xs
xsm
sm
md
lg

การกลับมาของคนเพลงยุค "เดอะ พาเลซ"/ไก่ อำนาจ

เผยแพร่:   โดย: อำนาจ เกิดเทพ

หากถามนักเที่ยวกลางคืนเมืองกรุงที่มีอายุตั้งแต่ 30 ตอนปลายเรื่อยไปจนถึง 40 ปีตอนต้นว่า ช่วงที่พวกเขาหรือเธอในวัยเดินย่ำสถานบันเทิงยามราตรีนั้น สถานที่ท่องเที่ยวไหนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด?

แน่นอนว่าหนึ่งในคำตอบนั้นจะต้องมีชื่อของ "เดอะ พาเลซ" ที่มีคำโฆษณาว่านี่คือดิสโก้เธคที่ดีที่สุดรวมอยู่ด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย


ผมเองเป็นเด็กต่างจังหวัดครับ เพิ่งจะได้ยินชื่อและความยิ่งใหญ่อลังการ์ของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ก็จากคำบอกเล่าของคุณต่อพงษ์ เศวตามร์ บก.ข่าวบันเทิงหลังมาทำงานเป็นนักข่าวของที่นี่นี่แหละครับ

เท่าที่ทราบ เดอะ พาเลซ นั้นก่อกำเนิดเกิดขึ้นมาโดยคุณยิ่งลักษณ์ วัชรพล ลูกสาวของคุณกำพล เจ้าของนสพ.ไทยรัฐ มียุคทองอยู่ในช่วงราวๆ พ.ศ. 2524-2527 โดยตอนนั้นแทบจะทุกคืนเฉพาะอย่างยิ่งคืนวันศุกร์-เสาร์ รถจะจอดกันยาวเหยียดริมถนนวิภาวดีรังสิต เพราะนักท่องเที่ยวแห่กันมาสถานที่แห่งนี้ชนิดที่ว่าแทบจะไม่มีที่ยืนเต้น

ส่วนหนึ่งที่ทำให้เดอะ พาเลซ กลายเป็นสถานที่ยอดฮิตก็คงจะเป็นเพราะได้แรงโปรโมตจากหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ที่เขียนเชียร์ในทำนองที่ว่ามีดาราคนนั้นคนนี้มาเที่ยวที่นี่เป็นประจำ โดยที่ถือว่าเป็นตำนานของที่แห่งนี้นอกจากถนนใหญ่ที่จะเปลี่ยนเป็นสนามประลองความเร็วของรถยนต์แล้ว ก็เห็นจะเป็นไปใครไปไม่ได้นอกจากนักร้องชื่อดัง "มาช่า วัฒนพานิช" ซึ่งนักเที่ยวในยุคที่ว่าหลายคนยืนยันตรงกันว่าลีลาการเต้นบนลำโพงของเธอนั้นไม่ธรรมดาจริงๆ
สายชล ระดมกิจ
อย่างไรก็ตาม หลังได้รับความนิยมอยู่ช่วงหนึ่ง เดอะ พาเลซ ก็ปิดตัวลงโดยมีข่าวออกมาว่าเป็นเพราะทางผู้ใหญ่ ซึ่งก็คือทางคุณพ่อ คุณแม่ของคุณยิ่งลักษณ์ไม่อยากให้ลูกสาวตัวเองต้องมาทำธุรกิจเช่นนี้เพราะเป็นการมอมเมาเยาวชน แต่อีกส่วนหนึ่งก็มองว่าน่าจะเป็นเพราะกระแสของที่นี่เริ่มซาลงเหตุเพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวในลักษะเดียวกันนี้เกิดขึ้นมาอีกหลายแห่งมากกว่า

