เปิดฉากสงครามความแรงของซีพียูจากค่ายมือถือไทยอย่างไอโมบายนับตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรกของปี ด้วยความสามารถของซีพียูแบบ 8 คอร์ที่แยกการทำงานอย่างอิสระ แถมด้วยการออกแบบที่ดูหรูหราเพื่อตั้งเป้าเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงของค่าย หวังกระตุ้นยอดขายตลาดบนแบบตาต่อตาฟันต่อฟันกับค่ายมือถือแบรนด์ใหญ่ แม้ว่าสภาพตลาดในประเทศจะซบเซาจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่แน่นอน และส่งผลต่อบรรยากาศการซื้อขายโดยรวม แต่กระนั้นยอดขาย i-mobile IQX Octo ในงานมหกรรมมือถือครั้งที่ผ่านมาก็มียอดจองเข้ามาเกินความคาดหมาย แน่นอนว่าสิ่งที่เป็นคำถามคาใจของชาวสมาร์ทโฟนที่สำคัญก่อนซื้อก็คือ ระยะเวลาการใช้งานจะเป็นอย่างไรเมื่อสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ใช้ซีพียูถึง 8 คอร์
i-mobile IQX Octo โดดเด่นด้วยความสามารถของฮาร์ดแวร์ที่อัดแน่นไปด้วยซีพียูแบบ 8 คอร์ที่แม้ว่าจะเป็นค่าย Mediatek แต่ก็นับว่าเป็นความแรงที่เกินคุ้มเมื่อเทียบกับราคา ควบรวมด้วยกล้องถ่ายภาพที่ไม่เป็นรองใครของมือถือตระกูล IQX จากค่ายไอโมบาย แม้ว่าจะเป็นกล้อง 12.7 ล้าน+ซอฟต์แวร์ซึ่งถูกเคลมว่าเป็นกล้องขนาด 18 ล้านก็ยังถือว่าเป็นกล้องที่อยู่ในกลุ่มความคมชัดสูงอยู่ดี และที่สำคัญการออกแบบที่ดูละม้ายคล้ายเครื่องสมาร์ทโฟนกลุ่มไฮเอนด์อย่างแบรนด์ HTC ก็ดูจะเป็นการก้าวออกจากการออกแบบเดิมๆที่ไอโมบายเคยเลือกใช้ แต่ท้ายที่สุดสิ่งเหล่านี้จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคและแปรเปลี่ยนเป็นกำลังซื้อที่ชัดเจนได้หรือไม่ ‘ประสิทธิภาพ’ จะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการตัดสินใจซื้อ
การออกแบบและสเปก
i-mobile IQX OCTO เลือกใช้วัสดุแบบผสมผสานทั้งส่วนของพลาสติกและโลหะอย่างลงตัว โดยแรกเห็นมีความคล้ายเครื่องแบรนด์ดังอยู่พอสมควร หากแต่เมื่อสังเกตให้ดีจะเป็นความแตกต่างทั้งมิติของการออกแบบ และการเลือกใช้จุดเข้ามาสร้างเป็นปุ่ม 3 ปุ่มที่สำคัญของระบบแอนดรอยด์ โดยขนาดตัวเครื่องของ i-mobile IQX OCTO มีขนาด 143 x 68.5 x 9.7 มิลลิเมตร น้ำหนัก 142 กรัม
ด้านหน้า - ด้วยหน้าจอขนาด 5 นิ้ว พร้อมการจัดวางชิดขอบเพื่อลดขนาดส่วนเกินที่ไม่จำเป็น ช่วยให้เครื่องดูมีมิติของเนื้อหาที่เข้มข้นมากขึ้น ด้านบนและล่างมีสีเทาเพื่อตัดสีดำของหน้าจอเพิ่มความหรูหราได้พอสมควร ขณะที่ปุ่มกด 3 ปุ่มหลักของแอนดรอยด์ได้รับการออกแบบจากจุดเล็กๆทีมาเรียงร้อยกลายเป็นสัญลักษณ์ของปุ่มเมนู โฮม และย้อนกลับได้อย่างลงตัว
