คอลัมน์ Sexociety โดย Dr.DEN
ชีวิตคู่เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ที่จะอยู่ร่วมกัน เพื่อสืบพันธุ์และดำรงเผ่าพันธุ์
แต่บางคนรักความเป็น โสด มากกว่า ในขณะที่หลายคนเกลียดมัน ซึ่งขึ้นอยู่กับประสบการณ์ชีวิตของแต่ละคนไป
ต่อไปนี้คือ ตัวอย่างความรู้สึกในชีวิตโสดของคนบางคน ซึ่งอาจจะตรงหรือไม่ตรงกับชีวิตของคุณก็ได้
มุมสาวโสด
เฮเลนา มีเกอร์ อายุ 32 ปี
ครูโรงเรียนประถมจากลอนดอน เป็นโสดมาแล้ว 2 ปี
“ทันใดฉันก็พบว่าตัวเองเป็นโสดในวัย 30 หลังจากชีวิตแต่งงานของฉันสิ้นสุดลง เราแต่งกันได้แค่ 6 เดือนเท่านั้นเมื่อเขาบอกฉันว่าเขาไม่รักฉันอีกต่อไปแล้ว หัวใจของฉันแทบสลาย
ทุกวันนี้ฉันมีบ้านของตัวเอง ฉันปรับทัศนคติในการทำงานใหม่หมด และกำลังสร้างความผูกพันใหม่ๆ กับเพื่อนๆ มันต้องใช้เวลานานเหลือเกินในการสร้างตัวฉันเองขึ้นมา แต่ตอนนี้ ฉันรักในความเป็นตัวของตัวเอง
ในงานปาร์ตี้เมื่อเร็วๆ นี้ ฉันเป็นสาวโสดคนเดียวในงาน คนอื่นๆ ต้องคอยกังวลดูแลคู่ของตัวเองตลอดเวลา ในขณะที่ฉันรู้สึกเป็นอิสระ หลายคนลงความเห็นว่า เฮเลนาคนเดิมกลับมาแล้ว ฉันไม่ได้หัวเราะและสนุกขนาดนั้นมานานหลายปีแล้ว
นั่นก็กล่าวได้ว่า การเป็นโสดในวัย 30 ของฉัน มันแตกต่างเป็นอย่างมากกับการเป็นโสดในวัยอื่น มันอาจน่ากลัวได้ และฉันไม่ชอบการคุยเล่นกับหนุ่มๆ ในบาร์ มันทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดและเปราะบาง
ฉันเคยลองมีเดททางอินเตอร์เน็ท แต่นั่นไม่ใช่ตัวตนจริงๆ ของฉัน ฉันชอบปล่อยให้มันเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติมากกว่า ถ้าฉันจะพัวพันกับใครสักคน ฉันต้องมองเห็นอนาคตร่วมกับเขา แต่ฉันก็เชื่อว่าในความเป็นจริง มันอาจไม่เกิดขึ้น
ฉันอยากมีลูกและถึงขนาดเคยคิดจะขอเด็กมาเลี้ยงเป็นลูกด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ฉันจะไม่รีบร้อนทำอะไรบางอย่างอีกแล้ว ฉันต้องการมีลูกสักคน แต่ฉันก็ต้องการมีความสุขต่อไปอีก”
->ยังไม่อยากกลับเข้าสู่ความ “หวานอมขมกลืน” อีกครั้ง ว่างั้นเถอะ ขอ “หวาน” อย่างเดียวไปเรื่อยๆดีกว่า
โคล แมดิลีย์ อายุ23 ปี
อยู่ลอนดอน เป็นโสดมาแล้ว 7 เดือน
“หลังจากความสัมพันธ์ระยะยาว 2 ครั้ง ฉันก็อยู่ตามลำพังเป็นครั้งแรกในชีวิตผู้ใหญ่ ฉันอายุ 23โสดและไม่พร้อมที่จะอยู่ร่วมกับผู้ชายคนใดเป็นอย่างยิ่ง จริงๆแล้วสยองซะด้วยซ้ำ
