การมาของ i-mobile IQ X แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการกู้ภาพลักษณ์ของสามารถ ไอโมบาย ให้กลับมามีจุดยืนในตลาดโทรศัพท์ได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการปูทางเพื่อออกสมาร์ทโฟนรุ่นเด่นตามมาๆ หรือการเพิ่มไลน์สินค้าให้ครอบคลุมทุกช่วงราคาในระดับต่ำกว่าหมื่นบาท
สิ่งที่ IQ X เข้ามาพิสูจน์ชัดคงหนีไม่พ้นในแง่ของการที่แบรนด์ไทยจะผลิตสมาร์ทโฟนประสิทธิภาพสูง สเปกเทียบเท่ากับเครื่องอินเตอร์แบรนด์ ในระดับราคาต่ำกว่าเกือบ 50% แต่ก็ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะทางไอโมบายเองก็พยายามเพิ่มจุดเด่นเข้าไปอย่างเรื่องของกล้องหลักที่ความละเอียด 18 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล รวมกับระบบ 2 ซิมเป็นต้น
การออกแบบและสเปก
ถ้ามองผ่านๆ แว็บแรกที่ผุดขึ้นมาในจิตใต้สำนึกคงหนีไม่พ้นรูปลักษณ์ของตัวเครื่องที่ละม้ายคล้ายกับ iPhone 5 เพียงแต่ถ้าได้ลองจับแล้วเรื่องของวัสดุยังไม่ให้ความรู้สึกที่ใกล้เคียงสักเท่าไหร่ แต่ก็ยอมรับว่าการประกอบแน่นหนาดีกว่าเครื่องสมัยก่อนๆของไอโมบาย
ขนาดรอบตัวเครื่องของ IQ X อยู่ที่ 66.7 × 138 × 7.5 มิลลิเมตร น้ำหนัก 130 กรัม ซึ่งจะเห็นได้ว่าตัวเครื่องค่อนข้างบาง ประกอบกับในกล่องมีเคสใสมาให้ด้วย ถ้าไม่อยากให้เครื่องมีรอยก็สามารถเลือกที่จะใส่เคสเข้าไปได้ทันที เพราะไม่ถึงกับให้ความรู้สึกว่าตัวเครื่องมีขนาดที่หนาเกินไป
ด้านหน้า - ไล่จากส่วนบนจะพบกับช่องลำโพงสนทนา กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ตรวจจับใบหน้าและวัดแสง ถัดลงมาคือสิ่งที่ดูแล้วเห็นถึงคุณภาพของ IQ X อย่างแรกคือคุณภาพของหน้าจอสัมผัสที่ขนาด 4.7 นิ้ว ความละเอียด 1,280 x 720 พิกเซล ซึ่งให้สีค่อนข้างสดใส และชัดเจน ล่างหน้าจอมีปุ่มสัมผัสตามมาตรฐานแอนดรอยด์อย่าง เมนู โฮม และย้อนกลับ
ด้านหลัง - มีกล้องความละเอียด 18 ล้านพิกเซล (ตามตัวเลขที่ระบุ ส่วนประสิทธิภาพตามอ่านต่อด้านล่าง) พร้อมไฟแฟลชแอลอีดีคู่ ตรงกลางมีตัวอักษร IQ ปรากฏอยู่เด่นชัด โดยมีแบรนด์ i-mobile อยู่ที่ส่วนล่างใกล้กับช่องลำโพงหลังเครื่อง
เมื่อเปิดฝาหลังซึ่งเป็นพลาสติกยืดหยุ่นได้ออกมาจะพบกับช่องใส่ไมโครเอสดีการ์ดรองรับเพิ่มสูงสุด 32 GB และช่องใส่ซิมการ์ด 2 ช่อง โดยมีให้เลือกทั้งขนาดปกติ และไมโครซิมการ์ด ทั้ง 2 ช่องรองรับการเชื่อมต่อ 3G เพียงแต่ต้องเลือกใช้ 3G ทีละซิมการ์ดเท่านั้น แบตเตอรี่ที่ให้มาขนาด 2,000 mAh
