ความโดดเด่นของ i-Mobile IQ 9 คงหนีไม่พ้นในเรื่องของหน้าจอขนาดใหญ่ 5.7 นิ้ว ในระดับราคาไม่เกิน 1 หมื่นบาทตามสไตล์ของไอ-โมบาย แต่จุดที่เพิ่มมูลค่าให้แก่ IQ 9 จริงๆคงเป็นในแง่ของประสิทธิภาพตัวเครื่องที่ไม่ได้ขี้เหร่ รองรับการใช้งาน 2 ซิม และกล้องที่ให้มาความละเอียดถึง 18 ล้านพิกเซล เช่นเดียวกับใน IQ X
การออกแบบและสเปก
ด้วยความที่ขนาดหน้าจอค่อนข้างใหญ่ ทำให้รอบตัวเครื่องของ IQ 9 ดูแล้วจะค่อนข้างหนา แม้จะมีขนาดรอบตัวอยู่ที่ 161 x 82 x 8.9 มิลลิเมตร น้ำหนักราว 160 กรัม วัสดุที่ใช้ตรงขอบเครื่องจะเป็นอะลูมิเนียมสัมผัสแล้วให้ความรู้สึกแข็งแรงดี แต่ส่วนอื่นๆอย่างฝาหลังจะเป็นพลาสติกแทบทั้งหมด
ด้านหน้า - มีหน้าจอ Capasitive ทัชสกรีนขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด 1,280 x 720 พิกเซล โดยมีช่องลำโพงสนทนาพาดอยู่กึ่งกลางบน และมีเซ็นเซอร์ตรวจวัดแสง และตรวจจับใบหน้าอยู่ที่ฝั่งขวา ส่วนฝั่งซ้ายจะเป็นกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ล่างหน้าจอก็จะเป็น 3 ปุ่มควบคุมหลักของแอนดรอยด์
ด้านหลัง - เป็นที่อยู่ของกล้องความละเอียด 18 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช 2 ตัว โดยมีโลโก้ IQ และ i-mobile อยู่แนวกลาง และมีลำโพงอยู่ที่ส่วนล่าง เมื่อแกะฝาหลังออกมาจะพบแบตเตอรี่ขนาด 2,600 mAh ซึ่งมีช่องใส่ไมโครเอสดีการ์ด ซิมการ์ดขนาดมาตรฐาน และไมโครซิมการ์ดอยู่
ด้านซ้าย - มีเพียงปุ่มปรับระดับเสียง ด้านขวา - มีปุ่มเปิดเครื่องซึ่งอยู่ในจุดที่กำลังพอดี ด้านบน - จะมีทั้งช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. และพอร์ตไมโครยูเอสบีสำหรับเสียบสายชาร์จและเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์
สิ่งที่ไอโมบาย แถมมาให้ในกล่องของ IQ 9 จะมีทั้งแผ่นกันรอยหน้าจอ เคสใส และเคสแบบมีฝาปิด พร้อมกับปากกาสไตลัสให้นำไปใช้งานกัน หูฟัง สายยูเอสบี ที่ชาร์จ และซิม 3GX 500 MB และคู่มือการใช้งาน
จุดเด่นของเคสแบบมีฝาปิดคือ เวลาเปิดฝาขึ้นมาแล้วหน้าจอจะติดโดยอัตโนมัติด้วย สามารถใช้ได้โดยการเปลี่ยนฝาหลังเดิม และนำฝาหลังที่มีเคสใส่เข้าไปแทนที่ได้ทันที จึงเหมือนกับมีฝาหลังมาให้ 2 อันโดยปริยาย
สำหรับสเปกภายในของ IQ 9 จะมาพร้อมกับหน่วยประมวลผลควอดคอร์ 1.2 GHz โดยใช้ชิปของ MTK 6589 RAM 1 GB หน่วยความจำภายใน 4 GB รองรับการใส่ไมโครเอสดีการ์ดเพิ่มสูงสุด 32 GB ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.2.1 (Jelly Bean)
ส่วนในแง่ของการเชื่อมต่อมี 2 ซิม กล่าวคือช่องนึงสามารถใช้งานเป็น 2G และอีกช่องใช้งานเป็น 3G บนคลื่น 850 / 2100 MHz โดยสามารถตั้งเปลี่ยนได้จากในตัวเครื่องเช่นเดียวกับ IQ X รองรับการเชื่อมต่อไวไฟ บลูทูธ จีพีเอส วิทยุFM
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