หน้าจอทัชสกรีนแบบ Capacitive ที่ใช้เทคโนโลยี IPS ขนาด 5 นิ้ว แสดงผลกว่า 16 ล้านสี ให้ความละเอียดสูงถึง 1,920 x 1,080 พิกเซล มาพร้อมกล้องหน้าขนาด 8 ล้านพิกเซลที่อยู่ด้านบนพร้อมแฟลชสำหรับผู้ที่ชื่นชอบถ่ายภาพตัวเอง
ด้านหลัง - ด้านหลังจะเป็นพลาสติกสีขาวเนื้อมันวาว โดยตรงกลางด้านบนจะเห็นกล้องขนาด 18 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลช LED คู่ที่สามารถเปลี่ยนเป็นไฟฉายได้สำหรับแอปพลิเคชันไฟฉาย ถัดลงมาจะเป็นเครื่องหมาย IQ ที่เป็นตัวแทนของรุ่น
ขณะที่ถัดลงมาด้านล่างจะเห็นสัญลักษณ์ ‘X’ ที่ไม่ใช้เป็นเพียงการบ่งบอกตระกูล IQX เท่านั้น แต่ยังเป็นการกำหนดตำแหน่งระบบการชาร์จไร้สายที่ไอโมบายทำเซอร์ไพร์แถมมาให้ฟรีภายในกล่อง ด้านล่างนอกจากจะเห็นโลโก้พร้อมบาร์โค้ดของเครื่องแล้ว ด้านล่างยังเห็นช่องลำโพงวางอยู่ด้านซ้ายสำหรับการถ่ายทอดพลังเสียงแบบ สเตอริโอ
ด้านซ้าย - ด้านซ้ายมีช่องใส่ไมโครซิมการ์ด 2 ช่อง โดยเป็นแบบใช้เข็มทิ่มเพื่อเด้งถาดซิมออกมา ขณะที่ด้านขอบมีโลหะมันวาวโดยรอบ ช่วยเพิ่มความหรูหราและทนทานในมุมองของความรู้สึก ด้านขวา - มีปุ่มกดพาวเวอร์และปุ่มเพิ่มและลดเสียง ซึ่งทำจากโลหะช่วยเพิ่มความหรูหรา ขณะที่ขอบโดยรอบเป็นโลหะเช่นเดียวกับด้านซ้ายตลอดทั้งเครื่อง
ด้านบน จะมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรเพื่อเป็นทั้งหูฟังและสายสัญญาณวิทยุในคราวเดียว ด้านล่าง - จะเห็นพอร์ตไมโครยูเอสบีสำหรับเสียบสายชาร์จ หรือเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ อีกทั้งด้านข้างจะเห็นช่องขนาดเล็กสำหรับดูดเสียงไมโครโฟนสำหรับการสนทนา
i-mobile IQX OCTO มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล OCTA Core MTK 6592 1.7 GHz พร้อมแยกหน่วยประผลกราฟิกแบบ GPU Mali 450 MP อยู่ภายใน มีแรมขนาด 2 GB พื้นที่เก็บข้อมูล 32 GB ซึ่งถือว่าเพียงพอในระดับหนึ่งในการใช้งาน และไม่รองรับหน่วยความจำภายนอก ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.2.2 (Jelly Bean)
แบ่งเวอร์ชันรองรับเครือข่าย 3G ออกเป็น 2 รุ่น โดยเวอร์ชันแรกเป็นรุ่น 1068 รองรับ 3G ย่านความถี่ 850/2100 MHz และรุ่น 1069 รองรับ 3G ย่านความถี่ 900/2100 MHz รองรับ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11 a/b/g/n/ac มี NFC บลูทูธ จีพีเอส สามารถใส่ซิมการ์ดได้ 2 ซิมแบบไมโครซิมการ์ด รองรับการชาร์จไร้สาย พร้อมแบตเตอรี่ที่ไม่สามารถเปลี่ยนเองได้แบบ Li-Polymer ขนาดความจุ 2,300 mAh
