xs
xsm
sm
md
lg

วันดี กุญชรยาคง หญิงแกร่งแห่งอาณาจักรพลังงานหมุนเวียน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปรัชญาของจีนเชื่อกันว่า ธรรมชาติทุกอย่างมี “หยิน” กับ “หยาง” อยู่ในตัวเพื่อให้เกิดความสมดุลและส่งเสริมซึ่งกันและกัน “หยิน” เปรียบได้กับผู้หญิง และความอ่อนโยน ส่วน “หยาง” เปรียบเป็นชาย เข้มแข็ง

หากใครคนหนึ่งคนใดมีพลังชีวิตที่สมบูรณ์มี “หยิน-หยาง” ที่เอื้อประโยชน์กันก็ย่อมทำให้ชีวิตประสบความสุข ความเจริญรุ่งเรือง จับอะไรก็เป็นเงินเป็นทอง ดังเช่นชีวิตของ วันดี กุญชรยาคง ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) ที่ดูเหมือนจะไม่เข้ากันเสียเลยกับธุรกิจที่ทำอยู่แต่แล้วในที่สุด ด้วยพลังชีวิตที่สมดุล ด้วยพลังใจที่แข็งแกร่ง และด้วยความอ่อนโยนที่ผสมผสานอย่างลงตัวทำให้เธอสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้หญิงแถวหน้าของโลกได้อย่างน่าภาคภูมิใจ โดย IFC ที่ยกให้เธอติด 1 ใน 6 บุคคลของโลกในปี 2011 และปีนี้นิตยสารฟอร์บส์ (Forbes) ให้เธอติด "1 ใน 15 นักธุรกิจหญิงที่น่าจับตามองแห่งเอเชีย"

วันดี ยอมรับว่ากว่าจะถึงวันนี้ก็เหนื่อยพอสมควร โดยก่อนที่เธอจะมายืนในจุดนี้เธอได้ก่อตั้งบริษัท โซลาร์ตรอน จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นธุรกิจเกี่ยวกับพลังงาน เมื่อบริษัทดังกล่าวประสบความสำเร็จเข้าตลาดหลักทรัพย์ไปซักระยะหนึ่งแล้ว เธอเริ่มรู้สึกเบื่องานประจำจึงคิดเกษียณตัวเอง อยากไปทำอะไรใหม่ๆที่ไม่ใช่มุมเดิม เลยตัดสินใจหยุดงานทุกชนิด กลายเป็นคนว่างงาน จนประมาณปี 2551 ได้เจอปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน 2-3 ครั้ง ซึ่งบอกเธอว่าไม่มีใครรับทำธุรกิจเรื่องโซลาร์ฟาร์มเลย เธอจึงรับปากจะเอางานนี้มาศึกษา

“พอรับปากไปแล้วก็ต้องดูความเป็นไปได้ในทุกมุม คือ ต้องบอกว่าพี่โชคดีด้วยที่แรกๆที่ทำงานได้มีโอกาสใกล้ชิดกับดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา จึงได้รู้ปัญหาโลกร้อนและเรียนรู้กระบวนการคิดการแก้อย่างเป็นระบบเราก็เอามาประยุกต์ดูรูปแบบว่าเป็นไง ดูเชิงพาณิชย์ว่าแต่ละโปรเจ็กต์ต้องลงทุนเท่าไร ทำแล้วจะกำไรขาดทุนอย่างไร เมื่อดูแล้วเห็นว่าดี เพราะแสงอาทิตย์ไม่มีวันหมดมันหมุนเวียน ก็ทำเรื่องยื่นขอรับการเป็นผู้ขายไฟกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มาจัดทำแผนตั้งบริษัท เอสพีซีจี ซึ่งช่วงแรกต้องลงทุนในเรื่องของที่ดินกับแผงโซลาร์เซล์คิดเป็นเงินก็เป็นพันล้าน เลยทาบทามมูลนิธิเพื่อสิ่งแวดล้อม และติดต่อ IFC ใช้เวลา 9 เดือนพัฒนาความสัมพันธ์จนเขาก็มาร่วมทุนเริ่มโครงการแรกได้” วันดี เล่าถึงวันที่หวนกลับมาสู่วงการอีกครั้งด้วยธุรกิจสีเขียว ที่ยั่งยืนและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