ฉันไม่รู้ว่าจะพูดกับผู้ชายยังไง เพื่อนสาวทุกคนของฉันสวยเริ่ดทั้งนั้น จนฉันยอมให้พวกเธอเป็นดาวเด่นเมื่อเราออกไปเที่ยวกัน พวกเธอพร่ำบอกฉันว่าเพราะฉันเอาแต่มองผู้ชายในแง่ลบ ฉันจึงกลายเป็นคนปิดตัว และพวกเธอก็ยุให้ฉันสนุกกับผู้ชายเสียบ้าง ฉันไม่เชื่อเพื่อนๆ หรอก
ฉันว่ามันยากจริงๆ ในการเข้าหาผู้ชาย ฉันเคยพยายามสบตาพวกเขา ซึ่งก็ได้ผลชั่วครู่ชั่วยาม แล้วคุณก็ต้องไปคุยกับผู้ชายคนนั้นจริงๆ แต่ในที่สุดฉันก็กลับมาเป็นคนเย็นชาอีกจนได้ นานๆ ทีถึงจะมีผู้ชายเข้ามาหาฉันก่อน ฉันพบว่าตัวเองต้องทนทรมานกับการพูดแบบน้ำไหลไฟดับหรือไม่ก็พูดอะไรไม่ออกเลย ฉันจึงเริ่มต้นกับใครไม่ได้สักที
ฉันเป็นสาวโสดไม่เก่งเลย มันเป็นสิ่งแปลกปลอมสำหรับฉัน ฉันโอนเอนไปมาระหว่างการชอบกับไม่ชอบชีวิตโสด ดังนั้นฉันจึงไม่อาจผ่อนคลายและสนุกกับความโสดได้
ใจหนึ่งมันน่าตื่นเต้นเหลือเชื่อที่จินตนาการว่าตัวเองกำลังพบกับผู้ชายคนใหม่ และรู้สึกหลงใหลอีกครั้ง แต่อีกใจหนึ่ง ฉันกังวลว่าโชคของฉันหมดแล้ว และจะไม่มีวันได้พบใครคนไหนที่ฉันชอบจริงๆ อีก”
->คุณคงเจอประสบการณ์แย่ๆ จากคู่รักมา 2 ครั้งติดๆ จึงทำให้คุณเข็ดขยาดผู้ชายไปเลย กลายเป็นคนที่ “อยากแต่ไม่กล้า” กลัวว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำสาม จึงพยายามหลีกเลี่ยงผู้ชายอย่างถึงที่สุด
ตอนนี้ถ้ายังไม่มีอะไรดีขึ้นก็เดทกับ VIBRATOR ไปก่อนละกัน ปลอดภัยด้วยประการทั้งปวง
มุมหนุ่มโสด
จอนนี ลี-เคมพ์ อายุ 30 ปี
นักแสดงจากเคนท์ เป็นโสดมาแล้ว 18 เดือน
“ผมมีความสุขกับความสัมพันธ์กับใครสักคนมากกว่า และตอนนี้มันก็ลำบากแล้ว เพราะเพื่อนๆส่วนใหญ่มีคู่กันหมด ผมเหงาและคิดถึงความใกล้ชิดที่ได้รับขณะมีคู่
ผมกับแฟนคนสุดท้ายอยู่ด้วยกันมา 7 ปีและเรามีลูกชายวัย 3 ขวบด้วยกัน เมื่อคุณใช้ชีวิตอยู่กับใครบางคน คุณจะคุ้นเคยกับการนอนเคียงคู่เธอทุกคืน หรือมีเธอเกาหัวให้คุณในตอนเช้า มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคุณ แต่เมื่อไม่มีเธอ คุณก็เหมือนคนที่สูญเสียอวัยวะสำคัญบางอย่างไป รู้สึกเดียวดายเหมือนคนอยู่คนเดียวในโลก
ตอนคุณเป็นเด็กหนุ่ม คุณกังวลว่าถ้าคุณใช้เวลาทั้งหมดกับแฟนสาวของคุณคุณอาจพลาดอะไรดีๆกับเพื่อนๆ แต่ไม่หรอก มันก็แค่สำมะเลเทเมากันไปวันๆ เท่านั้น ตอนเป็นเด็กกว่านี้ ผมไม่เข้าใจอย่างนี้หรอก เพราะยังงั้นอดีตแฟนคนแล้วคนเล่าถึงได้เป็นฝ่าย ‘ทิ้ง’ ผมไปเสมอ ผมเด็กเกินกว่าจะรักษาคำมั่นสัญญา แล้วผมก็ต้องเลิกกับเธอ
