xs
xsm
sm
md
lg

เส้นทางธรรมสมการความสุขของ “พลอยนภัส ลีนุตพงษ์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ใครเลยจะคิดว่า คนที่เพียบพร้อมซึ่งฐานะทางสังคม ประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียงมีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดี มีเงิน ซึ่งถือเป็นสูตรสำเร็จตามมาตรฐานของสังคม อย่าง ขวัญ-ม.ล.พลอยนภัส ลีนุตพงษ์ กรรมการบริหาร บริษัท ทีเอช โรโบติกส์ จำกัด ผู้กำลังสนุกสนานกับธุรกิจใหม่ นำเข้าหุ่นยนต์ดูดฝุ่น และมีทีท่าว่ากำลังไปได้สวย เพราะเปิดตัวเพียงไม่ถึงสองสัปดาห์ยอดจองก็มากเกินคาด 

แต่คุณแม่ยังสาวลูกหนึ่งคนนี้ กลับสนใจและลุ่มหลงธรรมะมากๆ ถึงขนาดวางแผนอนาคตหากลูกโตพอจะรับผิดชอบตัวเองได้แล้ว เธอเลือกจะวางมือและเดินทางไปปฏิบัติธรรมในทุกที่ที่อยากไป

ขวัญบอกว่า ตั้งแต่เด็กแม่จะปลูกฝังเรื่องธรรมมะมาตลอดที่แม่ไปรับกลับจากโรงเรียน แม่จะสอนเสาร์-อาทิตย์ พอว่างก็จะพาไปนั่งสมาธิปฏิบัติธรรม แต่ไม่ได้จริงจัง มาจริงจังตอนอยู่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เพราะที่นั่นมีการแข่งขันกันสูง มันมีความวุ่นวายและเธอต้องพยายามสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้

“ความฝันตอนนั้นคือ อยากเข้าอักษรศาสตร์มาก พอดีสอบเทียบได้ เลยบอกคุณแม่ขอลาออกจากโรงเรียนเตรียมฯ เพื่อจะมาอ่านหนังสือและปฏิบัติธรรม คุณแม่ก็อนุญาต แต่คุณพ่อตกใจ ครึ่งปีที่มีเวลาเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย หน้าที่ตอนนั้นก็มี 2 อย่างคือ อ่านหนังสือ กับสวดมนต์นั่งสมาธิ ซึ่งก็มีแต่ความเงียบสงบ จนถึงวันสอบขวัญก็เข้าอักษรศาสตร์ได้”

หลังเข้ามหาวิทยาลัยได้ ขวัญยอมรับว่าชีวิตช่วงนั้นเริ่มห่างธรรมะ เพราะไม่มีแรงกดดันไม่มีความเครียดอะไรแล้ว การเรียนราบรื่น เมื่อจบปริญญาตรีก็บินไปเรียนต่อปริญญาโทที่ออสเตรเลียกลับมาทำงานเป็นอาจารย์ประจำคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ระยะหนึ่ง จึงลาออกเพื่อมารับตำแหน่งแม่บ้านให้ นัท-อภิชาต ลีนุตพงษ์

ด้วยเพราะชีวิตได้ถูกออกแบบวางแผนไว้อย่างเป็นระบบมาตั้งแต่เล็ก งานทุกชิ้นจะตั้งใจทำให้ดีที่สุด จนเหมือนยึดติด พอไม่สำเร็จก็หงุดหงิด เริ่มวีน ใจร้อน โมโหง่าย พอถึงจุดหนึ่งก็เริ่มกลับมาทำร้ายขวัญโดยไม่รู้ตัว

“บางคนคิดว่าชีวิตแต่งงานคือเราสบายแล้ว ไม่ต้องไขว่คว้าอะไรเพราะทุกอย่างลงตัวแต่งงานแล้วคือจบ จนวันที่มีลูกชาย (ธีทัต ลีนุตพงษ์) นั่นแหละ เป็นวันที่เห็นสัจธรรมแท้จริง เพราะลูกเป็นอะไรที่เราไม่สามารถไปกำหนดเขาได้เลย”

