การที่ไอโมบายต่อยอดเครื่องในรุ่นไฮเอนด์ของแบรนด์ด้วยการผลิตสินค้ารุ่นใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่องทั้ง IQ X2 และ IQ X3 ที่ออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน มีเหตุผลหลักมาจากการที่ตัวโรงงานไม่สามารถผลิตเครื่องได้เพียงพอกับความต้องการของตลาด ทำให้ต้องเข็นรุ่นใหม่ออกมาเร็วกว่าที่กำหนดไว้เพื่อรักษาอัตราการเติบโต
ซึ่งข้อดีของการที่มีรุ่นใหม่ออกมาทั้งๆที่รุ่นเก่าเพิ่งวางจำหน่ายไปไม่นานก็คือผู้บริโภคจะได้ใช้เทคโนโลยี ในระดับที่มีประสิทธิภาพสูงในระดับราคาที่ต่ำลง ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจเลือกซื้อสมาร์ทโฟนในช่วงระดับราคาต่ำกว่า 1 หมื่นบาทได้ไม่ยาก
จุดเด่นหลักของ IQ X2 ที่เพิ่มมาจาก IQ X1 ก็คือเรื่องของหน้าจอที่เพิ่มขนาดและความละเอียดขึ้นมาอยู่ในระดับ Full HD ในขณะที่อินเตอร์แบรนด์หลายๆรายในท้องตลาด ในเครื่องระดับราคานี้จะอยู่ที่ความละเอียดหน้าจอ 720p เท่านั้น ส่วนด้านการใช้งานอื่นๆถือว่าไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก
การออกแบบและสเปก
ในแง่ของการออกแบบด้วยความที่เพิ่มขนาดหน้าจอเป็น 5 นิ้ว ทำให้ต้องมีการเพิ่มขนาดตัวเครื่องจากในรุ่น IQ X แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์ในแง่ของขอบตัวเครื่องที่ใช้้เป็นสีเงินอะลูมิเนียมอยู่ โดยมีขนาดรอบตัวอยู่ที่ 144 x 71 x 8.4 มิลลิเมตร น้ำหนัก 150 กรัม
ด้านหน้า - มาพร้อมกับหน้าจอ Full HD ที่ความละเอียด 1080p ในขนาด 5 นิ้ว และยังเป็นจอแบบ IPS ด้วย โดยมีลำโพงสนทนาพาดอยู่ส่วนบน ขนาบไปด้วยเซ็นเซอร์วัดแสง และตรวจจับใบหน้า กับกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลอยู่ด้านข้าง ส่วนล่างหน้าจอก็จะมีปุ่มเมนู โฮม และย้อนกลับตามปกติของแอนดรอยด์
ด้านหลัง - ใช้เป็นฝาหลังพลาสติกสีขาวแบบผิวมัน โดยมีกล้องความละเอียด 18 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชอยู่ที่ส่วนบน ถัดลงมามีสัญลักษณ์ IQ ส่วนล่างจะเป็นตราไอโมบาย และช่องลำโพง
เมื่อเปิดฝาหลังออกมาจะพบกับช่องใส่แบตเตอรีสีดำขนาด 2,300 mAh แต่ไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้ โดยมีช่องใส่ไมโครเอสดีการ์ด ช่องใส่ซิมการ์ดขนาดปกติ และช่องใส่ไมโครซิมการ์ดเรียงกันอยู่ส่วนบนของแบตเตอรี
ด้านซ้าย - ถูกปล่อยว่างไว้ ด้านบน - มีเพียงช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.
