xs
xsm
sm
md
lg

Review : LG Optimus G ความหวังรุ่นเกือบสุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




Optimus G กลายเป็นสมาร์ทโฟนที่แอลจี คาดหวังว่าจะช่วงชิงเวลาที่ได้เปรียบในระหว่างที่คู่แข่งแบรนด์อื่นๆยังไม่นำสมาร์ทโฟนรุ่นไฮเอนด์เข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งทำให้ช่วงเวลาหนึ่ง Optimus G ขึ้นชื่อว่าเป็นแอนดรอยด์โฟนประสิทธิภาพสูงในตลาดในช่วงไตรมาสแรก



สิ่งที่แอลจี จัดเต็มมากับเครื่องรุ่นนี้คือ การนำหน่วยประมวลผลควอดคอร์จาก Snapdragon S4 Pro หน้าจอ True HD IPS Plus ที่ให้ภาพสมจริง โดยใช้กระจกกอลิล่ากลาส 2 พร้อมกับเทคโนโลยี Zero Gap ลดช่องว่างระหว่างกระจกกับหน้าจอ มาตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภค

การออกแบบและสเปก



ในแง่ของการออกแบบแอลจีถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีแนวทางในการผลิตสมาร์ทโฟนเป็นของตัวเอง ด้วยการนำลวดลายอย่าง Crystal Reflection ที่เป็นเกล็ดน้ำแข็งสะท้อนแสงตามแต่ละมุม มาเพิ่มความหรูหราของตัวเครื่องให้ดูมีราคาค่างวดมากขึ้น

ขณะที่โครงเครื่องก็ใช้อะลูมิเนียมแบบไร้รอยเชื่อมต่อ ผสานกับกระจกกอลิล่ากลาสที่มีความแข็งแรงทั้งด้านหน้าและหลัง โดย Optimus G จะมีวางจำหน่ายด้วยกัน 2 สี คือ ขาว และ ดำ ขนาดรอบตัวเครื่องอยู่ที่ 131.9 x 68.9 x 8.45 มิลลิเมตร น้ำหนัก 145 กรัม



ด้านหน้า - มีการเว้นช่องตรงขอบบนให้กับลำโพงสนทนาเล็กน้อย โดยมีสัญลักษณ์ แอลจี และกล้องหน้าความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล พร้อมกับเซ็นเซอร์วัดแสงต่างๆอยู่ส่วนบนหน้าจอ ในส่วนของหน้าจอจะใช้นวัตกรรมที่แอลจีเรียกว่า Zero Gap Touch ช่วยลดชั้นของหน้าจอทำให้ตอบรับการสัมผัสได้รวดเร็วขึ้น ประกอบกับหน้าจอ True HD IPS Plus ขนาด 4.7 นิ้ว ความละเอียด 1,280 x 768 พิกเซล (WVGA) ส่วนล่างหน้าจอจะมีปุ่มสัมผัส 3 ปุ่มคือ ย้อนกลับ โฮม และเมนู



ด้านหลัง - มีกล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแอลอีดีอยู่ที่มุมซ้ายบน โดยมีโลโก้แอลจี และสัญลักษณ์มาตรฐานต่างๆอยู่ที่มุมล่าง ใกล้ๆกับช่องลำโพง เนื่องจากตัวเครื่องไม่สามารถถอดฝาหลังและเปลี่ยนแบตเตอรีได้ สำหรับแบตเตอรีที่ให้มาเป็น Li-Polymer ขนาด 2,100 mAh





ด้านซ้าย - เป็นปุ่มปรับระดับเสียง และช่องใส่ไมโครซิมการ์ด ที่จะต้องใช้เข็มปลายแหลมจิ้มให้ถาดใส่ซิมกระเด้งออกมา คล้ายๆกับในไอโฟนนั่นเอง ด้านขวา - เป็นที่อยู่ของปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง ซึ่งเวลาจับใช้งานจะตรงกับนิ้วพอดี (มือซ้ายนิ้วชี้ มือขวานิ้วโป้ง)




