>>แรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้คนไทยหันมานิยมขี่ "จักรยาน" ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นมาจากกรุงโคเปนเฮเกน เมืองหลวงที่มีผู้คนนิยมใช้จักรยานมากที่สุดเมืองหนึ่งของโลก ด้วยบรรยากาศที่ดีเยี่ยม บวกกับสถาปัตยกรรมอันงดงาม และถนนหนทางที่เอื้อต่อการใช้จักรยานเป็นพาหนะ ทำให้ทุกหัวระแหงของโคเปนเฮเกนเต็มไปด้วยจักรยาน
ในวันที่ฟ้าใสอุ่นไอแดด ณ กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ในช่วงฤดูร้อนที่ผมเลือกมาเยือน ซึ่งขณะที่ผมกำลังเดินเยื้องย่างไปยังจัตุรัสคองเจนส์ นิทอร์ฟ (Kongens Nytorv) ในย่านชอปปิ้งสุดหรู และเลื่องชื่อที่สุดของเดนมาร์ก พลันอดตื่นเต้นไม่ได้ที่รู้ว่าตัวเองกำลังย่างกรายผ่านถนนที่ได้รับการกล่าวขานถึงมากที่สุดสายหนึ่งในประวัติศาสตร์เดนมาร์ก
ถนนนิวฮอร์น (Nyhavn) น่าจะเรียกได้ว่าเป็นถนนที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดสายหนึ่งของโคเปนเฮเกน เนื่องจากขึ้นชื่อว่ามีร้านอาหาร และผับรวมตัวกันอยู่มากมาย อีกทั้งมีบรรยากาศสบายๆ เหมาะสำหรับการออกมาเดินเล่นพักผ่อน (โดยเฉพาะในฤดูร้อน) ซึ่งถนนแห่งนี้นับว่าเป็นสถานที่หย่อนใจสุดโปรดของทั้งชาวเดนมาร์กและนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก
นิวฮอว์น ต่างจากถนนชื่อดังสายอื่น อย่างอ็อกซฟอร์ด ในกรุงลอนดอน หรือฟิฟต์ อเวนิว ในมหานครนิวยอร์ก เนื่องจากนิวฮอว์นมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ซึ่งไม่เพียงแต่มีผับบาร์กลางแจ้งเรียงรายทอดตัวยาวที่สุดในกลุ่มสแกนดิเนเวียเลยก็ว่าได้ ทั้งยังมีอายุเก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์อีกด้วย
ในภาษาเดนิช นิวฮอว์นมีความหมายตามตัวอักษรว่า “ท่าเรือใหม่” แต่อย่างไรก็ดี ชื่อนิวฮอว์นในวันนี้กลับผิดความหมายไปจากเดิม เนื่องจากเป็นเวลานานกว่า 300 ปี มาแล้วที่กะลาสีเรือคนแรกเดินทางมาเหยียบผืนแผ่นดินอันเลื่องชื่อแห่งนี้
ตามประวัติศาสตร์เล่าว่า พระเจ้าเฟรดเดอริกที่ 5 รับสั่งให้สร้างท่าเรือใกล้กับตัวเมือง เพื่อให้ง่ายต่อลูกเรือและเรือต่างๆ ในการถ่ายเทสินค้า เนื่องจากมีลูกเรือจำนวนมากชอบมาเที่ยวในตัวเมือง ในอดีต ย่านนี้จึงขึ้นชื่อว่ามีบรรยากาศที่ป่าเถื่อน เต็มไปด้วยกะลาสีขี้เมาและโสเภณีที่มาเปิดการขายสินค้าเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม หลายสิ่งหลายอย่างได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เพราะนิวฮอว์นในวันนี้สง่างามด้วยบ้านเรือนสไตล์เดนิสชอันงดงามและเป็นเอกลักษณ์ ที่เรียงรายอยู่ตามลำคลองและหน้าน้ำ ตึกรามบ้านช่องถูกทาทับด้วยสีสันสดใสยามพระอาทิตย์สาดแสงงดงาม ท่ามกลางบรรยากาศแวดล้อมที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาจากบรรดาเรือลำน้อยใหญ่ และท่าเทียบเรือโบราณที่กระจายตัวอยู่ตามคลองในบริเวณใกล้เคียงกัน