ผมเองไม่ได้ยินชื่อสถานที่เที่ยวกลางคืนแห่งนี้มานานแล้วครับ อาจจะมีชะแว้บๆ นึกถึงไปบ้างก็ตอนที่ต้องอ่านข่าวที่เกี่ยวกับคุณมาช่า กระทั่งล่าสุดในงาน "รัก ณ อัมพวา" เมื่อวันเสาร์ที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา ที่จัดกันที่อุทยานร.2 อัมพวา ผมก็ต้องมาสะดุดกับชื่อ เดอะ พาเลซ นี้อีกครั้งหลังเห็นหนึ่งในรายชื่อวงดนตรีที่จะขึ้นแสดงอย่าง The Palace Generation

รอจนได้เวลาที่วงดังกล่าวทำการแสดงจึงได้รู้ว่า The Palace Generation เป็นการรวมตัวกันของของศิลปินนักร้องนักดนตรีในยุคที่ เดอะ พาเลซ โด่งดัง ซึ่งก็มีทั้ง สายชล ระดมกิจ นักร้อง-นักกีต้าร์หนึ่งในผู้ก่อตั้งวงดิ อินโนเซ้นท์, ต้น แมคอินทอช (วงศกร รัศมิทัต), อ๋อ อินคา (นล สิงหลกะ) จี๊ด สุนทร สุจริตฉันท์ แห่งคณะรอยัลสไปรท์ส

ค่ำคืนนั้นปรากฏว่าเพลงในวันวานวัยรุ่นในวันนี้ต่างพากันร้องตามได้อย่างสนุกสนานทุกเพลง ไม่ว่าจะเป็น วันวานยังหวานอยู่, ใจสยิว, เพียงกระซิบ, พบกันบนดวงดาว, สอบตก ฯ

โดยเฉพาะลีลาลวดลายท่าไอ้มดแดงของพี่จี๊ด สุนทร ในเพลง เจงกีสข่าน ที่สามารถเรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มได้เป็นอย่างดีจากคนฟัง รวมไปถึงลีลาการฟาดกลองของพี่อ๋อนั้น ต้องบอกว่าอายุหาใช่อุปสรรคสำหรับพี่แกทั้งสองแต่อย่างไร

สังเกตเห็นมีน้องๆ เด็กวัยรุ่นหลายคนเลยครับที่พากันตื่นเต้นกับ The Palace Generation ประมาณว่า...อ้าว เพลงนี้พี่คนนี้ร้องหรือ? ขณะที่บางคนก็ทำหน้างงๆ ตอนประกาศชื่อเพลง แต่พออินโทรท่อนแรกขึ้นมาเท่านั้นก็พากันร้องวี๊ดว้ายว่า...ว้ายๆ !! เพลงนี้เอง...ว้ายๆ เพลงนี้ชั้นร้องได้ ฯ

เหล่านี้ล้วนเป็นบทพิสูจน์ครับว่า บางครั้งคลื่นลูกเก่าก็ใช่ว่าจะต้องถูกคลื่นลูกใหม่กลืนกินเสมอไป หากคลื่นลูกเก่าที่ว่านั้น "มีดี" อยู่ในตัว

ความชื่นมื่นประทับใจจากการได้ฟังเพลงฮิตในอดีตที่คุ้นหูแบบสดๆ จากศิลปินเจ้าของเพลงเช่นนี้ สองวันถัดมาผมเลยต้องโทรศัพท์ไปหาคุณสายชล ในฐานะหนึ่งในแกนนำ The Palace Generation ซึ่งปัจจุบันรับหน้าที่ดูแลศิลปิน-นักร้อง ในสังกัดเลิฟอีส (Love is) เพื่อสอบถามถึงที่มาก่อนจะได้รับทราบว่าโปรเจ็กต์นี้เริ่มมาตั้งแต่ตอนที่พี่เขากับพี่อ๊อด คีรีบูน และคุณภูสมิง (หน่อสวรรค์) มีโอกาสแสดงคอนเสิร์ตค่ายเลิฟอีฟ ซึ่งปรากฏว่าเสียงตอบรับนั้นดีมาก เจ้าตัวเลยคิดว่าน่าจะชักชวนศิลปินในยุค 80 มาเกาะกลุ่มกันเอาไว้เผื่อจะมีใครที่อยากหวนถึงความสนุกสนานในอดีเรียกใช้งาน