ถ้าผมพบคนถูกใจในเวลานี้ ผมคิดว่าเราจะแต่งงานกันภายใน 2 ปี ผมไม่เห็นว่าจะมีประโยชน์อะไรในการเล่นเกมยื้อ ความซื่อสัตย์ของผมทำให้ผู้หญิงบางคนกลัว
แต่ถ้าผมอายุถึง 35 และปรากฏว่า เรามีความสัมพันธ์กันมา 4 ปีโดยยังไม่แต่งงานกัน ผมคงเดือดมาก ผมแค่ต้องการเจอใครบางคนที่ผมบูชารักใคร่ และเป็นคนที่ผมสามารถเช็ดเท้าให้เธอได้ทุกวัน”
->ผู้ชายก็ยังงี้แหละ กว่าจะเห็นสระอีดีกว่าเพื่อน ก็มักสายไปแล้วทุกที
แกรห์ม วิลคินส์ อายุ 23 ปี
นักวิเคราะห์บัญชีจากเซาแธมป์ตัน เป็นโสดมาแล้ว 1 ปี
“ผมไม่เคยมีความรัก แน่ละ ผมเคยพูดคำว่ารักนับครั้งไม่ถ้วน แต่ผมไม่เคยหมายความตามนั้นจริงๆหรอก ผมไม่เคยอกหัก ก็เพราะไม่เคยรักใครนี่แหละ ในความสัมพันธ์อันมากมายทุกครั้ง ผมรู้สึกคันเท้าหลังจากประมาณ 3 เดือนที่คบหากัน ไม่ใช่เพราะผมต้องการหลับนอนไปทั่ว แต่เพราะผมพบว่ามันน่าเบื่อไปหมดและผมต้องการทำอะไรตามใจตัวเอง
ผมจึงเลือกที่จะเป็นโสด เพื่อที่ผมจะสนุกได้อย่างไม่มีขีดจำกัด แต่ตอนนี้ผมอยู่ในวัย 20 แล้ว หลังจากคุณพบใครบางคนในคลับหรือทางออนไลน์ คุณก็ตรงดิ่งเข้าไปใช้เวลาที่บ้านของกันและกัน มันเป็นวิถีที่เชื่องเกินไป
ผมคิดว่าผมมีประเด็นคำมั่นสัญญาขณะเริ่มมีความสัมพันธ์ แต่แล้วคุณก็ลงเอยที่บ้านของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทุกคืน และผมก็เริ่มรู้สึกเบื่อและเหมือนติดกับดัก ความสัมพันธ์ 3 ครั้งสุดท้ายของผมยาวนานครั้งละประมาณ 2 เดือนครึ่ง ผมโดดจากความสัมพันธ์หนึ่งไปสู่อีกความสัมพันธ์ ภายในช่วงเวลา 9 เดือน พอเลิกกับสาวคนหนึ่งได้ 1 สัปดาห์ ผมก็จะเจอกับอีกคนแล้ว
ผมไม่เคยมีโอกาสเป็นตัวของตัวเองแบบนี้มาก่อนเลย ดังนั้นตอนนี้ผมจึงขอฉวยโอกาสแห่งความโสดนี้ไว้และจะไม่ยอมให้พฤติกรรมเดิมๆ ย้อนกลับมาเล่นงานผมได้อีก ผมเคยเจอกับสาวๆ ที่ผมคิดว่าสามารถลงหลักปักฐานด้วยได้ หากผมยังอยู่ในสถานะอื่นของชีวิต แต่ผมก็ยุติความสัมพันธ์เหล่านั้นลงไป เพราะนั่นไม่ใช่จุดยืนของผมแล้วในเวลานี้”
->โถ คุณเพิ่งอายุ 23 คิดจะเป็นโสดไปจนตายซะแล้ว มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก คุณยังมีเวลาอีกหลายปีที่จะต้องเจอดีเข้าสักวัน เว้นแต่ว่าคุณจะบวชไม่สึกนั่นแหละ
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
