xs
xsm
sm
md
lg

Review รีวิวสินค้าไอที สมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ก

x

สัมผัสแรก “Rdio” บริการเพลงออนไลน์บนแนวคิด iTunes Radio + Deezer/Spotify

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หลังจากบริการสตรีมมิ่งเพลงในชื่อ Deezer จากฝรั่งเศสเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยอย่างจริงจัง พร้อมสิ่งดึงดูดใจคนไทยที่สำคัญก็คือโปรโมชันเหมาฟังเพลงรวมถึงดาวน์โหลดเพลงแบบถูกลิขสิทธิ์มาฟังแบบออฟไลน์บนสมาร์ทโฟนด้วยราคาที่ไม่แพง (ไม่เกิน 200 บาทต่อเดือนกับคลังเพลงมากกว่า 20 ล้านเพลงทั่วโลกรวมถึงเพลงไทย) ซึ่งมี dtac เป็นพาร์ทเนอร์หลัก ทำให้กระแสการเลือกฟังเพลงผ่านอินเตอร์เน็ตเริ่มเกิดขึ้นเล็กๆ ในประเทศไทยที่ถึงแม้ปัจจุบันคนไทยส่วนใหญ่ยังคุ้นเคยกับการดาวน์โหลดเพลงแบบละเมิดลิขสิทธิ์ที่หาได้ตาม Google Search อยู่ก็ตาม

ถึงแม้จะเป็นการประสบความสำเร็จเล็กๆ ในไทย แต่ก็มีผู้ให้บริการสตรีมมิ่งเพลงออนไลน์และผู้ให้บริการวิทยุออนไลน์จากต่างประเทศเริ่มหันมาสนใจบ้านเรามากขึ้น เช่น Spotify ที่ตอนนี้คงอยู่ในช่วงเจรจากับค่ายเพลงบ้านเราอยู่ หรือ KKBOX พาร์ทเนอร์กับ AIS ที่เริ่มให้บริการแล้วในตอนนี้แต่ยังติดในเรื่องคอนเทนต์เพลงที่ยังน้อยกว่า Deezer และ Spotify ยกเว้นคอนเทนต์เพลงไทยที่ KKBOX เหนือกว่าเพราะตั้งใจจับกลุ่มวัยรุ่นไทยเป็นหลัก

และล่าสุดกับม้ามืดบริการสตรีมมิ่งเพลงออนไลน์ใหม่จากอเมริกาในชื่อ “Rdio” (น่าจะย่อมาจากคำว่า Radio ที่แปลว่าวิทยุ) ที่จู่ๆ ก็เปิดบริการในไทยอย่างไม่มีใครตั้งตัวพร้อมด้วยฟีเจอร์เด่นที่ดูท่าทีจากการทดลองใช้งานแค่ 4 ชั่วโมงแล้วดูจะโดดเด่นกว่าบริการสตรีมมิ่งเพลงอื่นๆ เลย

จุดขายชัดเจน iTunes Radio + Deezer/Spotify

ยอมรับว่าแค่ 4 ชั่วโมงที่ได้สัมผัสบริการสตรีมมิ่งเพลงใหม่นี้จนต้องขอลัดคิวมาบอกเล่าผู้อ่าน (ไม่ได้รับเงินมาเขียนเชียร์นะ) ก็เพราะจุดขายที่ชัดเจนเหลือเกิน เพียงแค่เปิดเข้าหน้าเว็บไซต์ www.rdio.com หรือจะดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “Rdio” ทั้งบน iOS หรือ Android มาติดตั้งในสมาร์ทโฟนก็ได้

โดยเมื่อเปิดเข้ามาหน้าแรก อันดับแรกที่ควรทำก็คือลงทะเบียน (สามารถลงทะเบียนผ่าน Facebook Account ได้แบบ Deezer) จากนั้นคุณจะได้รับโบนัสทดลองใช้งานฟรี 14 วันสำหรับใช้บนสมาร์ทโฟน และใช้ฟรี 6 เดือนสำหรับฟังเพลงผ่านเว็บไซต์

ส่วนถ้าต้องการสมัครสมาชิกแบบรายเดือนก็สามารถทำได้แล้วด้วยราคาเริ่มต้น 79 บาทสำหรับฟังเพลงผ่านเว็บไซต์อย่างเดียว 159 บาทสำหรับฟังเพลงผ่านเว็บไซต์และสมาร์ทโฟน และสุดท้าย 286 บาทเป็นแพกเกจครอบครัวสำหรับผู้ที่ต้องการล็อคอินหนึ่งบัญชีสองเครื่อง

และเมื่อการลงทะเบียนและ Login เสร็จสิ้น สิ่งแรกที่สัมผัสได้ก็คือความเป็น Deezer หรือ Spotify คือคุณสามารถค้นหาเพลงที่ต้องการฟังหรือดาวน์โหลดมาเก็บไว้ฟังแบบออฟไลน์บนมือถือก็ได้ รวมถึงการสร้าง Playlist ทำ Collection ส่วนตัวสำหรับอัลบั้มที่ชื่นชอบ และที่สำคัญคือมีบริการ Top Charts สำหรับดูเพลงที่ติดอันดับ เป็นต้น