ด้านบน - เป็นช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. และไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน ด้านล่าง - มีพอร์ตไมโครยูเอสบี สำหรับเสียมสายชาร์จ เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ และเป็นพอร์ตแปลงสำหรับต่อออกจอภาพด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งตรงนี้จะมีน็อตไว้สำหรับถอดตัวเครื่องออกมาได้



สำหรับสเปกภายในของ LG Optimus G มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.1.2 (Jelly Bean) ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล QualComm Snapdragon S4 Pro ที่เป็นควอดคอร์ความเร็ว 1.5 GHz พร้อมกับหน่วยประมวลผลภาพ Adreno 320 RAM ขนาด 2 GB และหน่วยความจำภายใน 32 GB ไม่รองรับไมโครเอสดีการ์ดเพิ่มเติม

ในแง่ของการเชื่อมต่อรองรับ WiFi มาตรฐาน 802.11 a/b/g/n DLNA WiFi Direct ในการส่งผ่านข้อมูลความเร็วสูง บลูทูธ 4.0 จีพีเอส และ NFC ส่วนเครือข่ายโทรศัพท์ที่รองรับ 3G จะแบ่งออกเป็น 2 รุ่นคือ LG-E975 รองรับ 900 / 2100 MHz ส่วน LG-E975K รองรับ 850 / 2100 MHz

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ



สำหรับผู้ใช้ที่เป็นแฟนของแอลจีคงคุ้นเคยกับอินเตอร์เฟสการใช้งานของ Optimus UI 3.0 กันอยู่แล้ว เพราะรูปแบบไม่เปลี่ยนไปจากรุ่นเดิมอย่าง Optimus 4x มากนัก เริ่มกันจากหน้าจอล็อกที่สามารถใช้นิ้วลากตรงส่วนไหนของหน้าจอเพื่อปลดล็อกได้ทันที หรือจะเลือกใช้ไอค่อนลัดพร้อมปลดล็อกหน้าจอได้จากการนำนิ้วลากที่ตัวไอค่อน

เมื่อเข้ามาถึงหน้าจอหลักสิ่งที่ได้พบเจอกันก็คือ หน้าวิตเจ็ตที่ผู้ใช้สามารถปรับแต่งได้ด้วยตนเอง ซึ่ง Optimus G มีมาให้เลือกใส่กันถึง 7 หน้า โดยสามารถใช้สองนิ้วลากออกจากกันเพื่อดูหน้าจอหลักทั้ง 7 หน้าได้ทันที



สิ่งที่เพิ่มเข้ามาในรุ่นนี้คือการนำแถบการตั้งค่าลัด และ ฟังก์ชันสลับการทำงานอย่าง QSlide มาไว้รวมกันในแถบการแจ้งเตือน (์Notification) โดยในแถบการตั้งค่าจะประกอบไปด้วย การเปิดปิด ไวไฟ หมุนจอ โหมดประหยัดพลังงาน เครื่องบิน เรียกใช้งาน QuickMemo NFC GPS ซึ่งถ้าไอค่อนไหนไม่ได้ใช้งานบ่อยก็สามารถกดที่ปุ่มแก้ไขหลังสุดเพื่อนำออกไปได้

อีกส่วนหนึ่งก็คือมีแถบปรับความสว่างหน้าจอมาให้ ซึ่งแนะนำว่าถ้าใช้งานกลางแดด อาจต้องปรับความสว่างให้สูงสุด แต่ถ้าใช้งานอยู่ในร่มก็ตั้งเป็นแบบอัตโนมัติก็ได้เช่นเดียวกัน ทั้งนี้การปรับความสว่างหน้าจอจะไม่สามารถเปิดสุดได้ถ้าเครื่องมีความร้อนสูง (เวลาปรับไปแล้วจะมีการแจ้งเตือน)



ถัดมาในส่วนของ QSlide จะมีให้เลือกสลับหน้าจอระหว่างโหมดรับชมวิดีโอ อินเทอร์เน็ต บันทึก ปฏิทิน เครื่องคิดเลข ซึ่งแอปพลิเคชันเหล่านี้ จะสามารถย่อให้กลายเป็นหน้าต่างออกมา แล้วไปใช้งานอื่นๆในเครื่องได้ทันที