ด้านขวา - มีปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง ปุ่มปรับระดับเสียง โดยมีช่องสำหรับงัดฝาหลังอยู่ด้วย ด้านล่าง - มีพอร์ตไมโครยูเอสบีสำหรับเสียบสายชาร์จ และเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ และช่องไมโครโฟนสนทนา
อุปกรณ์ที่แถมมาให้ในกล่องจะประกอบไปด้วยคู่มือ ใบรับประกัน ฟิลม์กันรอย (ที่แปะมาให้สามารถลอกออกเพื่อใช้งานได้ทันที) เคสใส อะแดปเตอร์ชาร์จ สายยูเอสบีแบบแบน และหูฟัง
สำหรับสเปกภายในของ IQ X2 ใช้หน่วยประมวลผล Mediatek MT6589T (Quad-Core) 1.5GHz RAM 1 GB ROM 4 GB ทำงานบนระบบปฏิบัติการ 4.2.2 ตัวช่องใส่ซิมการ์ดรองรับ 3G 850/1900/2100 และ 900 / 2100 MHz รองรับไวไฟ บลูทูธ จีพีเอส ตามสมาร์ทโฟนสมัยนิยม
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
ในแง่ของฟีเจอร์การใช้งานโดยรวมยังไม่มีความแตกต่างจากในรุ่นเดิมอย่าง IQ X มากนัก เพราะทั้งระบบปฏิบัติการ อินเตอร์เฟสการใช้งานยังคงรูปแบบเดิมมาทั้งหมด ดังนั้นถ้าต้องการรายละเอียดแบบเจาะลึกสามารถย้อนกลับไปอ่านได้ที่
Review - i-mobile IQ X สมาร์ทโฟนสเปกสูงราคารับได้
เริ่มกันตั้งแต่หน้าจอปลดล็อกก็เป็นแบบทั่วไปของแอนดรอยด์ 4.2.2 ที่ใช้นิ้วลากเพื่อปลดล็อก ซึ่งสามารถเลือกใช้เมนูลัดอย่างกล้อง หรือเลือกดูวิตเจ็ตด่วนในหน้านี้ก็ได้เช่นเดียวกัน เมื่อปลดล็อกเข้ามาก็จะพบกับหน้าจอหลักที่ผู้ใช้สามารถนำวิตเจ็ตมาใช้
ในส่วนของหน้าจอการแจ้งเตือน ก็เป็นแบบเบสิคของแอนดรอยด์ทั่วไป คือสามารถกดเข้าไปดูการตั้งค่าลัด ที่สามารถเลือกเปิดโหมดเครื่องบิน ไวไฟ บลูทูธ จีพีเอส ดาต้า ดูข้อมูลการใช้งาน ปรับความสว่างหน้าจอ ตั้งเวลาปิดหน้าจออัตโนมัติ และระบบหมุนหน้าจออัตโนมัติ
สำหรับแอปพลิเคชันที่พรีโหลดมาให้ในเครื่องของ IQ X2 ถือว่ามาให้ครบกับการใช้งานได้ทันที เพราะนอกจากแอปพลิเคชันทั่วไปของกูเกิลแล้ว ก็ได้มีการเพิ่มพวกแอปฯ สแกนบาร์โค้ด แอปฯล้างข้อมูล ตัวจัดการไฟล์ คอนเทนต์เสริมของไอโมบาย ไลน์ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม สไกป์ วอทแอปฯ วีแชท มาให้ด้วย จึงไม่จำเป็นต้องเสียเวลาดาวน์โหลดเพิ่มแต่อย่างใด
ด้วยหน้าจอขนาด 5 นิ้ว และตัวเครื่องมีการลง Adobe Flash มาให้ ทำให้การแสดงผลหน้าเว็บไซต์สามารถใช้งานได้ครบถ้วน การแสดงผลเว็บเบราว์เซอร์ถือว่าได้ตามมาตรฐาน ทั้งแนวตั้งและแนวนอน
สำหรับแอปฯจัดการไฟล์ที่มีมาให้ ถือว่าค่อนข้างครบเพราะสามารถใช้เลือกดูไฟล์ข้อมูล คัดลอก วาง ย้ายไฟล์ได้ทันที ส่วนของ Clean Master ไว้มาช่วยล้างหรือปิดแอปฯที่ไม่ต้องการใช้งาน หรือล้างไฟล์ที่ไม่จำเป็นออกจากตัวเครื่อง นอกจากนี้ก็ยังมี วิทยุFM มาให้ใช้งานด้วย
โหมดใช้งานโทรศัพท์ที่ให้มา มีปุ่มตัวอักษรขนาดใหญ่ พร้อมระบบเดาเลขหมายให้ใช้งาน ส่วนหน้าจอขณะสนทนาก็มีโหมดให้เลือกเข้าปุ่มกด เปิดลำโพง ปิดไมค์ พักสาย เพิ่มสายตามปกติ ขณะที่หน้าจอรับสายก็จะใช้การสไลด์ปุ่มเพื่อรับเช่นเดิม
คีย์บอร์ดที่ให้มา ใช้การเรียงเลย์เอาท์มาตรฐานเดียวกับในพีซี เพียงแต่จะมีบางปุ่มที่สลับที่เล็กน้อย แต่การใช้งานถือว่าค่อนข้างดี เพราะการรับสัมผัสของหน้าจอที่แม่นยำขึ้น ส่วนคีย์บอร์ดภาษาอังกฤษก็ทั่วๆไป การเปลี่ยนภาษาทำได้โดยการกดปุ่มที่มีสัญลักษณ์ลูกโลก