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
ระบบการชาร์จไร้สาย ถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่โดดเด่นที่สุดสำหรับผม เนื่องจาก i-mobile IQX OCTO เป็นสมาร์ทโฟนราคาหมื่นต้นที่สามารถแถมฟีเจอร์การชาร์จไร้สายมาในเครื่องอย่างเสร็จสรรพ เท่านั้นยังไม่พอภายในกล่องยังมีแท่นชาร์จไร้สายแถมมาให้ โดยสามารถเป็นทั้งแท่นชาร์จไร้สายและลำโพงพร้อมไมค์ในตัว โดยที่ไม่ต้องไปซื้อหามาเพิ่มให้ยุ่งยากต่อการใช้งานอีกต่อไป ซึ่งก็ทำให้ฟีเจอร์นี้โดนใจผมเป็นอย่างมาก เพราะแม้ว่าการชาร์จไร้สายแท้ที่จริงแล้วอาจจะไม่เกิดประโยชน์ที่มากมายอะไร แต่การได้มีไว้ใช้งานก่อนใครก็น่าจะเป็นความประทับใจอยู่ไม่น้อย
หน้าจอความละเอียดสูงแบบ Full HD เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์เด่นของการใช้งานที่สามารถจับต้องได้จริง เพราะความคมชัดระดับความละเอียด 1,920x1,080 พิกเซล ช่วยให้การใช้งานด้านมัลติมีเดียดูเป็นเรื่องสนุกสนานเพิ่มขึ้น โดยสามารถเลือกชมจากโลกออนไลน์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แน่นอนการทำงานที่ประสานกันระหว่างหน่วยประมวลผลแบบ 8 คอร์และการทำงานของ GPU ก็ช่วยเพิ่มการประมวลผลภาพที่ละเอียดมากยิ่งขึ้น และนั่นก็ทำให้เราสามารถเห็นมิติของภาพที่ชัดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพหรือเล่นเกมในสมาร์ทโฟนเครื่องนี้
ระบบ NFC นับเป็นระบบการเชื่อมต่อรุ่นใหม่ที่เป็นแนวทางของอนาคต ทำให้สะดวกในการเชื่อมต่อมากกว่าระบบบลูทูธแบบเก่าที่ความปลอดภัยยังต่ำอยู่ แน่นอนว่าการแตะเพื่อส่งข้อมูลระหว่างกันก็เป็นอีกหนึ่งความปลอดภัยที่มีอยู่ในระบบ NFC ที่เราคุ้นเคย อีกทั้งยังสามารถพัฒนาเป็นกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการได้หลากหลายในอนาคต นับว่าเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกให้เกิดขึ้นกับชีวิตประจำวันมากขึ้น
กล้องหลังความละเอียด 18 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลช LED คู่ และกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ช่วยให้การถ่ายภาพเป็นเรื่องสนุกสานอย่างไม่รู้ตัว และหมดกังวลว่าภาพที่ถ่ายจะหายไปกับการชำรุดของการ์ดความจำภายนอกอย่างที่เคยเกิดขึ้นกับเครื่องรุ่นอื่นๆ แน่นอนว่าความจำตัวเครื่องที่ให้มากว่า 32GB แม้ว่าจะไม่สามารถสามารถใส่หน่วยความจำภายนอกได้ แต่ก็นับว่าเพียงพอต่อการใช้ถ่ายภาพด้วยกล้อง 18 ล้านพิกเซลได้อย่างเพียงพอ อีกทั้งความสามารถของกล้องที่สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้กว่า 90 เฟรมต่อวินาที ก็ช่วยให้ไม่พลาดทุกจังหวะของการถ่าย