ในโหมด Quick Memo ของแอลจี เริ่มมีมาให้ใช้งานกันตั้งแต่ใน Optimus Vu ซึ่งจะเป็นโหมดที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจดบันทึกลงไปบนหน้าจอได้ทันที โดยมีปากกา 4 หัว 16 สี ให้เลือกใช้กัน โดยถ้ากดที่มุมซ้ายบนจะเป็นการสลับโหมดให้เปลี่ยนไปยังหน้าจออื่น ค่อยจดต่อได้

หรือจะเลือกจดบนพื้นหน้ากระดาษว่างก็ได้จากการกดปุ่มที่ 2 ในแถบควบคุมด้านบน โดยหลังจากจดบันทึกเรียบร้อยแล้วก็สามารถแชร์ไปยังเครือข่ายสังคมออนไลน์ หรือจะบันทึกเก็บไว้ในเครื่องก็ได้เช่นเดียวกัน



สำหรับแอปพลิเคชันที่มีติดมาให้ในเครื่องจะประกอบไปด้วย นาฬิกาปลุก ตัวจัดการแอปฯ ระบบสำรองข้อมูล เครื่องคิดเลขปฏิทิน กล้องถ่ายรูป โครมเบราว์เซอร์ รายชื่อ พจนานุกรม อีเมล ตัวจัดการไฟล์ ไฟล์แชร์ (WiFi Direct) วิทยุFM คลังภาพ เว็บเบราว์เซอร์ปกติ

แผนที่ บันทึก ข้อความ เพลง ระบบนำทาง โน้ตบุ๊ก โทรศัพท์ เพลยสโตร์ ระบบถ่ายรูปแปลภาษา ระบบคำสั่งควบคุมทางไกล เซฟตี้แคร์ สมาร์ทแชร์ (DLNA) อัปเดตซอฟต์แวร์ แก้ไขวิดีโอ วิดีโอ บันทึกเสียง ค้นหาด้วยเสียงสภาพอากาศ และยูทูป



มาถึงในส่วนของแอปพลิเคชันที่น่าสนใจ ไล่กันจาก Safty Care ระบบที่จะช่วยแจ้งเตือนไปยังหมายเลขที่ตั้งค่าไว้ใน 3 กรณี คือ การเรียกใช้ระบบโทรฉุกเฉิน เมื่อไม่มีการใช้งานโทรศัพท์เกินกว่าที่กำหนดไว้ และสุดท้ายคือระบบแจ้งเตือนพิกัด เพื่อให้สามารถทำการค้นหาที่อยู่ได้ทันที



ส่วนของ Smart Share จะเป็นการเชื่อมต่อกับเครื่องลูกข่ายอื่นๆในเครือข่ายเน็ตเวิร์กเดียวกันผ่านระบบ DLNA นั่นเอง โดยผู้ใช้สามารถตั้งให้เครื่องส่งคอนเทนต์อย่างรูปภาพ วิดีโอ เพลง ไปยังสมาร์ททีวี สมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊กรุ่นอื่นๆี่รองรับระบบดังกล่าว หรือจะให้ตัวเครื่องเล่นไฟล์จากในเครื่องอื่นก็ได้เช่นเดียวกัน



Quick Translator เป็นอีกหนึ่งแอปพลิเคชันที่น่าสนใจ กล่าวคือ เปนการประยุกต์กล้องถ่ายภาพ ในการสแกนคำ โดยสามารถตั้งได้ว่าจะให้แปลเฉพาะกลุ่มคำ ทั้งบรรทัด หรือทั้งย่อหน้า ซึ่งตัวภาษาที่ให้มากับเครื่องคือการแปลภาษาหลักๆ ไปยังภาษาอังกฤษเท่านั้น ถ้าต้องการพจนานุกรมภาษาอื่นๆก็ต้องซื้อเพิ่มจากในเพลยสโตร์



มาถึงกันในส่วนของโหมดกล้อง จะยังคงใช้อินเตอร์เฟสแนวเดิมของแอลจี กล่าวคือในมุมฝั่งซ้ายจะเป็นที่ตั้งของการปรับตั้งค่าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสลับกล้องหน้า เลือกโหมดถ่ายภาพ เปิดใช้ฟีเจอร์พิเศษ ส่วนทางฝั่งขวาก็จะเป็นชัตเตอร์ โดยมีปุ่มสลับการบันทึกภาพนิ่ง และวิดีโอที่มุมบน และมุมล่างไว้กดเข้าอัลบั้มภาพ



