xs
xsm
sm
md
lg

Review : OPPO N1 mini น้องเล็กสมาร์ทโฟนเซลฟีกล้องหมุนได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




หลังจากออปโป้เลือกตอบรับกระแสเซลฟีด้วย OPPO N1 จนได้รับเสียงตอบรับที่ดีเมื่อปีที่แล้วกับสมาร์ทโฟนที่มีกล้องหลังปรับหมุนได้ 206 องศาสามารถใช้แทนกล้องหน้าถ่ายภาพตัวเองได้คมชัด มาวันนี้ออปโป้ก็พร้อมนำรุ่นพี่อย่าง N1 มาปัดฝุ่นใหม่อีกครั้งในชื่อรุ่น N1 mini ด้วยการปรับขนาด สเปกใหม่เพื่อเอาใจขาเซลฟีที่ปัจจุบันเน้นกลุ่มผู้หญิงมากขึ้น

สำหรับรีวิว OPPO N1 สามารถติดตามชมได้จากลิงค์ Review : Oppo N1 เกิดมารับศัพท์ฮิตแห่งปี 'Selfie'

การออกแบบ




ขึ้นชื่อว่าเป็น N1 mini เพราะฉะนั้นขนาดรูปทรงตัวเครื่องต้องเล็กกว่า N1 รุ่นปีที่แล้ว โดยทางออปโป้ลดขนาดหน้าจอจากเดิม IPS 5.9 นิ้วที่ผู้ใช้หลายท่านโดยเฉพาะผู้หญิงมักบ่นว่าหน้าจอใหญ่เกินไป ให้เหลือเพียง 5 นิ้ว (แต่ยังใช้หน้าจอ Gorilla Glass 3 เหมือนเดิม) พร้อมลดความละเอียดหน้าจอลงจากเดิมอยู่ที่ 1,920x1,080 พิกเซลเหลือเพียง 1,280x720 พิกเซล ความละเอียดของเม็ดพิกเซลต่อตารางนิ้วอยู่ที่ 293ppi หน้าจอรองรับการสัมผัสเมื่อสวมถุงมือ น้ำหนักตัวเครื่องเบาลงเหลือเพียง 150 กรัม หนา 9.2 มิลลิเมตร

ในส่วนวัสดุที่ใช้ผลิตตัวเครื่องจะเป็นพลาสติกโพลีคาร์บอเนตสีขาว โดยฝาหลังไม่สามารถเปิดออกได้และไม่มี O-Touch เหมือน N1



ด้านปุ่มคำสั่งบริเวณหน้าจอ ทางออปโป้จะใส่เป็นแบบสัมผัสทั้งหมด 3 ปุ่มได้แก่ 1.ปุ่มเรียกเมนู เมื่อกดค้างจะเรียกหน้า Recent Apps ขึ้นมา 2.ปุ่มโฮมเมื่อกดค้างจะสามารถเรียก Google Now ได้ และสุดท้าย 3.ปุ่มย้อนกลับ




ในส่วนกล้องถ่ายภาพยังคงรักษาคอนเซปเดิมของตระกูล N1 ก็คือสามารถพลิกหมุนได้ถึง 195 องศาเพื่อเปลี่ยนให้กล้องหลังเป็นกล้องหน้าแทน (N1 หมุนได้ 206 องศา) รองรับการถ่ายภาพความละเอียดสูงสุด 13 ล้านพิกเซลด้วยเซ็นเซอร์รับภาพ CMOS จากโซนี่ รูรับแสงกว้างสุด f/2.0 มาพร้อมไฟ LED แฟลชจำนวน 1 ดวง รวมถึงความสามารถในการ Fill-flash เมื่อใช้งานร่วมกับ Beauty Mode เพื่อถ่ายภาพหน้าตัวเองจะทำให้หน้าใสเนียนโดยอัตโนมัติ




มาถึงขอบตัวเครื่องที่โดดเด่นไม่แพ้ส่วนอื่นเพราะมีการลงลายเส้นสีทองตัดขอบสีขาวที่ดูหรูหราพร้อมเคลือบพื้นผิวของขอบด้านติดกับจอภาพให้มีความมันเงาตัดกับขอบฝาหลังตัวเครื่องที่เป็นพื้นผิวแบบด้านยิ่งทำให้ตัวเครื่องดูมีราคามากขึ้น

ในส่วนปุ่มคำสั่งรอบตัวเครื่องเริ่มจากด้านซ้ายจะเป็นปุ่มเปิด/ปิด/Sleep/Awake เครื่อง ด้านขวาเป็นปุ่มเพิ่มลดระดับเสียงและช่องใส่ซิมโทรศัพท์แบบ Micro Sim (ต้องใช้เข็มที่แถมมาจิ้มลงไปที่รูเพื่อให้ถาดซิมเด้งออกมา) ส่วนของใส่ MicroSD Card หรือการ์ดเพิ่มความจุตัวเครื่องจะไม่ได้ติดตั้งมาให้



