผู้ชอบพูดถึงคนอื่นในทางบวก ดีกรีความกดดันอารมณ์เครียดบรรเทาลงไปถึง 72% ภายในระยะเวลา 3 เดือน

“การพูดถึงคนอื่นในแง่ดีกระตุ้นให้เกิดสัญชาตญาณความผูกพันโดยธรรมชาติของผู้หญิง” สก๊อต เฮาลทซ์แม (Scott Haltzman) เจ้าของผลงาน The Secrets of Happy Families อธิบาย

“เป็นการเร่งให้กลไกสมองมีพลังขึ้น หลั่งฮอร์โมนต้านอาการซึมเศร้าออกมา”

แหม ธรรมชาติหญิงเราชอบซุบซิบเรื่องชาวบ้านอยู่แล้ว ทว่าต้องเป็นไปในทางสร้างสรรค์นะคะ ถึงจะเป็นคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ

3. เล่นคอมพ์เรื่อยเปื่อย

จากการศึกษาของมหาวิทยาลัย Calgary ที่แคนาดา พบว่า ผู้หญิงเกือบ 75% เวลานั่งคอมพ์ปั๊บยังไม่ทำงานทันทีหรอก แต่มักจะเล่นเกม Angry Bird ก่อน และนางเป็นคนอารมณ์ดี สุขภาพจิตแข็งแรง

ขณะเดียวกันงานวิจัยของมหาวิทยาลัย Medical Center Hamburg-Eppendorf ที่เยอรมนี บ่งแสดงว่า ระหว่างทำงานหน้าคอมพ์แล้วเครียด ก็เบรกพัก หันไปเช็คเฟซบุ๊คบ้าง หรืออ่านพวกอีเมล์ตลกๆ บ้าง แล้วอาการปวดหัวมึนตึ้บมลายหายไป 8 นาที

ค่ะ เวลาทำงานแล้วเบื่อหรือเคร่งเครียดจนคิดอะไรไม่ออก จงพาสมองตัวเองออกมาจากงานนั้น โดยเล่นเกมหรืออ่านข้อความส่งต่อสนุกๆ พักสมองเป็นระยะเวลาสั้นๆ และค่อยกลับไปทำงานต่อ นอกจากคุณจะรู้สึกกระปรี้กระเปร่าอยากทำงานมากขึ้นแล้ว หัวสมองก็จะไม่ตื้อไม่ปวด คิดงานออกมาขึ้นด้วย

4. ส่งข้อความสั้น

จากการศึกษาของมหาวิทยาลัย Loma Linda ที่แคลิฟอร์เนีย พบว่า การสนทนาส่งข้อความสั้นคุยกับเพื่อนทำให้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวหดหู่ถึง 100%

เหตุผลคือ การสื่อสารโต้ตอบไปมาระหว่างเพื่อนด้วยกันทำให้เพิ่มฮอร์โมนต้านอาการเศร้าซึมที่ชื่อ เซเรโทนีน (Serotoninc เป็นสารสื่อประสาท มีบทบาทหลายหน้าที่เช่น การควบคุมความหิว อารมณ์ ความโกรธ) และโดพามีน (Dopamine เป็นสารสื่อประสาท มีควบคุมการทำงานในระบบต่างๆของร่างกาย เช่น พฤติกรรมการเคลื่อนไหว อุณหภูมิ อารมณ์)

เท่านั้นไม่พอ โรงพยาบาล Mount Sinai ที่นิวยอร์ค ได้ทำการศึกษาออกมาว่า การคุยกันผ่านข้อความ มันทำให้เกิดความรู้สึกผูกพัน และมีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิต ดังนั้นถ้าสนทนากับเพื่อนซึ่งสนับสนุนให้กำลังใจคุณ คุณก็สามารถมุ่งสู่เป้าหมายยากๆ อย่างเช่น การเลิกบุหรี่ได้

ที่สำคัญ อย่าส่งข้อความไลน์คุยระหว่างขับรถนะคะ

5. ขี้เกียจออกกำลังกาย

ไม่ต้องเคร่งครัดเข้ายิมออกกำลังกายเป๊ะๆ ทุกวันหรอก นั่งนอนเอกเขนกทอดหุ่ยกินขนมดูทีวีอยู่บ้างปะไร

นักวิจัยของมหาวิทยาลัยหลุยส์เซียน่าบอกว่า การหักโหมออกกำลังกายไม่ได้รับประกันว่าน้ำหนักจะลด ตรงกันข้าม ถ้าคุณออกกำลังกายมากเกินไป กล้ามเนื้อมีโอกาสอักเสบ พอร่างกายอักเสบ ร่างกายก็จะบวม และชะลอการเผาผลาญ

ผู้เชี่ยวชาญแนะให้หาวันหยุด ไม่จำเป็นต้องเข้ายิมออกกำลังกายทุกวัน อาจไปสัปดาห์ละ 3 ครั้ง หรือหากคุณติดนิสัยต้องฟิตแอนด์เฟิร์มทุกวัน แนะให้เข้ายิมเพียง 10-15 นาทีพอ กระบวนการเผาผลาญไขมันภายในจะได้รับการกระตุ้น ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพกว่า

ข้อมูลจากไอวิลเลจ

 


>>
อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ 
 http://www.celeb-online.net
 
กำลังโหลดความคิดเห็น