สำหรับฟีเจอร์พิเศษที่แอลจีภูมิใจนำเสนอกับโหมดกล้องใน Optimus G ประกอบไปด้วยระบบ Time Catch Shot คือการบันทึกภาพต่อเนื่อง และเลือกภาพที่ดีที่สุดมาใช้งาน ถัดมาคือชีสชัตเตอร์ หรือใช้เสียงในการสั่งถ่ายภาพ และสุดท้ายระบบ Live Effect ในการบันทึกภาพวิดีโอ โดยจะใช้การจับใบหน้าบุคคลมาแปลงภาพ ประกอบกับการใส่ฉากหลังเป็นต้น



ส่วนการใช้งานอื่นๆทั่วไปอย่างเว็บเบราว์เซอร์ ถือว่าตอบสนองได้รวดเร็วมากขึ้น ตัวเบราว์เซอร์ปกติที่มากับเครื่อยังรองรับการใช้งานแฟลชอยู่ การทำงานถือว่าค่อนข้างตอบสนองได้รวดเร็ว ตามมาตรฐานไฮเอนด์แอนดรอยด์โฟนในท้องตลาดนั่นเอง



โหมดโทรศัพท์ยังไม่มีการปรับปรุงมากนัก กล่าวคืออินเตอร์เฟสยังดูโล่งๆ เน้นปุ่มกดตัวเลขขนาดใหญ่ โดยยังมาพร้อมกับระบบสุ่มรายชื่อผู้ติดต่อ แต่ไม่สามารถเลือกดูเพิ่มเติมได้ ส่วนหน้าจอขณะสนทนาก็จะแสดงชื่อ เลขหมาย ระยะเวลาใข้สาย ภาพผู้ติดต่อ พร้อมกับปุ่มกดดูรายชื่อ วางสาย เรียกปุ่มตัวเลข เปิดลำโพง ปิดเสียง และเรียกใช้งานบลูทูธ



สุดท้ายในส่วนของการตั้งค่า แอลจีทำให้ดูแล้วน่าใช้งานง่ายขึ้น ด้วยการใส่สีลงไป ซึ่งในส่วนของการตั้งค่าก็เป็นไปตามมาตรฐานแอนดรอยด์ 4.1 ซึ่งแบ่งการตั้งค่าออกเป็น 4 ส่วนหลักๆคือ การเชื่อมต่อ ตัวเครื่อง เกี่ยวกับบัญชีผู้ใช้ และระบบนั่นเอง โดยสิ่งที่แอลจียังคงไว้ในแอนดรอยด์โฟนทุกรุ่นคือเรื่องของการปรับแต่งธีม เลือกเอฟเฟกต์ในการแสดงผล ปรับเปลี่ยนฟอนต์ตัวอักษร



จุดที่น่าสนใจใน Optimus G คือในเรื่องของโหมดประหยัดพลังงาน ที่ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะให้ปิดการทำงานของ ไวไฟ บลูทูธ โหมด Eco (เป็นโหมดควบคุมการทำงานของซีพียูให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น) ระบบสั่น ความสว่างหน้าจอ เวลาปิดหน้าจอ ไฟปุ่มกดด้านหน้าเป็นต้น

ซึ่งต้องยอมรับว่าในจุดนี้ Optimus G ทำการบ้านมาค่อนข้างดี ถ้าเปิดโหมดประหยัดพลังงานในการใช้งานก็สามารถใช้ได้ต่อเนื่อง 1 วันสบายๆ หรือถ้ามีการใช้งานหนักๆ ก็ไม่หมดระหว่างวันแน่นอน ดังนั้นถือว่าดีขึ้นเมื่อเทียบกับสมัย Optimus 4X หรือ Optimus Vu



ในส่วนของผลการทดสอบ ผ่านโปรแกรมทดสอบประสิทธิภาพบนแอนดรอยด์อย่าง Quadrant Standart และ Antutu ได้คะแนน 7,655 คะแนน และ 17,796 คะแนน ตามลำดับ หน้าจอรองรับการสัมผัส 10 จุดพร้อมกัน

