xs
xsm
sm
md
lg

Review: Sony Xperia Z มือถือกันน้ำรุ่นล่าสุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


Sony Xperia Z ที่สุดแห่งสมาร์ทโฟนของการผสมผสานเทคโนโลยีได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายใต้สัญลักษณ์โซนี่ด้วยกันเอง การใช้ NFC เพื่อสร้าง Tag กิจกรรมตามวาระ หรือแม้กระทั่งการออกแบบให้ทนทานต่อฝุ่นและของเหลวเพื่อการใช้งานที่พร้อมรับทุกสถานการณ์ แน่นอนว่าการนำเทคโนโลยีทั้งเรื่องการแสดงผลและการถ่ายภาพ มารวมไว้ใน Xperia Z ก็ทำให้เครื่องรุ่นนี้กลายเป็นความหวังใหม่เพื่อฉุดกระแส “คุณภาพ” ให้กลับมา

การออกแบบ

Sony Xperia Z ได้รับการออกแบบโดยแนวคิด Omnibalance รูปร่างสมมาตรทุกสัดส่วน โดยทุกมิติของมุมมองจะมีความโค้งมนเสมอกัน แม้ว่าจะดูแข็งกระด้างอยู่บ้างจากสายตาที่เห็น แต่เมื่อลองสัมผัสดูแล้วความสมบูรณ์ของการประกอบแบบไร้รอยต่อ ก็สร้างความประทับใจในการสัมผัสให้ได้ไม่น้อย ปุ่มกด Power และปุ่มปรับระดับเสียงผลิตจากวัสดุอลูมินัมอย่างดี สร้างความหรูหราและทนทานอย่างมีเอกลักษณ์ ขณะที่กระจกทั้งด้านหน้าและด้านหลังแบบ Tempered glass ตอบรับกับแนวทางการออกแบบได้อย่างดีเยี่ยม เมื่อลูบเครื่องด้วยมือเปล่าจะสัมผัสได้ถึงความเนียนเรียบของการประกอบที่สมบูรณ์ แถมพ่วงด้วยคุณสมบัติของกระจกที่ทนทานต่อรอยขูดขีดได้เป็นอย่างดี

ด้วยความบางของตัวเครื่องที่บางเพียง 7.9 มิลลิเมตร โดยมีขนาด กว้าง 71 x 139 x 7.9 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 146 กรัม นับว่าเป็นขนาดที่กำลังพอดีกับการใช้งานสำหรับมือผู้ชาย แต่หากเป็นมือผู้หญิงก็น่าจะมีปัญหาอยู่บ้างหากถือใช้งานแบบมือเดียว การกดปุ่มที่อยู่บนๆ อาจจะยากสักหน่อยเพราะด้วยขนาดของหน้าจอที่ใหญ่ถึง 5 นิ้ว

ทั้งนี้ Xperia Z มีวางจำหน่ายในประเทศไทยเพียงแค่ 2 สีเท่านั้นนั่นก็คือสี ขาวและดำ ในขณะที่ประเทศอื่นๆมีขายสีม่วงด้วย

ด้านหน้า - ใช้วัสดุหลักเป็นกระจกTempered glass ทั้งแผ่นปิดทับหน้าจอ และแม้ว่าจอจะเป็นเพียง TFT LED แต่ก็ได้ถูกนำมาปรับแต่งโดยเทคโนโลยี Bravia Engine 2 เทคโนโลยีเดียวกับโทรทัศน์สีโซนี่ ที่สามารถแสดงผลภาพได้คมชัดและให้สีสันที่สมจริงเป็นอย่างมาก ด้านบนมีลำโพง ไฟแสดงสถานะ พร้อมโลโก้โซนี่ เยื้องไปทางด้านซ้ายจะมีกล้องหน้า ที่พกพาคุณสมบัติของ Exmor RS เข้ามาด้วย ทำให้ถ่ายภาพในสภาวะที่มีแสงน้อยได้ ในขณะที่การใช้งานจริงนั้น การถ่ายในที่มีแสงน้อยอาจจะต้องมือนิ่งพอสมควร เพราะไม่เช่นนั้นภาพที่ได้อาจจะเบลอ ถัดลงมาด้านล่างสุดจะมีช่องดูดเสียงของไมโครโฟนหลัก

ด้านหลัง - เป็นกระจกเนียนเรียบเช่นเดียวกับด้านหน้า มีโลโก้สีขาวตรงกลางอย่างโดดเด่น ด้านบนเป็นตำแหน่งของกล้องขนาด 13 MP พร้อมแฟลชชนิด LED มาพร้อมเซ็นเซอร์ซึ่งเป็นเทคโนโลยี Exmor RS ที่สามารถถ่ายภาพหรือบันทึกวิดีโอย้อนแสงด้วยโหมด HDR (High Dynamic Range) โดยให้ความคมชัดแม้จะอยู่ในสภาวะแสงน้อย นับเป็นคุณสมบัติที่น่าสนใจไม่น้อย พร้อมฟังก์ชั่น Burst mode ที่ช่วยให้จับภาพต่อเนื่องได้สูงสุด 10 เฟรม/วินาที และด้านขวามีไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวน ต่ำลงมายังมีสัญลักษณ์ของ NFC ติดอยู่บ่งบอกความสามารถที่รองรับการเชื่อมต่อรูปแบบใหม่