ส่วนด้านล่างของตัวเครื่องจะเป็นที่อยู่ของพอร์ต MicroUSB, ช่องเชื่อมต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรและช่องลำโพงกระจายเสียง (Internal Speaker)



นอกจากนั้นในชุดทดสอบที่ทีมงานได้รับมาในครั้งนี้ยังมาพร้อมอุปกรณ์เสริม O-Click (ต้องซื้อเพิ่ม) สำหรับใช้ร่วมกับ OPPO N1/N1 mini โดยเฉพาะ โดยตัว O-Click จะทำหน้าที่หลักเป็นปุ่มชัตเตอร์สำหรับถ่ายภาพรวมถึงสามารถกดเพื่อให้สมาร์ทโฟนส่งเสียงเรียกผู้ใช้เวลาหาเครื่องไม่เจอและสุดท้ายใช้สำหรับดูไฟแจ้งเตือนเวลามีสายเข้าหรือมีข้อความแจ้งเตือนจากแอปฯ ต่างๆ ทำให้ไม่ต้องหยิบสมาร์ทโฟนออกจากกระเป๋าบ่อยครั้ง




สำหรับสเปกของ O-Click จะใช้แบตเตอรีก้อนกลม 3V รหัส CR2016 ทำงานผ่านบลูทูธร่วมกับซอฟต์แวร์ O-Click ที่มีให้เฉพาะ OPPO N1 และ N1 mini สามารถใส่สายรัดกับข้อมือหรือแขวนรวมกับพวงกุญแจได้

สเปก



ด้านสเปกของ OPPO N1 mini จะมาพร้อมหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 400 Quad-core ความเร็ว 1.6GHz กราฟิก Adreno 305 แรม 2GB รอม 16GB (เหลือให้ใช้ได้จริง 11.38GB) ไม่สามารถเพื่มความจุด้วย MicroSD Card ได้ แต่ออปโป้อนุญาตให้เชื่อมต่อสาย USB On the Go สำหรับเชื่อมต่อกับแฟลชไดร์ฟภายนอกเพื่อโอนย้ายข้อมูล รองรับ 3G/2G ทุกเครือข่าย 850/900/1,900/2,100MHz ขับเคลื่อนด้วยแอนดรอยด์ 4.3 Jelly Bean พร้อม UI ColorOS 1.4

ในส่วนสเปกปลีกย่อยอื่นๆ N1 mini รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ 4.0 WiFi 802.11 b/g/n รองรับ WiFi Direct GPS, G-Sensor และ NFC แบตเตอรีลดจากรุ่นพี่ N1 3,160mAh เหลือเพียง 2,140mAh

ฟีเจอร์เด่น



ด้าน UI การใช้งานส่วนใหญ่จะไม่แตกต่างกับ N1 รุ่นเดิมมากนักเพราะทำงานบน ColorOS ที่ออปโป้ออกแบบเองเหมือนเดิม แอปพลิเคชันอำนวยความสะดวกที่ติดตั้งมาจากโรงงานจะให้มาไม่แตกต่างกันแต่อย่างใด




ด้าน Gestures และ Off-screen Gestures ยังมีให้เลือกใช้เหมือนเดิมแต่จะเพิ่มความแม่นยำและแก้ปัญหาคำสั่งจิ้มหน้าจอสองครั้งเพื่อปลุกหน้าจอให้ติดใหม่โดยจากรุ่นเดิมจะมีปัญหาหน้าจอชอบติดเองเมื่อใส่กระเป๋ากางเกง ตอนนี้ออปโป้ปรับเซ็นเซอร์ใหม่ให้ตรวจจับได้ว่าถ้ามีวัตถุบังเซ็นเซอร์หน้าจอจะไม่ติดซึ่งช่วยแก้ปัญหาหน้าจอติดเองได้อย่างยอดเยี่ยม




มาถึงเรื่องกล้องถ่ายภาพด้านฮาร์ดแวร์ยังคงเดิมเพียงแต่มีการปรับปรุงชิ้นเลนส์และโค้ดหน้าเลนส์ให้ดีขึ้น ส่วนเอนจิ้นขับเคลื่อนกล้องถ่ายภาพทางออปโป้เลือกใช้ Pure Image ตัวเดียวกับใน Find 7 ทำให้ซอฟต์แวร์กล้องจะได้รับโหมดถ่ายภาพใหม่ UltraHD ความละเอียด 24 ล้านพิกเซลด้วยหลักการนำภาพถ่ายขนาด 13 ล้านพิกเซลจำนวน 6 ภาพมารวมกันเป็นภาพความละเอียดสูงพร้อมฟีเจอร์ Super Zoom จาก Find 7 ก็ตามมาใน N1 mini ด้วย