ทดสอบการใช้งาน HTML 5 ผ่าน Vellamo ได้ 1,626 คะแนน ส่วนประสิทธิภาพตัวเครื่องได้ 547 คะแนน ทดสอบกราฟิกผ่าน Nenamark1 ได้ 59.8 fps Nenamark2 60 fps An3dBench 6,876 คะแนน และ An3dBenchXL 29,513 คะแนน



ขณะที่การทดสอบด้วยโปรแกรม Passmark PerformanceTest Mobile ได้คะแนน System 2,679 คะแนน CPU 10,147 คะแนน Disk 10,572 คะแนน Memory 2,527 คะแนน 2D Graphics 2,306 คะแนน และ 3D Graphics 768 คะแนน

ส่วนการทดสอบ CF-Bench ดูรายละเอียดได้จากรูปด้านล่าง



จุดขาย

- ไฮเอนด์สมาร์ทโฟนในระดับราคาต่ำกว่า 2 หมื่นบาท
- ฟังก์ชัน Quick Memo ที่ใช้นิ้วจดบันทึกลงบนหน้าจอได้ทันที
- หน้าจอที่ให้สีสันสมจริง และช่วยประหยัดพลังงานเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นในตลาด

ข้อสังเกต/ตอบจุดขายหรือไม่

- ความละเอียดหน้าจอยังไม่เป็น Full HD 1080p
- ตัวเครื่องไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำได้
- ฟีเจอร์ส่วนใหญ่คล้ายกับแบรนด์เพื่อนร่วมชาติ

ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป

สิ่งที่แอลจีต้องการสื่อไปยังผู้บริโภคให้หันมาใช้งาน Optimus G คือในแง่ของฟีเจอร์ที่เพิ่มขึ้นจาก Nexus 4 ซึ่งทำยอดได้ถล่มทลายในหลายๆประเทศ พร้อมชูจุดเด่นที่ประสิทธิภาพเหนือกว่า เพียงแต่แอลจีกลับลืมไปว่าผู้บริโภคกลุ่มนั้นไม่ได้อยากได้ฟีเจอร์ที่ไม่ได้ใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่ต้องการเครื่องที่สามารถตอบสนองการใช้งานได้รวดเร็วแบบตามสไตล์ Pure Google มากกว่า

ดังนั้น ถ้าคุณเป็นผู้บริโภคที่ต้องการความดิบของ Nexus และคิดว่า Optimus G จะตอบโจทย์นั้นได้ ก็ขอให้มองข้ามไปได้เลย เพราะใน Optimus G สิ่งที่จะได้เห็นและใช้งานกันคือหน้าจออินเตอร์เฟสเฉพาะตัว กับลูกเล่นฟีเจอร์ที่อีกแบรนด์จากประเทศเดียวกันเริ่มทำมาก่อนแล้ว

Updatedล่าสุดแอลจีปรับลดราคา Optimus G ลงเหลือ 17,900 บาทแล้ว / ถ้าเห็นว่ากับราคาดังกล่าว แล้วรับได้กับประสิทธิภาพของเครื่องรุ่นนี้ ก็ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนไฮเอนด์อีกรุ่นที่น่าจับตามอง แต่ถ้ามีงบเหลือเพิ่มขึ้นอีกสักเล็กน้อย ก็ยังมีแอนดรอยด์โฟนอีก 3 - 4 รุ่นที่มีประสิทธิภาพโดดเด่นกว่าให้ได้เลือกตัดสินใจกัน

ท้ายนี้ก็ต้องยอมรับว่าเครื่องรุ่นนี้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยช้าไปสักหน่อย เพราะถ้ามาในช่วงปลายปีที่แล้ว ใกล้เคียงกับที่วางจำหน่ายในต่างประเทศ Optimus G จะกลายเป็นสุดยอดมือถือในช่วงเวลานั้นเลยก็ว่าได้ ทีนี้ก็ต้องมารอลุ้นกันต่อว่า Optimus G Pro หรือ G2 จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเมื่อใด

ตัวเลือกอื่น
- Sony Xperia Z
- HTC One
- Samsung Galaxy S4

Company Related Links :
LG

















กำลังโหลดความคิดเห็น