ภาพตัวอย่างจากการถ่ายด้วยกล้องขนาด 18 ล้านพิกเซล
เลนส์แบบ BSI ช่วยให้การถ่ายภาพในที่มีแสงน้อยเป็นเรื่องสนุก แน่นอนว่ามือถือทั่วไปมักขยาดกับการถ่ายภาพในที่แสงน้อยนั่นเพราะว่าภาพที่ได้จากการถ่ายจะมีอาการสั่นไหว ทำให้ภาพนั้นหมดความสวยงานและไม่สามารถใช้งานได้ แต่ด้วยความสามารถของเทคโนโลยี BSI ที่ซ่อนอยู่ภายในกล้องหลัง 18 ล้านและกล้องหน้า 8 ล้าน ก็ช่วยให้การถ่ายเป็นเรื่องง่ายขึ้น อีกทั้งระบบโฟกัสแบบอัตโนมัติก็สามารถทำงานสอดรับกันได้เป็นอย่างดี โดยรวมถือว่าสอบผ่านในระดับที่น่าพอใจ
ภาพตัวอย่างจากการถ่ายในที่สภาพแสงน้อย
การค้นหาด้วยเสียง ต้องบอกว่าเครื่อง i-mobile IQX OCTO รุ่นนี้ มีการติดตั้งโปรแกรมดังกล่าวไว้เป็นโปรแกรมพื้นฐานของเครื่องด้วย นับว่ามีความรวดเร็วในการอัปเดตโปรแกรมอยู่พอสมควร โดยการทดลองค้นหาเว็บผู้จัดการออนไลน์โดยการพูดคำว่า “เว็บ ผู้จัดการ” ซึ่งก็ได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ แต่กระนั้นอาจจะต้องออกสำเนียงที่ถูกต้องเพื่อประสิทธิภาพในการค้นหา โดยสามารถรองรับการค้นหาด้วยเสียงไทยอย่างสะดวก
การใช้งานอินเทอร์เน็ตด้วยหน้าจอขนาด 5 นิ้วพร้อมความละเอียดสูงแบบ Full HD ก็ช่วยเพิ่มสีสันและความคมชัดให้กับเว็บไซต์แต่ละเว็บที่เปิดดูได้เป็นอย่างดี
คีย์บอร์ดที่ให้มารองรับการพิมพ์ภาษาไทย โดยเป็นคีย์บอร์ดแบบ QWERTY ตามมาตรฐานทั่วไปทั้งแนวตั้งและแนวนอน แต่ในการเปลี่ยนภาษานั้นจะมีปุ่มให้เลือกอยู่ด้านบนโดยสามารถกดเพียงครั้งเดียวแล้วกดเลือกภาษาอีกครั้ง หรือจะกดค้างไว้แล้วเลื่อนเพื่อเปลี่ยนภาษาก็สามารถทำได้
และเพิ่มลูกเล่นการพิมพ์ด้วยเสียงเข้ามา โดยจะสังเกตเห็นไมค์อยู่ด้านล่างขวา เมื่อกดและพูดตามภาษาของคีย์บอร์ดที่เลือกไว้ ระบบจะทำการประมวลผลเพื่อพิมพ์ออกมาเป็นตัวอักษรในเวลาไม่นาน ช่วยเพิ่มความสะดวกในกรณีที่ไม่สามารถใช้นิ้วพิมพ์ได้แบบปรกติ
ในส่วนของผลการทดสอบ ผ่านโปรแกรมทดสอบประสิทธิภาพบนแอนดรอยด์อย่าง Quadrant Standart และ Antutu ได้คะแนน 16,150 คะแนน และ 27,550 คะแนน ตามลำดับ นับว่าเป็นคะแนนที่สูงมากเมื่อเทียบกับราคาที่จ่าย เพียงแต่หน้าจอสามารถรองรับการสัมผัสพร้อมกันได้เพียง 5 จุดเท่านั้น อาจจะไม่สบอารมณ์คอเกมที่ต้องการฝนหน้าจอเท่าไหร่นัก
ทดสอบการใช้งาน HTML 5 ผ่าน Vellamo ได้ 1,943 คะแนน ส่วนประสิทธิภาพตัวเครื่องได้ 637 คะแนน ทดสอบกราฟิกผ่าน Nenamark1 ได้ 47.1 fps Nenamark2 47.1 fps An3dBench 6,282 คะแนน และ An3dBenchXL 33,613 คะแนน