ด้านซ้าย - ถูกปล่อยว่างไว้เรียบๆ ด้านขวา - เป็นปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง และปุ่มปรับระดับเสียง (สามารถตั้งเป็นชัตเตอร์ได้) ด้านบน - มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ด้านล่าง - มีพอร์ตไมโครยูเอสบี และไมโครโฟนสนทนา
สำหรับสเปกภายในของ i-mobile IQ X มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.2.1 ทำงานบนหน่วยประมวลผล Mediatek MT 6589 ซึ่งเป็นควอดคอร์ 1.2 GHz มีหน่วยประมวลผลภาพ PowerVR SGX 554 RAM 1 GB หน่วยความจำภายในเครื่อง 4 GB สามารถใส่ไมโครเอสดีการ์ดเพิ่มเติมได้สูงสุด 32 GB
ด้านการเชื่อมต่อรองรับ 3G บนคลื่น 850 / 2100 MHz ความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุด 42 Mbps อัปโหลดสูงสุด 11.5 Mbps Wi-Fi มาตรฐาน 802.11 b/g/n มีบลูทูธ GPS ให้ใช้งานกัน
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
ในส่วนของอินเตอร์เฟสของ IQ X ก็ไม่แตกต่างจากแอนดรอยด์โฟนรุ่นอื่นๆในท้องตลาดเท่าใดนัก มีหน้าหลักให้ผู้ใช้สามารถนำวิตเจ็ต ไอค่อนลัดมาปรับแต่งได้ตามความต้องการ เพื่อให้สะดวกในการใช้งาน
แต่จุดที่พิเศษกว่ารุ่นอื่นๆคือ แถบแจ้งเตือน ที่มีไอค่อนสำหรับปรับตั้งค่าด่วนทั้งเปิดโหมดการใช้งานบนเครื่องบิน แสดงสถานะแบตเตอรี่ เปิดปิดไวไฟ บลูทูธ จีพีเอส การเชื่อมต่อดาต้า ดูปริมาณการใช้งานดาต้า ปรับแต่งโปรไฟล์เสียง ปรับความสว่างหน้าจอ เวลาการปิดหน้าจออัตโนมัติ ปรับการหมุนหน้าจออัตโนมัติ นอกจากนี้ยังสามารถกดให้ตัวเครื่องแสดงการทำงานของทั้ง ซีพียู หน่วยความจำ และแบตเตอรี่ได้ด้วย
สำหรับแอปพลิเคชันที่พรีโหลดมาให้ในเครื่องนอกจากบริการทั่วไปของกูเกิลแล้ว ยังมีการใส่ฮ็อตเมล อินสตาแกรม แอปฯกสิกร ไฟฉาย ไลน์ ตัวอย่างเกม กระจก ทวิตเตอร์ สไกป์ วีแชท ระบบรักษาความปลอดภัย เว็บเบราว์เซอร์ กล้อง เครื่องคิดเลข โปรแกรมจัดการไฟล์ วิทยุเอฟเอ็ม เป็นต้น
ส่วนของการตั้งค่าก็จะมีเพิ่มเข้ามาในส่วนของการตั้งค่า 2 ซิม ส่วนที่เหลือก็เป็นไปตามมาตรฐานแอนดรอยด์ทั่วไปคือมีการตั้งค่าการเชื่อมต่อต่างๆ ตั้งค่าตัวเครื่อง บัญชีผู้ใช้ และตั้งค่าระบบ
โดยการตั้งค่าซิมการ์ด เมื่อใส่ซิมเข้าไปตัวเครื่องจะมีการแยกค่ายให้โดยอัตโนมัติ แบ่งตามสีด้วย อย่างเช่นเอไอเอสสีเขียว ดีแทคสีฟ้า ทรูสีส้ม (สามารถตั้งสีเองได้) หลังจากนั้นตัวเครื่องก็จะให้เลือกว่าถ้าใช้งานโทรศัพท์ จะใช้เครือข่ายใด วิดีโอคอลล์เครือข่ายใด ส่งข้อความ รวมถึงการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วย ที่น่าสนใจคือทั้ง 2 ซิมการ์ดรองรับการใช้งาน 3G ทั้งคู่ดังนั้นจึงสามารถเลือกปรับใช้งานได้ตามสะดวก
