กล่าวถึงแบรนด์ Sennheiser (เซนไฮเซอร์) จากเยอรมัน นักเล่นหูฟังทั้งหลายคงทราบถึงชื่อเสียงและความหรูหราของแบรนด์นี้เป็นอย่างดีว่าเป็นพรีเมียมแบรนด์ที่มีค่าตัวสูงและมักคลอดหูฟังมาจับกลุ่มพวกหูทอง (Audiophile)เป็นหลัก แต่มาวันนี้เซนไฮเซอร์ขอกลับมาโฟกัสกลุ่มเกมเมอร์อีกครั้งโดยร่วมมือกับ ฟรังส แกลซุท เควล หัวหน้าทีมซาวนด์ดีไซน์ ไอโออินเตอร์แอ็กทีฟในการออกแบบเกมแบบเฮดเซ็ทรุ่นใหม่ในกลุ่ม G4ME
โดย G4ME จัดอยู่ในกลุ่มเกมเฮดเซ็ทไฮเอนด์ มีด้วยกัน 2 รุ่นได้แก่ รุ่นเกมซีโร่ (G4ME ZERO) และรุ่นเกมวัน (G4ME ONE) ซึ่งรุ่นที่ผม @dorapenguin ได้รับมาทดสอบคือเกมซีโร่ (G4ME ZERO)
การออกแบบและสเปก
สำหรับงานประกอบและรูปลักษณ์ของเกมเฮดเซ็ทเซนไฮเซอร์ เกมซีโร่ จะเน้นไปทางพลาสติกเนื้อดี เก็บงานรอยต่อต่างๆ ได้ยอดเยี่ยม ข้อต่อต่างๆ รอบเฮดเซ็ทรุ่นนี้ใช้วัสดุเป็นอะลูมิเนียมเนื้อดีทั้งหมด มีไมโครโฟนที่มาพร้อมเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน (Noise Cancellation) และมีเซ็นเซอร์ตรวจจับเมื่อโยกตัวไมโครโฟนลงมาบริเวณปาก ไมค์จะเปิดให้ใช้งานอัตโนมัติ ส่วนเมื่อโยกไมโครโฟนขึ้นเหนือศรีษะผู้สวมใส่ไมค์จะปิดเสียงชั่วคราวเพื่อป้องกันเสียงรอบตัวเข้าสู่ไมโครโฟน
ในส่วนน้ำหนักของเกมซีโร่อยู่ที่ 312 กรัมและการออกแบบรูปทรงเฮดเซ็ททั้งหมดเป็นไปตามหลัก ERGONOMIC ACOUSTIC REFINEMENT โดยช่างเซนไฮเซอร์ที่เยอรมัน ทำให้สวมใส่สบายมาก
มาถึง Ear Pads ถูกออกแบบให้มีขนาดใหญ่ (XXL Size) บริเวณฟองน้ำครอบใบหูหุ้มหนังถูกออกแบบใหม่หมดด้วยวัสดุภายในซ้อนทับกันแบบ Dual Layer memory foam แถมช่องว่างระหว่างฝาพลาสติกปิดลำโพงหูฟังยังมีการเสริมส่วนป้องกันเสียงจากภายนอก ทำให้เกมซีโร่เป็นหูฟังแบบปิด (Close Design) ที่ระหว่างใช้งานแทบไม่ได้ยินเสียงสภาพแวดล้อมเล็ดลอดเข้ามาให้รำคาญหูและเสียสมาธิแน่นอน
ส่วนฟองน้ำรองศรีษะที่มีตรา Sennheiser สามารถปรับระดับความสูงได้แบบอิสระเหมาะกับศรีษะของผู้สวมใส่ทุกรูปแบบ
ด้านลำโพงขยายเสียงเข้าหูผู้สวมใส่ถูกออกแบบให้ยิงเข้าสู่รูหูตรงๆ โดยส่วนของลำโพงเสียต่ำจะออกแบบให้ยิงเฉียงใบหูเล็กน้อยเพื่อให้ทิศทางเสียงเวลาใช้งานจะช่วยบล็อกเสียงที่รอดผ่านเข้ามา รวมถึงเรื่องมิติของเสียงที่เกิดขึ้น ส่วนเสียงสูงและกลางจะยิงเข้าหูตรงๆ เพื่อให้ผู้ใช้ได้ยินรายละเอียดเสียงในเกมได้ชัดเจนขึ้น
โดยในส่วนของสเปกลำโพงจะรองรับความถี่เสียงได้กว้างตั้งแต่ 10Hz-26,000Hz ส่วนไมโครโฟนรองรับความถี่เสียงที่ 50Hz-16,000Hz
ส่วนของหัวแจ็คเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์จะแยกเป็นสองหัวได้แก่ สีเขียวคือหูฟังและสีชมพูคือไมโครโฟน พร้อมสายสัญญาณเสียงยาว 3 เมตร สามารถลากสายไปเสียบหลังคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะได้สบายๆ หรือจะลากสายไปเสียบกับช่อง Headphone ที่โทรทัศน์หรือเครื่องเสียงก็สามารถทำได้อย่างไม่ต้องกังวัลว่าความยาวสายจะไม่พอแต่อย่างใด