ชีวิตคู่เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ที่จะอยู่ร่วมกัน เพื่อสืบพันธุ์และดำรงเผ่าพันธุ์
แต่บางคนรักความเป็น โสด มากกว่า ในขณะที่หลายคนเกลียดมัน ซึ่งขึ้นอยู่กับประสบการณ์ชีวิตของแต่ละคนไป
ต่อไปนี้คือ ตัวอย่างความรู้สึกในชีวิตโสดของคนบางคน ซึ่งอาจจะตรงหรือไม่ตรงกับชีวิตของคุณก็ได้
มุมสาวโสด
เฮเลนา มีเกอร์ อายุ 32 ปี
ครูโรงเรียนประถมจากลอนดอน เป็นโสดมาแล้ว 2 ปี
“ทันใดฉันก็พบว่าตัวเองเป็นโสดในวัย 30 หลังจากชีวิตแต่งงานของฉันสิ้นสุดลง เราแต่งกันได้แค่ 6 เดือนเท่านั้นเมื่อเขาบอกฉันว่าเขาไม่รักฉันอีกต่อไปแล้ว หัวใจของฉันแทบสลาย
ทุกวันนี้ฉันมีบ้านของตัวเอง ฉันปรับทัศนคติในการทำงานใหม่หมด และกำลังสร้างความผูกพันใหม่ๆ กับเพื่อนๆ มันต้องใช้เวลานานเหลือเกินในการสร้างตัวฉันเองขึ้นมา แต่ตอนนี้ ฉันรักในความเป็นตัวของตัวเอง
ในงานปาร์ตี้เมื่อเร็วๆ นี้ ฉันเป็นสาวโสดคนเดียวในงาน คนอื่นๆ ต้องคอยกังวลดูแลคู่ของตัวเองตลอดเวลา ในขณะที่ฉันรู้สึกเป็นอิสระ หลายคนลงความเห็นว่า เฮเลนาคนเดิมกลับมาแล้ว ฉันไม่ได้หัวเราะและสนุกขนาดนั้นมานานหลายปีแล้ว
นั่นก็กล่าวได้ว่า การเป็นโสดในวัย 30 ของฉัน มันแตกต่างเป็นอย่างมากกับการเป็นโสดในวัยอื่น มันอาจน่ากลัวได้ และฉันไม่ชอบการคุยเล่นกับหนุ่มๆ ในบาร์ มันทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดและเปราะบาง
ฉันเคยลองมีเดททางอินเตอร์เน็ท แต่นั่นไม่ใช่ตัวตนจริงๆ ของฉัน ฉันชอบปล่อยให้มันเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติมากกว่า ถ้าฉันจะพัวพันกับใครสักคน ฉันต้องมองเห็นอนาคตร่วมกับเขา แต่ฉันก็เชื่อว่าในความเป็นจริง มันอาจไม่เกิดขึ้น
ฉันอยากมีลูกและถึงขนาดเคยคิดจะขอเด็กมาเลี้ยงเป็นลูกด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ฉันจะไม่รีบร้อนทำอะไรบางอย่างอีกแล้ว ฉันต้องการมีลูกสักคน แต่ฉันก็ต้องการมีความสุขต่อไปอีก”
->ยังไม่อยากกลับเข้าสู่ความ “หวานอมขมกลืน” อีกครั้ง ว่างั้นเถอะ ขอ “หวาน” อย่างเดียวไปเรื่อยๆดีกว่า
โคล แมดิลีย์ อายุ23 ปี
อยู่ลอนดอน เป็นโสดมาแล้ว 7 เดือน
“หลังจากความสัมพันธ์ระยะยาว 2 ครั้ง ฉันก็อยู่ตามลำพังเป็นครั้งแรกในชีวิตผู้ใหญ่ ฉันอายุ 23โสดและไม่พร้อมที่จะอยู่ร่วมกับผู้ชายคนใดเป็นอย่างยิ่ง จริงๆแล้วสยองซะด้วยซ้ำ