บริเวณแห่งนี้เกี่ยวข้องกับนักเขียนชาวเดนิชที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งที่เคยอาศัยอยู่ในย่านนี้เช่นกัน ในบ้านริมคลองเลขที่ 20 และเคยเป็นที่พำนักของฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน ราชานักเขียนแห่งโลกนิทานผู้เลื่องชื่อที่มีผลงานมากมาย อาทิ เงือกน้อย ลูกเป็ดขึ้เหล่ และอื่นๆ ซึ่งมีคนว่ากันว่าเขาเขียนนิทานเรื่องแรกในปี ค.ศ.1835 ที่บ้านของเขาในนิวฮอว์นนี้เอง
โชคดีที่ผมเลือกมาเยือนโคเปนเฮเกนในช่วงฤดูร้อนที่ฟ้าใสไร้เมฆหมก เพราะนิวฮอว์นแห่งนี้จะถูกเนรมิตให้เป็นบาร์กลางแจ้ง ซึ่งการจะหาที่นั่งเหมาะๆ ถูกใจแถวริมคลองเป็นเรื่องยากมาก เนื่องจากบริเวณนี้ไม่เพียงแต่เป็นตลิ่งที่กั้นระหว่างผืนน้ำกับพื้นดินเท่านั้น หากแต่ยังทำหน้าที่รองรับบาร์ต่างๆ ที่จะขยายเขตออกมาจนเต็มพื้นที่กันไปหมด เรียกว่าไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็จะพบกันสีสันของตึกรามบ้านช่องกับเก้าอี้หน้าผับบาร์และจักรยานคันงามจอดเรียงรายอยู่เต็มพื้นที่ไปหมด!
ถ้าพูดคำว่า “Hygge” ชาวเดนิชจะเข้าใจทันทีถึงบรรยากาศสบายๆ ผ่อนคลายและมีความสุข พวกนักศึกษาจะชอบใช้คำนี้เป็นพิเศษ เวลาบรรยายถึงการนั่งจิบเบียร์ทอดอารมณ์อยู่ริมตลิ่ง เป็นความเพลิดเพลินใจจนทำให้ลืมความกังวลใดๆ ที่เมืองไทยจนหมดสิ้นไปเลยทีเดียว
ช่วงวันที่ยาวนานของฤดูร้อนทำให้ผู้คนดื่มด่ำกับบรรยากาศได้นานขึ้น และนิวฮอว์นก็จะคราคร่ำไปด้วยผู้คนจนถึงดึกดื่นเที่ยงคืน ด้วยเพราะบรรยากาศดึงดูดไม่ให้ผู้คนเยื้องย่างไปไหนอีก จนมีหน่วยงานการท่องเที่ยวของเดนมาร์กเคยประมาณไว้ว่า ในแต่ละวันช่วงฤดูร้อน จะมีผู้คนมารวมตัวกันอยู่ในย่านนี้กว่า 1,000 คนเลยทีเดียว ทำให้นิวฮอว์นกลายเป็นศูนย์กลางแห่งการพักผ่อนของเมืองไปเลย
เนื่องจากนิวฮอว์นเป็นถนนคนเดินที่ห้ามไม่ให้รถผ่านยกเว้นจักรยาน ดังนั้น ร้านอาหารจึงสามารถตั้งโต๊ะและเก้าอี้บนถนนได้ตามใจชอบ และมีคนเคยประมาณไว้อีกว่า รวมๆ แล้วร้านอาหารและผับของที่นี่น่าจะมีเก้าอี้ให้บริการกว่า 700 ตัว ส่วนจำนวนจักรยานก็เยอะพอๆ กัน
การดื่มกินอย่างได้อรรถรสในนิวฮอว์นนับเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง เพราะร้านอาหาร และผับจำนวนมากจะให้บริการอาหารเดนมาร์กเมนูดั้งเดิม นั่นคือ แซนด์วิชหน้าตาสวยงาม เปิดหน้าสูตรดั้งเดิม ปลาเฮอร์ริ่งหมัก กุ้ง และปลาไหลรมควัน เรียกว่าแต่ละเมนูผู้มาเยือนไม่ควรพลาดเลยทีเดียว หากคุณคิดถึงอาหารไทยบริเวณนี้ก็มีอาหารไทยรสชาติดั้งเดิมไว้ให้บริการ แต่เป็นแบบ Take a Way สะดวกที่จะหิ้วกลับไปทานที่บ้าน หรือจะนำมาทานในร้านบริเวณแถวนั้นร่วมกับอาหารของเขาก็ได้