อีกส่วนที่น่าสนใจและช่วยอำนวยความสะดวกนอกจากไมโครโฟนที่สามารถหักขึ้นลงเพื่อปิดเปิดตัวรับเสียงได้แล้ว ที่บริเวณครอบหูด้านขวายังมีปุ่มหมุนปรับเพิ่มลดระดับเสียงของหูฟังได้ด้วย
และก่อนจะเข้าสู่ส่วนทดสอบประสิทธิภาพ ผมมีทริกเล็กน้อยอยากแนะนำให้ผู้อ่านได้ทราบถึงวิธีดูสินค้าเซนไฮเซอร์ปลอมหรือแท้ โดยใช้วิธีการดูสติ๊กเกอร์ “Sennheiser Original” ซึ่งจะแปะอยู่ที่กล่องด้านนอกพร้อมรหัสผลิตภัณฑ์ ID และ QR-Code โดยการเช็คสามารถพิมพ์เข้าเว็บไซต์ www.qr-sennheiser.com (หรือใช้แอปฯ QR-Code ในสมาร์ทโฟนยิงที่ตัว QR ก็ได้) แล้วนำเลข ID ที่อยู่เหนือ QR-Code ใส่ลงไป ระบบจะแจ้งกลับมาว่าคุณใช้สินค้าเซนไฮเซอร์แท้หรือไม่
ทดสอบประสิทธิภาพ
มาถึงการทดสอบประสิทธิภาพ ด้านคุณภาพเสียงที่ได้จากเฮดเซ็ทตัวนี้จากการทดสอบร่วมกับเกม Call of Duty Ghosts เป็นเวลานานกว่า 2 ชั่วโมงผ่านการ์ดเสียง Creative Sound Blaster - X-Fi ต้องยอมรับว่าเสียงมีความคมชัดสูง โดยเฉพาะรายละเอียดเสียงเล็กๆ น้อยๆ ทั้งหมดสามารถได้ยินจากเฮดเซ็ทรุ่นนี้ เพราะส่วนแรก ครอบหูกันเสียงสภาพแวดล้อมจากภายนอกได้ดีมากทำให้ผู้ใช้โฟกัสกับเสียงได้อย่างไม่มีเสียงรบกวนจากภายนอกมาเบี่ยงเบนความสนใจหรือรบกวนสมาธิของผู้เล่นเกม
ส่วนที่สองความกว้างของเสียงช่วงกลางและสูงที่ได้ค่อนโดดเด่น ในขณะที่เสียงเบสต่ำๆ จะออกลักษณะแข็งกระด้างเล็กน้อยแต่ก็ยังมีพลังที่ซ่อนอยู่ภายในมาก เพราะจากการทดสอบเฉพาะฉากระเบิดและยิงสนั่นจอเมื่อเสียงโทนต่ำในเกมเดินทางมาถึงจุดสูงสุด ความแข็งกระด้างของเบสที่ได้จากเฮดเซ็ทรุ่นนี้จะถูกอัดพลังให้หนักแน่นกว่าเดิมจนเร้าใจเหมือนเหยียบคันเร่งรถยนต์แล้วเทอร์โบถูกยิงจนหลังผู้ขับติดเบาะอย่างใดอย่างนั้น
แต่กลับกัน เมื่อเรานำเกมซีโร่ไปใช้ร่วมกับการฟังเพลง แม้จะเป็นเพลงร็อคหนักแน่น ฮาร์ดคอร์ กีตาร์เสีัยงแตกตีสายหนักแน่นเพียงใด เมื่อมาฟังร่วมกับเฮดเซ็ทรุ่นนี้ต้องบอกว่า “เสียงที่ได้แบนและไร้มิติ โดยเฉพาะเสียงเบสที่บางเบาแบนติดดิน ฟังแล้วไม่เข้ากันสุดๆ”
สรุป/ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป?
ขอชม
- เป็นเกมเมอร์เฮดเซ็ทที่ป้องกันเสียงสภาพแวดล้อมภายนอกเข้ามารบกวนหูได้ดีมาก
- ไมโครโฟนสามารถหักขึ้นลงเพื่อปิด-เปิดส่วนรับเสียงได้
- มีปุ่มหมุนปรับความดังเสียง
- สายสัญญาณเสียงให้มายาว
- มีกล่องใส่มาให้
ข้อสังเกต
- เมื่อเปิดเสียงดัง เสียงจะเล็ดรอดออกไปรบกวนคนนั่งข้างๆ บ้างเล็กน้อย
- ไม่มีแจ็ครวมสายสัญญาณเสียงและไมโครโฟนให้เป็นแจ็คหัวเดียวเพื่อใช้เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนมาให้
- ถึงแม้การออกแบบภายในและส่วนครอบหูจะทำได้ดีมาก แต่วัสดุส่วนพลาสติกหลักภายนอกค่อนข้างเป็นรอยง่าย
สำหรับราคา Sennheiser G4ME ZERO อยู่ที่ประมาณ 9,000-10,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงมาก แต่ก็แลกกับประสิทธิภาพด้านเสียงที่ยังคงความยอดเยี่ยมเช่นเดิม และเหมาะกับสาวกเกมเมอร์กระเป๋าหนักหรือใช้เป็นอาชีพมากกว่า เพราะป้องกันเสียงสภาพแวดล้อมจากภายนอกได้ดี ช่วยให้ผู้เล่นมีสมาธิมากขึ้น
Company Related Link :
Sennheiser
CyberBiz Social