และอีกโหมดที่โดดเด่นมาตั้งแต่ N1 ตัวก่อนอย่าง Slow Shutter ก็ตามมาใน N1 mini ด้วยความสามารถในการสั่งเปิดหน้ากล้องนานถึง 32 วินาทีเพื่อเก็บภาพแสงไฟยามค่ำคืนที่สวยงามแบบเดียวกับกล้องมืออาชีพ นอกจากนั้นยังรองรับการถ่ายภาพพาโนรามา, HDR, GIF Animation และ Audio Photo

ส่วนวิดีโอรองรับการบันทึกที่ความละเอียด 1,920x1,080 พิกเซลที่ความเร็วเฟรม 30 เฟรมต่อวินาทีและรองรับโหมดวิดีโอสโลโมชัน 120 เฟรมต่อวินาทีที่ความละเอียด 720p ด้วย

นอกนั้นในส่วนฟีเจอร์เด่นอื่นๆ ใน OPPO N1 mini จะคล้ายกับ OPPO N1 รุ่นพี่แทบทั้งหมด โดยผู้อ่านท่านใดสนใจอยากรับชมรายละเอียดของฟีเจอร์เหล่านั้นสามารถกดรับชมจากลิงค์ N1 ด้านบนสุด

ทดสอบประสิทธิภาพ




มาถึงส่วนการทดสอบประสิทธิภาพจากการใช้งานจริงร่วม 2 อาทิตย์เต็มพบว่าตัวเครื่องทำงานได้ลื่นไหลถึงแม้จะใช้แอนดรอยด์ 4.3 Jelly Bean ก็ตาม ตรงนี้อาจเป็นเพราะความละเอียดหน้าจอที่ไม่สูงมากเมื่อมาใช้งานร่วมกับฮาร์ดแวร์ระดับกลางๆ แล้วจึงเข้ากันได้ดี โดยเฉพาะหน้าจอตอบสนองได้รวดเร็ว ถึงแม้จะมีปัญหาแอปฯ เด้งบ้างเล็กน้อยหรือหน้าจอค้างคล้ายอาการแรมจะไม่พอแต่เมื่อปิดและเปิดแอปฯ ใหม่ปัญหาเหล่านั้นจะหายไป (ความจริงออปโป้น่าจะอัปเดตแอนดรอยด์เป็น 4.4.2 KitKat ได้แล้ว เพราะทีมงานเชื่อว่าน่าจะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นเหล่านั้นได้)

ส่วนการเล่นเกมก็ถือว่าทำได้ลื่นไหลทั้งเกมทั่วไปกราฟิกธรรมดาไปถึงเกม 3 มิติกราฟิกหนักๆ ภาพสวยๆ ก็เล่นได้ลื่นไหลพอใช้ อาจจะมีปัญหาติดขัดบ้างในเรื่องฮาร์ดแวร์ไม่รองรับกับหลายเกมที่วางขายอยู่ในหน้า Play Store ต้องรอผู้ผลิตเกมอัปเดตอีกสักพัก แต่โดยภาพรวมสำหรับการใช้งานแอปพลิเคชันทั่วไปในชีวิตของคนไทย ถ้าไม่ได้เป็นพวกชอบสรรหาแอปพลิเคชันใหม่ๆ เกมใหม่ๆ เสมอส่วนนี้ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

IMG20140802135938 IMG20140802130838 IMG20140728193249 IMG20140728192151 IMG20140726133231 IMG20140726103149 IMG20140726102502 IMG20140726100434 IMG20140725205203
กดที่ภาพเพื่อรับชมภาพขนาดใหญ่

ในส่วนกล้องถ่ายภาพด้วยซอฟต์แวร์และเอนจิ้นใหม่ถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐานของออปโป้รุ่นหลังๆ ภาพที่ได้สีสันค่อนข้างธรรมชาติ (แต่หน้าจอจะหลอกให้สีสดกว่าความจริงเล็กน้อย) ความคมชัดถือว่าค่อนข้างดีและที่สำคัญหมดปัญหาเรื่องการถ่ายเซลฟีด้วยกล้องหน้าแล้วภาพไม่คมชัดก็ถูกแก้ปัญหาด้วยกล้องหลังพลิกหมุนได้ 195 องศาที่ออปโป้ภูมิใจมาตลอดระยะเวลา 1 ปี แน่นอนว่าใน N1 mini ก็ยังทำหน้าที่ได้ดีเช่นเดิม ผู้อ่านท่านใดที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนกล้องเด่นราคากลางๆ OPPO N1 mini ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอยู่