ถึงตอนนี้นอกจากนักร้องนักดนตรีที่กล่าวอ้างไปแล้ว ก็ยังมีคนอื่นๆ อีกหลายคนที่ตอบรับเป็นส่วนหนึ่งของ The Palace Generation เช่น จิ๊บ รด. (วสุ แสงสิงแก้ว), วิทย์ ฟรีเบิร์ดส (ประวิทย์ พงษ์ธนานิกร), ป้อม คฑาวุธ (สท้านไตรภพ) จากวงชาตรี รวมถึงสองสมาชิกจาก สาว สาว สาว อย่าง ปุ้ม อรวรรณ และ แหม่ม พัชริดา

เมื่อถามว่ามีโอกาสที่ศิลปินเหล่านี้ทั้งหมดจะมารวมตัวกันทำเป็นอัลบั้มใหม่ออกมามั้ยคุณสายชลบอกว่าตอนนี้ยังไม่คิดถึงเรื่องดังกล่าว แต่อาจจะมีการเอาเพลงฮิตๆ ของแต่ละคนมารวมๆ กันไว้เป็นอัลบั้มพิเศษ ทว่าก็เป็นการพูดคุยกันคร่าวๆ เพราะจุดใหญ่ๆ คงจะอยู่ที่การรับงานมากกว่า

"ก็สนุกดีนะ อย่างงานนี้(รัก ณ อัมพวา) ก็ถือว่าเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ของเรา ซึ่งเสียงตอบรับนั้นค่อนข้างจะดีทีเดียว บางคนที่ไม่เคยเห็นเรามาก่อนก็จะตื่นเต้น ซึ่งเพลงเราที่ร้องไปก็จะมีทั้งแบบที่เป็นออริจินัลด์ บางส่วนก็มีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับงาน บางที่ก็อาจจะเล่นเพลงฝรั่งยุค 80บ้าง แล้วแต่งานครับ"

งานนี้ได้มีโอกาสสนทนากับผู้มีส่วนสร้างสรรค์เพลง เพียงกระซิบ ทั้งที เลยอดไม่ได้ที่จะถามถึงความรู้สึกที่ว่าเจ้าตัวรู้สึกอย่างไรที่เดี๋ยวนี้เพลงๆ เพียงกระซิบ ถูกดัดแปลงเว้นช่วงให้นักเที่ยวในผับ-ในเธคตะโกนสบถคำหยาบ...ไอ้เฮ็ดเฮีย...ออกมา

เพราะโดยส่วนตัว ผมเองรู้สึกว่าน่ารำคาญและมันได้ทำลายความน่ารักของเพลงที่ให้เก็บความทรงจำดีๆ เอาไว้ ถ้าอยากบอกเลิกก็แค่กระซิบบอกก็พอ เป็นอย่างมาก

คำถามนี้ทำเอานักร้องดิ อินโนเซ้นท์หัวเราะ ก่อนตอบว่าตนไม่รู้สึกเป็นบวกและเป็นลบอะไรต่อเรื่องนี้เลย และก็ต้องถือว่าเป็นสีสันอย่างหนึ่ง

"ไม่รู้นะว่ามันมาอย่างไรนะ บางทีเนื้อเพลงมันบอกว่า จดจำไว้...จนชีพวาย ก็คือเขาอาจจะรู้สึกว่าไหนๆ จะตายแล้ว ก็เลยอยากจะตะโกนระบายมั้ง ไม่รู้สิ แต่ถ้าผมเล่นก็ตั้งใจว่าจะไม่เปิดโอกาสให้ตะโกนนะ...(หัวเราะ)"


เพียงกระซิบ @ รัก ณ อัมพวา/The Palace Generation (Press Conference)
กำลังโหลดความคิดเห็น