วันดี ในวัย 53 ปี ยังคงดูกระฉับกระเฉงแคล่วคล่องว่องไวบอกกว่า บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) ทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้าขายส่งให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดย กระแสไฟฟ้าทุกยูนิตจากฟาร์มของบริษัท ที่ส่งให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนั้นเป็นพลังงานสีขาว นั่นคือใช้แผงโซลาร์เซลล์รับเอาพลังงานความร้อนจากแสงอาทิตย์มาแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งกำเนิดพลังงานทางเลือกแบบไม่มีที่สิ้นสุดและที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือเป็นการอ่อนน้อมต่อธรรมชาติและไม่สร้างมลพิษให้กับสิ่งแวดล้อมซึ่งถือว่าเป็นการประกอบธุรกิจที่ตรงกับปรัชญาของการทำงานของเธอมาตั้งแต่ต้น

ผู้หญิงตัวเล็กๆที่ต้องแบกรับภาระดูแลงานใหญ่ๆ ก็ย่อมมีผลกระทบอยู่บ้าง แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเพราะเธอเชื่อมั่นว่ากำลังใจเป็นใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย จะมีจุดเด่นไม่เหมือนกัน ผู้ชายดูเข้มแข็งด้วยสรีระ ขณะที่ผู้หญิงกลับเข้มแข็งด้วยพลังใจ แต่ข้อได้เปรียบของผู้หญิงอีกอย่างคือเรื่องความละเอียดที่ผู้ชายไม่มี
“ทุกอย่างขึ้นอยู่กับว่าเราจะทำหรือเปล่า หากเรามีใจที่เชื่อมั่นว่าเราทำได้ เริ่มต้นทำงานจากความเชื่อ แล้วทำให้สุดกำลังความสามารถมันก็ทำได้ และคิดให้เป็นระบบ คิดว่าทำได้ไหม จากนั้นเราก็นำมาสู่กระบวนการวางแผนและปฏิบัติ และเราต้องประเมินตลอดเวลา หากเราไม่ตรงตามเป้าที่วางไว้ก็ต้องทบทวน” นั่นคือเคล็ดลับของความสำเร็จที่วันดีแนะ

กับ 2 รางวัลที่ได้รับนั้น เป็นความภาคภูมิใจในชีวิต แต่ที่เหนือกว่านั้น วันดีบอกว่า “วันนี้ภูมิใจที่สามารถนำพาประเทศไทยก้าวขึ้นแท่นสู่ความเป็นผู้นำในเรื่องการ พัฒนาโครงการโซล่าฟาร์มในประเทศไทยและในอาเซียน และจากธุรกิจที่ติดลบกลายเป็นธุรกิจที่ทำเงินได้กว่า 2 แสนล้านบาท ที่สำคัญคือช่วยให้เศรษฐกิจในภูมิภาคกระเตื้องขึ้น เกิดวิสาหกิจชุมชน มีการใช้แรงงานคนเยอะ”
ปัจจุบันแม้จะต้องทำงานหนักเดินทางไปต่างประเทศและต่างจังหวัดเป็นว่าเล่น แต่เธอยังมีห้วงเวลาว่างสำหรับอ่านหนังสือ เข้าวัด ทำบุญ โดยตั้งมั่นไว้ว่าในอนาคต อันใกล้นี้จะสร้างที่พักสำหรับญาติของคนไข้ให้กับโรงพยาบาลทางภาคอีสานเพราะเคย ได้พบเห็นญาติ ของคนไข้ต้องออกไปนอนที่สวนสาธารณะ จึงอยากให้เขาได้มีสุขอนามัยที่ดี มีกำลังใจที่เข้มแข็งเพื่อเป็น กำลังใจให้กับผู้ป่วยต่อไป
 

“สิ่งที่สำคัญ คือ เมื่อเราเริ่มแล้วความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เราทำ เราต้องมีสัจจะ มีคุณธรรม มีความซื่อสัตย์ มีไหวปฏิภาณ ไหวพริบ” วันดีกล่าวทิ้งท้าย

ถ้าหากคำว่า "สัจจะ" นั้นหมายถึง "ความซื่อสัตย์" วันดี กุญชรยาคงก็เป็นบุคคลตัวอย่างอีกท่านหนึ่ง ที่มีความซื่อสัตย์ต่อตนเอง ซื่อสัตย์ต่อสังคมและส่วนรวมและ "สัจจะ" นี้เองที่นำพาให้เธอก้าวมายืนอยู่ข้างหน้าและนำพาความภาคภูมิใจมาสู่ประเทศของเราอย่างน่าประทับใจ

กำลังโหลดความคิดเห็น