โหมดกล้อง ยังคงใช้อินเตอร์เฟสแบบเดิมกับใน IQ X พร้อมระบบการอัดเม็ดสีให้ภาพที่ได้มีความละเอียด 18 ล้านพิกเซล ด้วยเซ็นเซอร์กล้อง 13 ล้านพิกเซล การใช้งานก็สามารถเลือกโหมดถ่ายภาพทางฝั่งซ้ายได้ทันที ทั้งโหมดปกติ HDR Beauty Face พาโนราม่า หน้ายิ้ม เป็นต้น
ขณะที่ในส่วนของการตั้งค่าก็สามารถ ปรับสมดุลแสง ความสว่าง ตั้งเวลาถ่ายภาพ โหมดกันสั่น ปรับ ISO ได้สูงสุด 1600 ตั้งเอฟเฟกต์ภาพ โดยการถ่ายภาพวิดีโอได้ที่ความละเอียด 1080p
ส่วนของการตั้งค่าก็เป็นไปตามรูปแบบเดิมในแอนดรอยด์ 4.2.2 ที่มีการแบ่งส่วนของการตั้งค่าออกเป็น 5 ส่วนคือ การเชื่อมต่อ อุปกรณ์ ส่วนตัว บัญชีผู้ใช้ และระบบ ซึ่งที่เพิ่มมาใน IQ X2 ก็เห็นจะเป็นระบบจัดการ 2 ซิมการ์ด การตั้งโปรไฟล์เสียงแบบในฟีเจอร์โฟน และโหมดตั้งเวลาเปิด-ปิดเครื่อง
ในส่วนของผลการทดสอบ ผ่านโปรแกรมทดสอบประสิทธิภาพบนแอนดรอยด์อย่าง Quadrant Standart และ Antutu ได้คะแนน 4,769 คะแนน และ 12,083 คะแนน ตามลำดับ หน้าจอรองรับการสัมผัส 10 จุดพร้อมกัน
ทดสอบการใช้งาน HTML 5 ผ่าน Vellamo ได้ 1,409 คะแนน ส่วนประสิทธิภาพตัวเครื่องได้ 523 คะแนน ทดสอบกราฟิกผ่าน Nenamark1 ได้ 56.5 fps Nenamark2 33.9 fps An3dBench 7,562 คะแนน และ An3dBenchXL 37,994 คะแนน
ขณะที่การทดสอบด้วยโปรแกรม Passmark PerformanceTest Mobile ได้คะแนน System 2,363 คะแนน CPU 9,979 คะแนน Disk 3,703 คะแนน Memory 1,788 คะแนน 2D Graphics 2,188 คะแนน และ 3D Graphics 789 คะแนน
ส่วนการทดสอบ CF-Bench และ 3D Mark ดูรายละเอียดได้จากรูปด้านล่าง
จุดขาย
- หน้าจอ IPS 5 นิ้ว ความละเอียด 1080p
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และเป็น 3G ทั้งคู่ (แต่แยกคลื่น)
- เครื่องประสิทธิภาพสูงในราคาประหยัด
ข้อสังเกต/ตอบจุดขายหรือไม่
- ตัวเครื่องใช้วัสดุเป็นพลาสติก ไม่สามารถถอดเปลี่ยนแบตฯได้
- ไม่รองรับฟังก์ชันทันสมัยใหม่ๆอย่างพวก NFC
ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป
ถ้ากำลังมองหาสมาร์ทโฟนประสิทธิภาพดี ในราคาประหยัด ชื่อชั้นของไอโมบาย น่าจะกลายเป็น 1 ในตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะในช่วงหลังๆที่เริ่มหันมารุกในตลาดสมาร์ทโฟนก็มีการพัฒนาคุณภาพของสินค้าให้ดีขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน เพียงแต่ยังขายดในแง่ของการสร้างจุดต่างภายในตัวแอนดรอยด์ ที่ยังใช้ระบบแบบพื้นฐานของกูเกิล ไม่ได้มีการปรับแต่งมากที่ควร
จุดเด่นสำคัญของ IQ X2 ที่ราคา 9,490 บาท ก็ยังคงเน้นที่รองรับการใช้งาน 2 ซิม เพียงแต่ก็จะขาดลูกเล่นเสริมที่สมาร์ทโฟนไฮเอนด์อินเตอร์แบรนด์มีเพิ่มมาให้อย่างพวกฟีเจอร์อำนวยความสะดวกในการใช้งานต่างๆ ซึ่งถ้างบไม่เยอะแล้วต้องการสมาร์ทโฟนที่ใช้งานครบๆก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
แต่ที่ต้องดูกันต่อไปก็คือในแง่ของบริการหลังการขาย ที่เมื่อมีการจำหน่ายสมาร์ทโฟนมากขึ้น ศูนย์บริการจะเป็นอย่างไร แล้วก็รวมไปถึงในแง่ของการอัปเดตเฟิร์มแวร์ที่จะตามมาในอนาคต ถ้าทางกูเกิลออกเวอร์ชันใหม่มาทางไอโมบายจะอัปเดตตามได้รวดเร็วแค่ไหน
Company Related Links :
i-mobile