ถ้ามองในแง่ของฟีเจอร์การใช้งานแล้ว IQ 9 แทบไม่แตกต่างจาก IQ X ที่ออกมาวางจำหน่ายก่อนหน้านี้เลย นอกจากในเรื่องของหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น และแบตที่อึดขึ้นเท่านั้น เริ่มกันจากหน้าจอปลดล็อกก็มีให้เลือกเพื่อปลดล็อกปกติ หรือเข้าสู่โหมดกล้องได้ทันที
หน้าจอหลักก็จะมีพื้นที่สำหรับให้ผู้ใช้เลือกนำวิตเจ็ตต่างๆมาวางด้วยตนเอง โดยจะมีแถบไอค่อนหลักอยู่ด้านล่างคือ โทรศัพท์ รายชื่อ เข้าสู่แอปฯทั้งหมด ข้อความ และเว็บเบราว์เซอร์ให้เลือกใช้
ส่วนของแถบแจ้งเตือนก็จะมีปุ่มสำหรับเข้าไปตั้งค่าต่างๆของเครื่อง อย่างเช่นเปิดโหมดเครื่องบิน สถานะแบตเตอรี่ การเชื่อมต่อไวไฟ บลูทูธ จีพีเอส ดาต้า ดูปริมาณการใช้งานข้อมูล เลือกโปรไฟล์ ปรับความาสว่างหน้าจอ ตั้งเวลาปิดหน้าจอ และการหมุนหน้าจออัตโนมัติ
สำหรับแอปพลิเคชันที่ให้มาในเครื่อง ถือว่าจัดเต็มมาให้แบบพร้อมใช้งานเพราะนอกจากจะมีแอปฯเฉพาะที่มากับแอนดรอยด์ทั่วไปแล้ว ไอโมบาย ยังได้มีการพรีโหลดพวกแอปฯสำหรับสำรองข้อมูล เคลียแรม ปิดแอปฯที่ไม่ได้ใช้ หรือพวกคอนเทนต์ต่างๆในกลุ่มของไอโมบายมาให้ด้วย
ในหน้าจอการตั้งค่าก็จะมีให้เลือกจัดการซิมการ์ด ตั้งค่าการเชื่อมต่อ ตั้งค่าอุปกรณ์ บัญชีผู้ใช้ต่างๆตามปกติ ซึ่งลักษณะทั้งหมดจะเป็นเช่นเดียวกับ IQ X
หน้าจอโทรศัพท์ก็จะมีระบบเดาเลขหมายให้ ด้วยขนาดหน้าจอที่ค่อนข้างใหญ่ ทำให้สามารถกดใช้งานได้ง่ายมาก เมื่อมีสายเข้าก็ทำการรับสายได้จากการลากนิ้ว ส่วนขณะสนทนาจะมีแสดงรูปผู้ใช้ ชื่อ เลขหมาย ซิมที่ใช้อยู่ และมีแถบด้านล่างสำหรับเลือกเปิดลำโพง ปิดเสียง พักสาย เพิ่มสายอยู่
โหมดกล้องที่ให้มา สามารถเลือกเปลี่ยนโหมดใช้งานได้จากแถบเลือกทางฝั่งซ้ายซึ่งจะมีทั้งโหมดถ่ายภาพปกติ ถ่ายแบบชดเชยแสง โหมดหน้าสวย พาโนราม่า ตรวจจับใบหน้า หรือเลือกปรับความสว่างรูปได้ทันที ส่วนฝั่งขวาก็จะเป็นปุ่มชัตเตอร์กล้องและปุ่มบันทึกภาพวิดีโอ
ในส่วนของการตั้งค่ากล้องก็จะมีให้เลือกตั้งทั้งเอฟเฟกต์สี สมดุลแสงขาว คุณสมบัติภาพถ่าย เปิดใช้งานโหมด Zero Shutter Lag เป็นต้น ทั้งนี้ในส่วนของขนาดภาพจะเห็นได้ว่าสามารถเลือกได้สูงสุดถึง 18 ล้านพิกเซลเช่นเดียวกับ IQ X เพราะใช้เทคโนโลยีในการประมวลผลภาพแบบเดียวกัน
ส่วนที่อยากแนะนำเพิ่มเติมก็จะมีในส่วนของแอปฯที่ไอโมบายเพิ่มเข้ามาให้ เช่นตัวจัดการไฟล์ ที่สามารถกดเข้าไปเลือกได้ทันที ตัว Advance Task manager เอาไว้คอยเลือกปิดแอปพลิเคชันที่ไม่ได้ใช้ แล้วส่งผลให้เครื่องช้า หรือจะเลือกใช้ 1 tap Cleaner ในการล้างไฟล์ Cache ในเครื่องร่วมด้วยก็ได้เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ก็ยังมีโปรแกรมสำรองข้อมูล ที่ใช้สแกนไวรัสไปในตัวได้ด้วย รวมถึึงยังใช้ดูสถานะการเชื่อมต่อ สำรองรายชื่อผู้ติดต่อ และเก็บข้อมูลทางการเงิน รวมไปถึงแอปฯอย่างเครื่องบันทึกเสียง และวิทยุFM ให้ใช้ได้ทันที
