เอชทีซี One Mini ถือเป็นอีกรุ่นใน One ซีรีส์ ที่เป็นการต่อยอดมาจากรุ่นแรกของเอชทีซี One โดยจุดเด่นหลักของ One Mini คือขนาดที่พอดีมือ แต่ยังคงความสามารถหลักๆของ One อย่างลำโพงคู่หน้า และโหมดกล้องถ่ายภาพ Zoe อยู่เช่นเดิม
ประกอบกับการเปลี่ยนหน่วยประมวลผลให้ต่ำลงมาเหลือเป็น Snapdragon 400 ทำให้เอชทีซี สามารถตั้งราคาจำหน่าย One Mini ไว้ในระดับหมื่นต้นๆ จึงถือเป็นการขยายตลาดของเอชทีซีให้ครอบคลุมช่วงราคาตั้งแต่หมื่นต้นๆ ไปถึง 2 หมื่นบาท ภายใต้ซีรีส์ของ One
การออกแบบและสเปก
ด้วยการออกแบบที่นำ One มาย่อส่วนลง โดยยังคงยึดการเป็นเครื่องอะลูมิเนียมยูนิบอดี้อยู่เช่นเดิม ทำให้ตัวเครื่องไปสามารถถอดฝาหลัง หรือเปลี่ยนแบตเตอรีได้ เบื้องต้นวางจำหน่ายให้เลือกกัน 2 สีคือ ดำ และเงิน มีขนาดรอบตัวอยู่ที่ 132 x 63.2 x 9.25 มม. น้ำหนัก 122 กรัม
ด้านหน้า - จะเห็นหน้าจอทัชสกรีนขนาด 4.3 นิ้ว ความละเอียด HD (1,280 x 720 พิกเซล) ความละเอียดเม็ดสี 341 ppi ส่งผลให้การแสดงผลคมชัด โดยมีลำโพงคู่หน้าที่เป็น Boom Sound ช่วงขับพลังเสียง คู่กับระบบเสียงของ Beats Audio นอกจากนี้ก็จะมีกล้องหน้าความละเอียด 1.6 ล้านพิกเซล และเซ็นเซอร์วัดแสง ตรวจจับใบหน้า
ด้านหลัง - จากความที่เป็นอะลูมิเนียมแบบยูนิบอดี้ทำให้ต้องมีการวางส่วนรับสัญญาณโทรศัพท์และไวไฟ ผ่านลายพลาสติกสีขาวที่แทรกอยู่กับตัวเครื่อง โดยจะมีกล้องความละเอียด 2 อัลตร้าพิกเซล และไฟแฟลช ถัดลงมามีโลโก้ HTC และ Beats Audio แสดงอยู่ด้วย
ด้านซ้าย - จะมีช่องสำหรับใส่ไมโครซิมการ์ด ที่จำเป็นต้องใช้เข็มจิ้มเพื่อดึงถาดซิมออกมา ด้านขวา - เป็นปุ่มปรับระดับเสียงเท่านั้น
ด้านบน - มีเพียงปุ่มเปิดเครื่อง และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ด้านล่าง - มีช่องเสียบสายชาร์จแบบไมโครยูเอสบี และไมโครโฟนสนทนา
สำหรับสเปกภายในของ One Mini จะมาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 400 ที่เป็นควอดคอร์ 1.4 GB RAM 1 GB พื้นที่เก็บข้อมูลภายในตัวเครื่อง 16 GB ไม่สามารถใส่ไมโครเอสดีการ์ดเพิ่มได้ แบตเตอรีที่ให้มาอยู่ที่1,800 mAh ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.3
ด้านการเชื่อมต่อรองรับ 3G ทุกคลื่นความถี่ อัตราการดาวน์โหลดสูงสุด 42 Mbps รองรับไวไฟ มาตรฐาน 802.11 a/b/g/n บลูทูธ 4.0 จีพีเอส แต่จะไม่มี NFC และอินฟาเรตเหมือนในรุ่นพี่ One และ One Max
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
สำหรับฟีเจอร์ที่ให้มาภายใน One Mini ก็จะเหมือนกับใน One และ One Max แทบทั้งหมด เพียงแต่ใน One Mini จะตัดการทำงานในส่วนของเซ็นเซอร์อินฟาเรดออก ทำให้ไม่สามารถใช้ตัวเครื่องเป็นรีโมทควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้ และระบบสแกนลายนิ้วมือส่วนที่เหลือจะไม่แตกต่างกัน
โดยแอปพลิเคชันที่ให้มาในเครื่องจะประกอบไปด้วยบริการจากกูเกิลเซอร์วิส และโซเชียลเน็ตเวิร์กทั่วไป แน่นอนว่าอินเตอร์เฟสหลักของเอชทีซี ยังคงเป็น Blink Feed อยู่เช่นเดิม ทั้งนี้ในส่วนของหน้าจอแสดงการแจ้งเตือนจะมีไอค่อนลัดสำหรับตั้งค่าเพิ่มขึ้นมาให้ได้เลือกใช้กัน