ฉันไม่รู้ว่าจะพูดกับผู้ชายยังไง เพื่อนสาวทุกคนของฉันสวยเริ่ดทั้งนั้น จนฉันยอมให้พวกเธอเป็นดาวเด่นเมื่อเราออกไปเที่ยวกัน พวกเธอพร่ำบอกฉันว่าเพราะฉันเอาแต่มองผู้ชายในแง่ลบ ฉันจึงกลายเป็นคนปิดตัว และพวกเธอก็ยุให้ฉันสนุกกับผู้ชายเสียบ้าง ฉันไม่เชื่อเพื่อนๆ หรอก
ฉันว่ามันยากจริงๆ ในการเข้าหาผู้ชาย ฉันเคยพยายามสบตาพวกเขา ซึ่งก็ได้ผลชั่วครู่ชั่วยาม แล้วคุณก็ต้องไปคุยกับผู้ชายคนนั้นจริงๆ แต่ในที่สุดฉันก็กลับมาเป็นคนเย็นชาอีกจนได้ นานๆ ทีถึงจะมีผู้ชายเข้ามาหาฉันก่อน ฉันพบว่าตัวเองต้องทนทรมานกับการพูดแบบน้ำไหลไฟดับหรือไม่ก็พูดอะไรไม่ออกเลย ฉันจึงเริ่มต้นกับใครไม่ได้สักที
ฉันเป็นสาวโสดไม่เก่งเลย มันเป็นสิ่งแปลกปลอมสำหรับฉัน ฉันโอนเอนไปมาระหว่างการชอบกับไม่ชอบชีวิตโสด ดังนั้นฉันจึงไม่อาจผ่อนคลายและสนุกกับความโสดได้
ใจหนึ่งมันน่าตื่นเต้นเหลือเชื่อที่จินตนาการว่าตัวเองกำลังพบกับผู้ชายคนใหม่ และรู้สึกหลงใหลอีกครั้ง แต่อีกใจหนึ่ง ฉันกังวลว่าโชคของฉันหมดแล้ว และจะไม่มีวันได้พบใครคนไหนที่ฉันชอบจริงๆ อีก”
->คุณคงเจอประสบการณ์แย่ๆ จากคู่รักมา 2 ครั้งติดๆ จึงทำให้คุณเข็ดขยาดผู้ชายไปเลย กลายเป็นคนที่ “อยากแต่ไม่กล้า” กลัวว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำสาม จึงพยายามหลีกเลี่ยงผู้ชายอย่างถึงที่สุด
ตอนนี้ถ้ายังไม่มีอะไรดีขึ้นก็เดทกับ VIBRATOR ไปก่อนละกัน ปลอดภัยด้วยประการทั้งปวง
มุมหนุ่มโสด
จอนนี ลี-เคมพ์ อายุ 30 ปี
นักแสดงจากเคนท์ เป็นโสดมาแล้ว 18 เดือน
“ผมมีความสุขกับความสัมพันธ์กับใครสักคนมากกว่า และตอนนี้มันก็ลำบากแล้ว เพราะเพื่อนๆส่วนใหญ่มีคู่กันหมด ผมเหงาและคิดถึงความใกล้ชิดที่ได้รับขณะมีคู่
ผมกับแฟนคนสุดท้ายอยู่ด้วยกันมา 7 ปีและเรามีลูกชายวัย 3 ขวบด้วยกัน เมื่อคุณใช้ชีวิตอยู่กับใครบางคน คุณจะคุ้นเคยกับการนอนเคียงคู่เธอทุกคืน หรือมีเธอเกาหัวให้คุณในตอนเช้า มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคุณ แต่เมื่อไม่มีเธอ คุณก็เหมือนคนที่สูญเสียอวัยวะสำคัญบางอย่างไป รู้สึกเดียวดายเหมือนคนอยู่คนเดียวในโลก
ตอนคุณเป็นเด็กหนุ่ม คุณกังวลว่าถ้าคุณใช้เวลาทั้งหมดกับแฟนสาวของคุณคุณอาจพลาดอะไรดีๆกับเพื่อนๆ แต่ไม่หรอก มันก็แค่สำมะเลเทเมากันไปวันๆ เท่านั้น ตอนเป็นเด็กกว่านี้ ผมไม่เข้าใจอย่างนี้หรอก เพราะยังงั้นอดีตแฟนคนแล้วคนเล่าถึงได้เป็นฝ่าย ‘ทิ้ง’ ผมไปเสมอ ผมเด็กเกินกว่าจะรักษาคำมั่นสัญญา แล้วผมก็ต้องเลิกกับเธอ