มาถึงทดสอบถ่ายวิดีโอ 1080p 30 เฟรมต่อวินาทีส่วนนี้ถือว่าทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ทำได้ดีมาก ทีมงานได้ทดลองถ่ายในช่วงเวลากลางคืนแบบย้อนแสงเล็กน้อย แต่ N1 mini ก็ยังเก็บรายละเอียดของภาพได้ดี ส่วนมืดและสว่างถูกระบบจัดการในลักษณะของ HDR Video



มาถึงเรื่องสำคัญอีกหนึ่งเรื่องที่เป็นประเด็นใหญ่กับแบตเตอรีที่ลดความจุไฟลงเหลือ 2,140 mAh หลายคนสงสัยว่าแล้วอย่างนี้แบตเตอรีจะอึดพอใช้งานได้ 1 วันเต็มๆ ไหม คำตอบที่ได้ก็คือ ถ้าใช้งานทั่วไป เล่นโซเชียล เปิดเว็บไซต์ เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต 3G WiFi ตลอดทั้งวัน แบตเตอรีสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องประมาณ 9 ชั่วโมง ส่วนถ้ารีดเค้นใช้งานให้ประหยัดสุดๆ ได้ประมาณ 13 ชั่วโมง และใช้แบบเต็มประสิทธิภาพสำหรับการเล่นเกม 3 มิติต่อเนื่องจะอยู่ได้ประมาณ 5 ชั่วโมงเท่านั้น ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ คล้าย Nexus 5 ใช้งานจริงทั้งวันแนะนำให้พก Power Bank ไว้ด้วยจะดีที่สุด



แถมบททดสอบแบตเตอรีให้อีกหนึ่งประเด็นก็คือ การใช้นำทางด้วย GPS เปิดหน้าจอค้างไว้และเปิด 3G เพื่อดาวน์โหลดแผนที่ตลอดการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง พบว่าแบตเตอรีจาก 100% ลดเหลือ 50%



สรุปโดยภาพรวมสำหรับ OPPO N1 mini ด้านสเปกต้องบอกว่าออปโป้จัดวางมาได้อย่างพอดี เครื่องทำงานได้ค่อนข้างเร็ว ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์จัดวางมาได้ค่อนข้างลงตัว ส่วนเมื่อวัดคะแนนเฉพาะชุดทดสอบ Antutu รวมกับสมาร์ทโฟนในกลุ่มเดียวกัน OPPO N1 mini จัดอยู่ในระดับกลางๆ

ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป?

ข้อดี

- กล้องยังเป็นจุดเด่นของ N1 mini สามารถพลิกหมุนได้ 195 องศา
- ซอฟต์แวร์กล้องทำงานได้รวดเร็วขึ้น และมีลูกเล่นแบบกล้องมืออาชีพให้เลือกใช้
- วัสดุ งานประกอบดีสมราคา
- สเปกกับซอฟต์แวร์ค่อนข้างลงตัว
- Gestures ปรับให้ทำงานสมบูรณ์ขึ้น

ข้อสังเกต

- ColorOS ยังมีข้อผิดพลาดให้พบเห็นบ้างเล็กน้อย เช่น บางครั้งเข้า Gallery ภาพแล้วเครื่องค้าง
- ไร้วี่แววแอนดรอยด์ 4.4.2 KitKat ตามคู่แข่ง

ด้วยราคาเปิดตัว 12,990 บาท (O-Click อยู่ที่ 990 บาท) ก็นับว่า OPPO N1 mini เป็นสมาร์ทโฟนที่ยังคงความคุ้มค่าคุ้มราคาเมื่อเทียบกับฟีเจอร์และประสิทธิภาพที่ได้ โดยเฉพาะผู้ชื่นชอบการถ่ายภาพเซลฟีและคิดว่า N1 หน้าจอ 5.9 นิ้วใหญ่เกินไป พกพาและยกขึ้นมาถ่ายภาพลำบากหรือชอบถ่ายภาพทั่วไปที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนราคาไม่สูง N1 mini ตอบโจทย์เหล่านั้นได้อย่างดี ส่วนผู้อ่านท่านใดที่สนใจการถ่ายภาพและต้องการสเปกเครื่องและกล้องที่สูงกกว่านี้ OPPO Find 7 และ 7a ก็เป็นคำตอบที่น่าสนใจเช่นกัน เพียงแต่คุณจะไม่ได้กล้องพลิกหมุนได้เท่านั้นเอง

Company Related Link :
OPPO

Instagram

CyberBiz Social









หน้าตาคีย์บอร์ดไทย-อังกฤษ
แอปฯ อื่นๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น