นอกจากนี้ในส่วนตั้งค่าอื่นๆก็จะมีที่น่าสนใจคือ การตั้งเวลาเปิด-ปิดเครื่อง โหมดประหยัดพลังงาน รวมถึงสามารถเข้าไปเลือกหน่วยเก็บข้อมูลหลักได้ว่าจะให้เก็บไว้ในเครื่องหรือไมโครเอสดีการ์ด
ระบบโทรศัพท์เมื่อรองรับการใช้งาน 2 ซิม ผู้ใช้สามารถตั้งค่าได้ว่าจะใช้หมายเลขใดโทรออก ซึ่งเมื่อตั้งแล้วจะเป็นค่าเริ่มต้นของระบบ ถ้าต้องการเปลี่ยนก็ต้องกดเข้าไปตั้งค่าอีกครั้งหนึ่ง ขณะเดียวกันก็จะมีสัญลักษณ์แสดงว่าใช้งานซิมใดตลอดเวลา
หน้าจอขณะสนทนาก็มีการปรับสีให้แสดงตามซิมการ์ด โดยสามารถกดเรียกแป้นตัวเลข เปิดลำโพง ปิดเสียง พักสาย และเพิ่มสายได้จากหน้าจอนี้ ส่วนการรับโทรศัพท์ใช้การลากนิ้วเพื่อรับสาย
แอปพลิเคชันที่ให้มาแล้วน่าสนใจคือ NQ Mobile Security เป็นเหมือนแอปพลิเคชันที่มาช่วยจัดการระบบของเครื่องให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งยังสามารถใช้บันทึกการใช้งานดาต้าของเครื่อง สำรองข้อมูลรายชื่อผู้ติดต่อ รวมถึงเก็บข้อมูลทางการเงินต่างๆด้วย
และยังมีระบบป้องกันขโมย ที่ตั้งให้มีการแจ้งเตือนเมื่อมีการเปลี่ยนซิมการ์ด ดูตำแหน่งเครื่อง (เครื่องต้องเปิดจีพีเอส และมีการเชื่อมต่อดาต้าอยู่) หรือถ้าต้องการฟีเจอร์ที่มากกว่านั้น ก็ต้องจ่ายเงินซื้อเพิ่มอย่างระบบให้เครื่องมีเสียงดังขึ้นมา ล็อกเครื่อง รวมถึงลบข้อมูลภายในเครื่องทิ้ง
ส่วนแอปฯอย่าง TSquare เป็นแอปพลิเคชันสารพัดประโยชน์ที่ใช้ตรวจสอบสภาพจราจร จากข้อมูลของรถแทกซี่ที่สิ่งอยู่บนท้องถนนกว่า 1 หมื่นคัน เพื่อคำนวนออกมาเป็นสภาพการจราจร ให้สามารถเลือกเส้นทางในการเดินทางได้อย่างถูกต้อง
1 Tap Cleaner แอปฯสำหรับล้างข้อมูลที่ไม่จำเป็นภายในตัวเครื่อง ให้สามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหลตลอดเวลา
การใช้งานเว็บเบราว์เซอร์ของ IQ X ยังรองรับการใช้งานแฟลชอยู่ เพราะมีการติดตั้งมาให้พร้อมในเครื่อง การแสดงผลถือว่าทำได้ค่อนข้างรวดเร็วจากหน่วยประมวลผล และ แรมที่ให้มาค่อนข้างสูงนั่นเอง
นอกจากนี้ก็ยังมีแอปอย่างเข็มทิศ ไฟฉาย และเครื่องคิดเลขที่สามารถคำนวนฟังก์ชันทางคณิตศาสตร์ได้
ในส่วนของผลการทดสอบ ผ่านโปรแกรมทดสอบประสิทธิภาพบนแอนดรอยด์อย่าง Quadrant Standart และ Antutu ได้คะแนน 4,048 คะแนน และ 12,912 คะแนน ตามลำดับ หน้าจอรองรับการสัมผัส 10 จุดพร้อมกัน