แต่ทั้งนี้ความแตกต่างเริ่มเกิดขึ้นเมื่อคุณเริ่มใช้ Rdio ไปสักพัก ระบบจะเริ่มเก็บข้อมูลแนวเพลงที่คุณชอบ ศิลปินที่คุณชอบกดเข้าไปฟัง จากนั้นส่วนของข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาประมวลผลและเมื่อคุณกดเข้าไปส่วนของ Heavy Rotation หรือ Recommendations ระบบจะเริ่มแนะนำศิลปินและอัลบั้มที่คาดว่าจะถูกจริตของคุณ

นอกจากนั้นส่วนสำคัญอีกหนึ่งส่วนที่ยังไม่ได้กล่าวก็คือการนำข้อมูลศิลปินที่คุณชื่นชอบมาประมวลผลและให้ผลลัพท์เป็นแนวเพลงที่คุณชอบจากนั้นเมื่อคุณกดเข้าไปยังหน้า Profile คุณจะสามารถกดเข้าไปฟังสถานีวิทยุ (Start Station) ที่ถูกระบบกรองเพลงให้เป็นไปตามแนวเพลงที่ระบบตรวจจากการฟังเพลงของคุณไว้แล้วคล้ายกับแนวคิดเดียวบน iTunes Radio อย่างใดอย่างนั้น โดยเมื่ออยู่ในโหมดสถานีวิทยุเพลงจะถูกสตรีมมิ่งตามแนวที่คุณชอบไปเรื่อยๆ เหมือนเราฟังวิทยุที่จะสุ่มเพลงที่เราอาจไม่รู้จักแต่ถึงอย่างไรแนวเพลงจะไปตามที่เราชื่นชอบแน่นอนจนบางครั้งอาจเจอเพลงใหม่ที่เราถูกใจเพิ่ม เราก็สามารถกดเพิ่มเก็บไว้ฟังใน Playlist ของเราที่หลังได้ โดยส่วนนี้ต้องต่ออินเตอร์เน็ตตลอดเวลา ไม่สามารถทำเป็นออฟไลน์เหมือนส่วนเลือกฟังเพลงได้

และสุดท้ายสิ่งที่พิเศษที่ทีมงานพบเจอระหว่างทดสอบร่วม 4 ชั่วโมงและคิดว่าทั้ง Spotify Deezer หรือ KKBOX ไม่น่าจะมี ก็คือ ฟีเจอร์ AutoPlay โดยเมื่อใดก็ตามที่คุณฟังเพลงใน Playlist จบแล้ว ถ้าคุณต่ออินเตอร์เน็ตไว้เพลงจะยังเล่นต่อไปโดยใช้วิธีสุ่มเพลงอื่นๆ ที่อยู่บนพื้นฐานแนวเพลงที่ผู้ใช้ชื่นชอบไปเรื่อยๆ ซึ่งนับว่าเป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจมาก

อีกทั้งด้วยหน้าตา UI ทั้งเว็บไซต์และบนสมาร์ทโฟนที่ออกแบบมาได้สวยงามแบบเดียวกับ iOS 7 รวมถึงระบบสตรีมมิ่งที่ทำงานได้รวดเร็ว ไปถึงการเน้นความเป็นโซเชียลแชร์สถานีวิทยุหรือเพลงที่ชื่นชอบของเราไปให้เพื่อนฟังผ่าน Facebook หรือ Twitter และไฟล์เพลงสามารถเลือกฟังแบบ High Quality ได้แบบเดียวกับ Spotify ที่ขึ้นชื่อเรื่องเสียงดี ในขณะที่ผมได้ลองทดสอบเปรียบเทียบคุณภาพเสียงกับคู่แข่งในไทยโดยตรงอย่าง Deezer แล้ว “Rdio” ให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่าเยอะมากจนรู้สึกได้


แต่น่าเสียดายเหลือเกินที่ปัจจุบันเพลงไทยในคลังของ Rdio ยังน้อยมาก โดยเฉพาะค่ายแกรมมี่ที่ไปตกลงปลงใจกับ KKBOX จนไม่ยอมปล่อยลิขสิทธิ์เพลงมายังผู้ให้บริการรายอื่นเลย ก็คงต้องรอดูต่อไป... แต่สำหรับคนที่ชื่นชอบฟังเพลงต่างประเทศอยู่แล้ว Rdio ถือว่าสอบผ่าน โดยเฉพาะเพลงนอกกระแสที่มีให้เลือกฟังมากมายไม่แพ้ Deezer และ Spotify เลย

ตอนนี้ CyberBiz ของเราได้เปิด Instagram เพิ่มอีก 1 ช่องทาง ผู้อ่านทุกท่านสามารถไปกดติดตามได้ครับที่ http://instagram.com/cbizonline

CyberBiz Social


ระบบสามารถเรียนรู้ว่าคุณชอบศิลปินแนวไหนและนำเสนอศิลปินที่ตรงกับจริตให้คุณเลือกฟังได้
ชื่นชอบเพลงไหนก็สามารถจัดลง Playlist แล้วเล่นได้ทั้งแบบออฟไลน์บนสมาร์ทโฟน และออนไลน์
สถานีวิทยุของ Rdio ที่คล้ายกับหลักการทำงานของ iTunes Radio
ฟีเจอร์ AutoPlay จะทำงานทันทีหลังเพลงใน Playlist จบลง โดยเพลงที่สุ่มต่อจะอยู่บนพื้นฐานแนวเพลงที่คุณชอบทั้งหมด
แอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ทำงานแบบเดียวกับ Deezer KKBOX หรือ Spotify
ค่าบริการรายเดือน
กำลังโหลดความคิดเห็น