หน้าจอเว็บเบราว์เซอร์ เนื่องจากตัวเครื่องมีขนาดหน้าจอลงมาอยู่ที่ 4.3 นิ้ว อาจทำให้การใช้งานส่วนนี้ไม่ประทับใจเท่าที่ควร ถ้าเคยใช้จอที่ใหญ่กว่านี้มาแล้ว แต่ถ้าเพิ่งเคยใช้งานจอระดับนี้ก็ถือว่าเพียงพอกับการใช้งานแล้ว
ระบบคีย์บอร์ดเสมือนที่ให้มาในเครื่องถือว่าตอบสนองได้ค่อนข้างดี โดยมีจุดเด่นตรงที่ปุ่มลูกศรให้ใช้เลื่อนเคอเซอร์เวลาพิมพ์แล้วต้องการแก้ไข เพราะหน้าจอที่เล็กอาจทำให้จิ้มผิดจิ้มถูกได้ การใช้งานทั้งภาษาไทยและอังกฤษทำได้ดีเยี่ยม
อย่างไรก็ตามถ้าต้องการอ่านถึงความสามารถฟีเจอร์เพิ่มเติมใน HTC One Mini สามารถย้อนกลับไปอ่านเพิ่มได้ทั้งที่ HTC One และ HTC One Max
ในส่วนของผลการทดสอบ ผ่านโปรแกรมทดสอบประสิทธิภาพบนแอนดรอยด์อย่าง Quadrant Standart และ Antutu ได้คะแนน 6,013 คะแนน และ 15,028 คะแนน ตามลำดับ หน้าจอรองรับการสัมผัส 10 จุดพร้อมกัน
ทดสอบการใช้งาน HTML 5 ผ่าน Vellamo ได้ 2,288 คะแนน ส่วนประสิทธิภาพตัวเครื่องได้ 615 คะแนน ทดสอบกราฟิกผ่าน Nenamark1 ได้ 60.3 fps Nenamark2 56.8 fps An3dBench 7,423 คะแนน และ An3dBenchXL 36,585 คะแนน
ขณะที่การทดสอบด้วยโปรแกรม Passmark PerformanceTest Mobile ได้คะแนน System 2,240 คะแนน CPU 4,464 คะแนน Disk 7,041 คะแนน Memory 2,760 คะแนน 2D Graphics 1,902 คะแนน และ 3D Graphics 741 คะแนน
ส่วนการทดสอบ CF-Bench ดูรายละเอียดได้จากรูปด้านล่าง
จุดขาย
- ตัวเครื่องมีขนาดอยู่ในระดับที่พกพาง่าย เหมาะกับการใช้งาน
- ความโดดเด่นของ Boom Sound กับ Beats Audio
- โหมดถ่ายภาพ Zoe กับกล้องความละเอียด 2 อัลตร้าพิกเซล เช่นเดียวกับในเครื่องรุ่นพี่
ข้อสังเกต/ตอบจุดขายหรือไม่
- สเปกอาจไม่แรงเท่าที่ควร
- ยังไม่รองรับการเชื่อมต่อ 4G
- ตัวเครื่องไม่รับ NFC
- ใส่หน่วยความจำเพิ่มไม่ได้
ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป
One Mini จะเหมาะกับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนขนาดกำลังพอดีมือ ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป โดยเฉพาะกับผู้หญิงที่มองว่าการพกสมาร์ทโฟนเครื่องใหญ่ๆ เป็นเรื่องลำบาก รวมไปถึงการที่ช่วยให้สามารถใช้งานได้ด้วยมือข้างเดียวด้วย
ประกอบกับราคาจำหน่ายที่เปิดราคาปกติมาอยู่ที่ 14,900 บาท ถ้าเป็นลูกค้าดีแทค จะลดลงมาเหลือ 12,900 บาท แลกกับสมาร์ทโฟนที่เป็นแอนดรอยด์ สเปกเพียงพอต่อการใช้งาน และมั่นใจว่าจะได้รับการอัปเกรดเป็นแอนดรอยด์ 4.4 (Kitkat) และระบบลำโพง Boom Sound กับ Beats Audio ถือว่าค่อนข้างคุ้มค่า
ขณะที่ในแง่ของแบตเตอรีแม้จะให้มาเพียง 1,800 mAh แต่ก็ต้องถือว่าระบบจัดการพลังงานของ One Mini ทำได้ค่อนข้างดี สามารถใช้งานทั่วไปได้ 1 วันสบายๆ จากขนาดหน้าจอที่เล็กลงด้วย เรื่องเสียงสนทนาถือว่าอยู่ในระดับมาตรฐาน พร้อมกับระบบตัดเสียงรบกวนด้วย
Company Related Links :
HTC
CyberBiz Social