ถ้าผมพบคนถูกใจในเวลานี้ ผมคิดว่าเราจะแต่งงานกันภายใน 2 ปี ผมไม่เห็นว่าจะมีประโยชน์อะไรในการเล่นเกมยื้อ ความซื่อสัตย์ของผมทำให้ผู้หญิงบางคนกลัว
แต่ถ้าผมอายุถึง 35 และปรากฏว่า เรามีความสัมพันธ์กันมา 4 ปีโดยยังไม่แต่งงานกัน ผมคงเดือดมาก ผมแค่ต้องการเจอใครบางคนที่ผมบูชารักใคร่ และเป็นคนที่ผมสามารถเช็ดเท้าให้เธอได้ทุกวัน”
->ผู้ชายก็ยังงี้แหละ กว่าจะเห็นสระอีดีกว่าเพื่อน ก็มักสายไปแล้วทุกที
แกรห์ม วิลคินส์ อายุ 23 ปี
นักวิเคราะห์บัญชีจากเซาแธมป์ตัน เป็นโสดมาแล้ว 1 ปี
“ผมไม่เคยมีความรัก แน่ละ ผมเคยพูดคำว่ารักนับครั้งไม่ถ้วน แต่ผมไม่เคยหมายความตามนั้นจริงๆหรอก ผมไม่เคยอกหัก ก็เพราะไม่เคยรักใครนี่แหละ ในความสัมพันธ์อันมากมายทุกครั้ง ผมรู้สึกคันเท้าหลังจากประมาณ 3 เดือนที่คบหากัน ไม่ใช่เพราะผมต้องการหลับนอนไปทั่ว แต่เพราะผมพบว่ามันน่าเบื่อไปหมดและผมต้องการทำอะไรตามใจตัวเอง
ผมจึงเลือกที่จะเป็นโสด เพื่อที่ผมจะสนุกได้อย่างไม่มีขีดจำกัด แต่ตอนนี้ผมอยู่ในวัย 20 แล้ว หลังจากคุณพบใครบางคนในคลับหรือทางออนไลน์ คุณก็ตรงดิ่งเข้าไปใช้เวลาที่บ้านของกันและกัน มันเป็นวิถีที่เชื่องเกินไป
ผมคิดว่าผมมีประเด็นคำมั่นสัญญาขณะเริ่มมีความสัมพันธ์ แต่แล้วคุณก็ลงเอยที่บ้านของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทุกคืน และผมก็เริ่มรู้สึกเบื่อและเหมือนติดกับดัก ความสัมพันธ์ 3 ครั้งสุดท้ายของผมยาวนานครั้งละประมาณ 2 เดือนครึ่ง ผมโดดจากความสัมพันธ์หนึ่งไปสู่อีกความสัมพันธ์ ภายในช่วงเวลา 9 เดือน พอเลิกกับสาวคนหนึ่งได้ 1 สัปดาห์ ผมก็จะเจอกับอีกคนแล้ว
ผมไม่เคยมีโอกาสเป็นตัวของตัวเองแบบนี้มาก่อนเลย ดังนั้นตอนนี้ผมจึงขอฉวยโอกาสแห่งความโสดนี้ไว้และจะไม่ยอมให้พฤติกรรมเดิมๆ ย้อนกลับมาเล่นงานผมได้อีก ผมเคยเจอกับสาวๆ ที่ผมคิดว่าสามารถลงหลักปักฐานด้วยได้ หากผมยังอยู่ในสถานะอื่นของชีวิต แต่ผมก็ยุติความสัมพันธ์เหล่านั้นลงไป เพราะนั่นไม่ใช่จุดยืนของผมแล้วในเวลานี้”
->โถ คุณเพิ่งอายุ 23 คิดจะเป็นโสดไปจนตายซะแล้ว มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก คุณยังมีเวลาอีกหลายปีที่จะต้องเจอดีเข้าสักวัน เว้นแต่ว่าคุณจะบวชไม่สึกนั่นแหละ
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net