การใช้งานเว็บเบราว์เซอร์ ถือว่าค่อนข้างโอเคกับระดับราคานี้ แม้ว่าหน้าจอจะมีขนาดใหญ่ แต่ด้วยความที่ให้หน่วยประมวลผลและแรมมาน้อย ทำให้อาจมีการประมวลผลไม่ทัน การแสดงผลในบางจุดจึงมีอาการหน่วงบ้าง แต่ก็ชดเชยได้ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่นั่นเอง
ในส่วนของผลการทดสอบ ผ่านโปรแกรมทดสอบประสิทธิภาพบนแอนดรอยด์อย่าง Quadrant Standart และ Antutu ได้คะแนน 3,654 คะแนน และ 13,176 คะแนน ตามลำดับ หน้าจอรองรับการสัมผัส 5 จุดพร้อมกัน
ทดสอบการใช้งาน HTML 5 ผ่าน Vellamo ได้ 1,451 คะแนน ส่วนประสิทธิภาพตัวเครื่องได้ 446 คะแนน ทดสอบกราฟิกผ่าน Nenamark1 ได้ 57.7 fps Nenamark2 45.8 fps An3dBench 7,443 คะแนน และ An3dBenchXL 37,575 คะแนน
ขณะที่การทดสอบด้วยโปรแกรม Passmark PerformanceTest Mobile ได้คะแนน System 2,314 คะแนน CPU 8,383 คะแนน Disk 7,500 คะแนน Memory 1,659 คะแนน 2D Graphics 2,127 คะแนน และ 3D Graphics 737 คะแนน
ส่วนการทดสอบ CF-Bench และ 3DMark ดูรายละเอียดได้จากรูปด้านล่าง
จุดขาย
- หน้าจอขนาดใหญ่ถึง 5.7 นิ้ว ในราคา 9,450 บาท
- ประสิทธิภาพเครื่องเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆไป
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด 2G/3G
- กล้องหลัก 18 ล้านพิกเซลที่ใช้เซ็นเซอร์ BSI ร่วมกับซอฟต์แวร์เพิ่มขนาดภาพ และกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
ข้อสังเกต/ตอบจุดขายหรือไม่
- ตัวเครื่องใหญ่ และค่อนข้างหนัก ทำให้อาจถือใช้งานลำบาก
- กล้องใช้งานจริงที่ 13 ล้านพิกเซลดีกว่า 18 ล้านพิกเซล
- หน้าจอรองรับการสัมผัสพร้อมกันเพียง 5 จุดเท่านั้น ทำให้การตอบสนองไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร
ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป
ถ้ามองหาสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ใกล้ๆ 6 นิ้ว รองรับการใช้งาน 2 ซิม และแบตค่อนข้างอึด i-mobile IQ 9 ถือว่าเป็น 1 ในตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะจากระดับราคาที่วางไว้ 9,450 บาทในช่วงเปิดตัว ถือว่าราคาค่อนข้างคุ้ม
แต่ถ้าในแง่ของไลฟ์สไตลการใช้งานแล้วต้องการเครื่องที่พกพาง่าย ประสิทธิภาพสูงๆอาจจะต้องหันไปเล่นเครื่องรุ่นอื่นที่มีราคาแพงมากกว่านี้แทน เนื่องจากการทำราคาต่ำของไอโมบาย ทำให้ใช้ชิปที่ถือเป็นเกรดรองลงมาแทนเพื่อลด้นทุนในการจำหน่าย
จุดที่ดูแล้วน่าจะพิเศษคือการแถมของอย่างเคสใส และเคสมีฝาปิดมาให้ในกล่องด้วยเลย ไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่มเติม น่าจะเป็นจุดดึงดูดใจของผู้ที่ชื่นชอบไอโมบายอยู่แล้ว เรียกได้ว่าซื้อเสร็จอุปกรณ์ครบพร้อมใช้งานได้ทันที
Company Related Links :
i-mobile