ทดสอบการใช้งาน HTML 5 ผ่าน Vellamo ได้ 1,437 คะแนน ส่วนประสิทธิภาพตัวเครื่องได้ 448 คะแนน ทดสอบกราฟิกผ่าน Nenamark1 ได้ 57 fps Nenamark2 45.5 fps An3dBench 7,449 คะแนน และ An3dBenchXL 37,743 คะแนน
ส่วนการทดสอบ CF-Bench และ 3DMARK ดูรายละเอียดได้จากรูปด้านล่าง
จุดขาย
- ประสิทธิภาพเครื่องคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
- หน้าจอความละเอียด HD สีสันสดใส
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- ขนาดตัวเครื่องกำลังพอดีมือ จับใช้งานง่าย
ข้อสังเกต/ตอบจุดขายหรือไม่
- กล้อง 18 ล้านพิกเซลที่ใช้ซอฟต์แวร์เพิ่มขนาดทำให้รูปออกมาไม่คมชัด แนะนำให้ปรับไว้ที่ 13 ล้านพิกเซลดีกว่า
- การประมวลผลด้านกราฟิกยังเทียบกับรุ่นไฮฯแบรนด์หลักๆไม่ได้ แต่ก็เพียงพอใช้งานทั่วไป
- ข้อมูลข้างกล่องระบุว่าตัวเครื่องยังแยกเครื่องข่าย 3G 850 / 2100 กับ 900 / 2100 อยู่
ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป
IQ X ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นนึงที่น่าสนใจในระดับต่ำกว่าหมื่นบาท เพราะจากสเปกที่ให้มาเทียบเท่ากับเครื่องในระดับหมื่นกลางๆได้เลย แถมยังรองรับการใช้งาน 3G ทั้ง 2 ซิมอีกด้วย งานนี้ใครที่กำลังมีปัญหากับซิมหลักที่เล่นเน็ตไม่ค่อยจะลื่นคงสบายใจกันไป เพราะสบช่องไอโมบายในการขายซิม 3GX ด้วยทันที
อีกจุดที่น่าสนใจภายในกล่องของ IQ X คือของที่แถมมาให้ นอกจากจะได้ตัวเครื่อง ที่ชาร์จ สายยูเอสบี หูฟังตามปกติแล้ว ยังมีแถมทั้งเคส แผ่นฟิลม์กันรอยหน้าจอ และซิม 3GX มาให้ใช้ฟรีอีก 500 MB ถ้าตีเป็นในแง่ของมูลค่าก็เกือบๆจะ 500 บาทได้
ด้านการใช้งานโดยรวมถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างประทับใจ เพราะเพียงพอกับการใช้งานในปัจจุบันแทบทั้งหมด ติดอยู่นิดหน่อยตรงที่กล้องความละเอียด 18 ล้านพิกเซล ที่เคลมมาให้ดูสูงกว่าเครื่องรุ่นอื่นในตลาดๆทั้งๆที่ใช้เซ็นเซอร์ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ซึ่งกับขนาดดังกล่าวก็เพียงพอกับการใช้งานในชีวิตประจำวันแล้ว ดังนั้นแนะนำเลยใครใช้อยู่ปรับขนาดลงมาเหลือ 13 ล้านพิกเซลเถอะครับ มันเพียงพอและคมชัดกว่า
ส่วนในแง่ของแบตเตอรี่ที่ให้มาทดสอบใช้งานกับซิมการ์ด 3G เปิดเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ผ่านทั้งโมบายดาต้า และไวไฟ พร้อมโทรบ้างนิดหน่อย ใช้งานได้ 1 วันสบายๆ แต่ถ้าใช้โหดๆต่อเนื่อง 2-3 ชั่วโมง อาจจะต้องพกแบตเตอรี่เสริมติดตัวไว้กันเหนียวจะดีกว่า
คลิปวิดีโอรีวิวจากรายการ Digital2Go
Company Related Links :
i-mobile
CyberBiz Social