ความที่เป็นเพอร์เฟกชันนิสต์ ขวัญจึงต้องการสร้างลูกชายให้สมบูรณ์แบบเหมือนอย่างใจแม่ แต่สำหรับเด็กตัวเล็กๆ ก็คงอยากจะทำอะไรที่ไม่ต้องถูกบังคับมากเกินไป ความเป็น “ทุกข์” จึงเกิดแก่คุณแม่ขวัญ

“ขวัญเริ่มรู้สึกว่ามันเกินความควบคุมของเรา ไปบังคับเขาไม่ได้ ตอนนั้นชีวิตขวัญรวนมากตัวเองก็เป็นทุกข์ พอดีตอนนั้นแม่กับพ่อซื้อที่ดินถวายวัดที่อุตรดิตถ์ ก็ชวนขวัญไปด้วย ตรงนั้นเลยก็ได้เจอหลวงพ่อและได้สนทนาธรรม ซึ่งท่านก็สอนขวัญหลายเรื่อง” ขวัญ เล่าถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เธอต้องหันมาพึ่งธรรมะอีกครั้ง

การกลับมาศึกษาธรรมะครั้งนี้ กลับจริงจังและลึกซึ้งกว่าเดิมโดยเน้นปฏิบัติมากขึ้น ทำให้รู้ว่า สมาธิที่ทำสมัยเด็กเป็นแค่สมถะความนิ่งความสงบ เป็นการเพิ่มพลังของตัวเองเท่านั้น ได้มีความสุข แต่ยังไม่เกิดปัญญา เมื่อรู้ถึงธรรมะที่แท้จริงแล้ว ขวัญบอกว่าทุกอย่างคือ “โล่ง” จากคนที่โกรธและโมโหง่าย กลายเป็นคนใจเย็น ไม่โกรธ ไม่วีนจนสามีแปลกใจ

“หลวงพ่อที่ขวัญนับถือท่านจะชี้ให้เห็นว่า ความจริงของชีวิตคืออะไร ธรรมะคืออะไร พอเราเห็นตรงนั้นแล้ว ขวัญรู้สึกว่ามันใช่ มันคือสิ่งที่ขวัญหามาโดยตลอด ก็ไม่มีคำถามอะไรอีกแล้ว อะไรที่เข้ามากระทบมันเกิดเดี๋ยวก็ดับไปเอง แรงกดดันที่เคยคิดว่าทำอะไรต้องเพอร์เฟกต์ก็หมดไปเพราะขวัญรู้แล้วว่าทุกอย่างคือสมมติ ความจริงแล้วธรรมะอยู่ที่ตัวเรา อยู่ที่ใจเราเป็นคนกำหนด ปัญหาทุกอย่างเราเป็นคนสร้างมันขึ้นมา ตอนนี้จิตเราคิดอย่างไรมันก็ออกมาอย่างนั้น ทุกอย่างมีเกิดมีดับ เดี๋ยวนี้อ่านเจอเขาว่า”พลอยนภัส” ขวัญก็จะคิดว่า “พลอยนภัส” คือใคร ทุกอย่างคือสมมติ เราก็ไม่เป็นทุกข์แล้ว”

แม้จะยังไม่ถึงขั้นหันหลังให้สังคมหรูหรา แต่ทุกวันนี้ขวัญยังคงทำงานอย่างเต็มที่ ทำหน้าที่แม่บ้านได้อย่างสมบูรณ์ เลี้ยงลูกตามปกติ ให้เวลาลูกอย่างเต็มที่ และที่สำคัญคือ ยังคงสวดมนต์นั่งสมาธิ เดินจงกลมที่บ้านทุกวัน ส่วนวันหยุดสุดสัปดาห์ หากมีเวลาว่างก็จะพากันไปทำบุญ

“ตรงนี้ขวัญถือว่าขวัญโชคดี ที่อย่างน้อยเราก็มีโอกาสเลือกดำเนินชีวิต มีโอกาสศึกษาและเข้าถึงธรรมะ ช่วยให้เราไม่ยึดติดและไม่ต้องทุกข์อะไรอีกแล้ว หากเป็นไปได้ ขวัญอยากให้หลายคนที่กำลังทุกข์ ลองศึกษาธรรมะดู ซึ่งตรงนี้ช่วยได้เยอะจริงๆ” ขวัญกล่าวทิ้งท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น