ในช่วงกลางถนนจะมีบริษัทเรือสองบริษัทที่ให้บริการพานักท่องเที่ยวล่องเรือไปตามลำคลองและท่าเรือโคเปนเฮเกน ซึ่งบริษัทหนึ่งดำเนินการโดยรัฐบาลเดนมาร์ก และอีกบริษัทหนึ่งเป็นของเอกชน ส่วนราคานั้นก็ไม่ค่อยแตกต่างกันมาก เพียงแต่ว่าคุณจะเลือกใช้บริการของใครเท่านั้นเอง
การล่องเรือเที่ยวรวมถึงการไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของโคเปนเฮเกน อาทิ โบสถ์ที่อามาเจอร์ (Amager) พระราชวังหลวง (Royal Palace) ห้องสมุดหลวง (Royal Library) และย่านคริสเตียเนีย (Christiania) ซึ่งมีคลองเชื่อต่อถึงกัน
แม้แต่ในช่วงวันหยุดฤดูหนาว นิวฮอว์นก็ถูกตกแต่งประดับประดาไว้อย่างมีสีสันสะดุดตา บางทีสิ่งที่ทำให้ย่านนี้มีเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างแท้จริง อาจจะเป็นความกลมกลืนของบ้านเรือนแบบเก่า กับสังคมเมืองสมัยใหม่ที่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว เรียกว่าทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างเพลิดเพลินไปกับการดับกระหายคลายร้อนด้วยการจิบเครื่องดื่มอย่างสบายอุรา โดยมีฉากหลังเป็นตึกรามบ้านช่องที่สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18
นิวฮอว์นจึงนับเป็นตัวอย่างของสังคมเมืองรุ่นใหม่ท่ามกลางสถาปัตยกรรมโบราณแห่งประวัติศาสตร์ ด้วยความพิเศษนี้เองจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหตุใดโคเปนเฮเกนจึงสามารถครองตำแหน่งเมืองที่น่าอยู่ที่สุดเมืองหนึ่งของโลกไว้ได้อย่างไม่เคยตกอันดับ และไลฟ์สไตล์การขี่จักรยานที่ไม่เคยจางหายไป :: Text by FLASH mag.
:: Where to Stay?
“โรงแรมเรดิสสัน บลู รอยัล โฮเต็ล, โคเปนเฮเกน” (Radisson Blu, Royal Hotel, Copenhagen) เป็นโรงแรมที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ตกแต่งดีไซน์ด้วยเฟอร์นิเจอร์ผลงานของอินทีเรียดีไซเนอร์ชื่อดังระดับโลก อย่าง “อาร์น จาคอบเซน” (Arne Jocobsen) ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และสะดวกสบายต่อการเดินทาง เพียง 5 นาที จากสถานีรถไฟหลักของเมือง เพียง 2 นาที จากสวนสนุกที่เก่าแก่ของโลกอย่าง “ติวาลี” (Tivali) และเพียง 10 นาที ในการเดินไปชอปปิ้งบนถนนหลัก และติดกับศูนย์ข้อมูลข่าวสารสำหรับนักท่องเที่ยว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ +45 3342 6000 หรือ http://www.radissonblu.com/royalhotel-copenhagen
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