ขณะที่การทดสอบด้วยโปรแกรม Ice Storm Unlimited ได้คะแนน 7,003 คะแนน Ice Storm Extreme ได้คะแนน 4,041 คะแนน Ice Storm ได้คะแนน 4,653 คะแนน
ขณะที่การทดสอบด้วยโปรแกรม Passmark Performance Test Mobile ได้คะแนน System 2,685 คะแนน CPU 13,266 คะแนน Disk 23,821 คะแนน Memory 1,498 คะแนน 2D Graphics 1,609 คะแนน และ 3D Graphics 1,052 คะแนน
ส่วนการทดสอบ CF-Bench ดูรายละเอียดได้จากรูปด้านล่าง
จุดขาย
- ซีพียูแรงสูง 8 คอร์ OCTA Core MTK 6592 1.7Ghz
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบไมโครซิม
- รองรับการชาร์จไร้สาย พร้อมแถมอุปกรณ์ชาร์จครบชุด
- หน้าจอความละเอียดสูง Full HD 1,920x1,080 พิกเซล
- กล้องหลัก 18 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลชคู่ กล้องหน้า 8 ล้านพร้อมแฟลช
- รองรับ NFC
- ราคาเพียง 12,500 บาท
ข้อสังเกต/ตอบจุดขายหรือไม่
- แม้ว่าจะมีซีพียู 8 คอร์ แต่การประมวลผลภาพยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ยังมีอาการหน่วงให้เห็นเล็กน้อย
- การชาร์จไร้สายต้องใช้เวลานานกว่าปกติในการชาร์จเกือบ 2 เท่า
ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป
หากเทียบราคากับฮาร์ดแวร์ของเครื่องถือว่าคุ้มค่าที่จะจ่ายเป็นอย่างยิ่ง แต่ท้ายที่สุดประสิทธิภาพขงการประมวลผลแม้ว่าจะไม่โดดเด่นอย่างที่คิด แต่ก็ลื่นไหลในระดับที่สามารถใช้งานได้อย่างไม่มีสะดุด ซึ่งก็น่าจะเป็นเพราะว่าคาดหวังกับซีพียูแบบ 8 คอร์ที่จะต้องได้ความเร็วมากกว่าเครื่องอื่นๆจนลืมคิดไปว่าความเร็วของเครื่องทั้งหมดไม่ได้เกิดจาก ซีพียู เพียงอย่างเดียว แต่ต้องรวมประสิทธิภาพทั้งหมดของฮาร์ดแวร์เพื่อกลั่นประสิทธิภาพของเครื่องนั่นเอง
แน่นอนว่าของแถมที่ให้มาสำหรับ i-mobile IQX OCTO ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแรงจูงใจ เพราะเท่าที่รู้ยังไม่เคยเห็นสมาร์ทโฟนรายใด แจกเครื่องชาร์จไร้สายให้เป็นหนึ่งในอุปกรณ์พื้นฐานเลยสักครั้ง และยังไม่นับรวมอุปกรณ์ที่จำเป็นอื่นๆอีกหลายรายการ ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์เหล่านี้เมื่อต้องซื้อมือถือเครื่องใหม่ลงได้หลายบาท
ฟันธงว่าคุ้มค่าสำหรับผู้ที่รอคอยความแรงของซีพียูแบบ 8 คอร์ราคาไทย แต่ก็ต้องยอมรับว่าความเร็วของเครื่องที่ได้อาจจะต้องแรกมาด้วยพลังงานแบตเตอรี่ที่มากตาม แม้ว่าผู้ผลิตจะเลือกใช้แบตเตอรี่แบบ Li-Pol ขนาด 2,300 mAh แล้วก็ตาม ขณะที่ความลื่นไหลของระบบก็ยังมีให้สะดุดอยู่บ้างตามการใช้งาน
Company Relate Link :
i-mobile
CyberBiz Social