ด้านซ้าย - มีช่องใส่ microSD card พร้อมฝาปิดซึ่งซีลด้วยยางกันน้ำกันฝุ่นอย่างดี และช่องสำหรับเชื่อมต่อกับสายชาร์จที่แถมมาในกล่องพร้อมฝาปิดเช่นกัน ทั้งนี้ยังมีพอร์ต Charging Dock สำหรับวางบนแท่นชาร์จแบตเตอรี่(อุปกรณ์เสริม) อีกด้วย

ด้านขวา - มีช่องใส่ microSIM พร้อมฝาปิดกันน้ำและฝุ่นเช่นเดิม ปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง (Power) ผลิตจากวัสดุอลูมินัมมีดีไซน์กลมๆ มองดูสวยงามและหรูหราในตัว ปุ่มปรับระดับเสียงขึ้น-ลง แบบปุ่มเดียวเรียวยาวทำจากวัสดุอลูมินัมด้วยเช่นกัน ขณะที่ด้านล่างมีช่องลำโพงขนาดเล็กและช่องสายคล้องโทรศัพท์ เพื่อความปลอดภัยขณะใช้งาน

ด้านบน - มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร พร้อมฝาปิด

ด้านล่าง - มีช่องเล็กๆของไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวน พร้อมช่องสำหรับสอดสายคล้องโทรศัพท์ ทั้งนี้ยังมีการสกรีนแถบบาร์โค้ดบ่งบอกแหล่งผลิตอีกด้วย

สเปกภายในของ Sony Xperia Z ใช้หน่วยประมวลผลจาก Qualcomm Snapdragon S4 Pro ด้วยสถาปัตยกรรม ARM Cortex A9 ควอดคอร์ ความเร็ว 1.5 GHz สนับสนุนเทคโนโลยีการส่งผ่านข้อมูลแบบ Dual-channel LPDDR2 @500MHz พร้อมหน่วยประมวลผลภาพ Adreno 320 RAM 2 GB หน่วยความจำภายใน 16 GB ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.2.1 (Jelly Bean)

สำหรับตัวเครื่องที่มีจำหน่ายในประเทศไทยนั้นรองรับการเชื่อมต่อ 3G ย่านความถี่ 850, 900, 1,800, 2,100 MHz ความเร็ว 3G ดาวน์โหลดสูงสุด 42 Mbps โหมดการเชื่อมต่อแบบ 4G หรือ LTE ยังไม่รองรับสำหรับมือถือที่ขายในประเทศไทย มี WiFi มาตรฐาน 802.11 a/b/g/n และบลูทูธ พร้อมรองรับ NFC ระบบส่งข้อมูลระยะใกล้ มีระบบชาร์จไฟไร้สาย พร้อมระบบ GPS ในตัว สามารถกันน้ำได้ลึกไม่เกิน 1 เมตรในเวลา 30 นาที ตามมาตรฐาน IP55 และ IP57 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ได้รับการรับรองจากทั่วโลก

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ

ความง่ายในการใช้งานของระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.2.1 Jelly bean นั้นมีในตัวอยู่แล้ว และโซนี่ก็ได้ออกแบบระบบ UI (User Interface) ใหม่เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานในส่วนของการเชื่อมต่ออุปกรณ์โซนี่ด้วยกันเอง โดยมีชื่อเรียกว่า Unified UI หากแต่ UI ดังกล่าวก็ไม่ได้ไปปรับเปลี่ยน UI หลักของ Jelly Bean แต่อย่างใด แต่เลือกใช้การติดตั้งแอปพลิเคชันเพิ่มเติมจากโรงงานซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะเครื่องโซนี่เท่านั้น

เมื่อเข้าสู่หน้าจอหลัก การใช้งานยังคงเป็นเช่น Jelly bean ทั่วไป แต่เมื่อลงลึกไปถึงเมนูจะสังเกตเห็นเมนูจากโซนี่เพิ่มเติมเข้ามา WALKMAN, Sony Select, Wisepilot for XPERIA, Smart Connect, Xperia Link โดยเมนูเหล่านี้จะตอบสนองการ Convergence เพื่อการใช้อุปกรณ์ค่ายโซนี่แทบทั้งหมด หากแต่การทดสอบจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ยี่ห้อโซนี่เท่านั้น การทำงานในโหมดนี้จึงขอไม่กล่าวถึงเนื่องจากอุปกรณ์ไม่พร้อม

โหมดการจัดการพลังงาน ในชื่อ STAMINA ที่ซ่อนอยู่ในเมนู “การตั้งค่า” เมื่อทดลองเปิดใช้งานดู ก็พบว่าสามารถเพิ่มระยะเวลาการใช้งานได้นานขึ้น 20-35% โดยมีตัวเลขแสดงระยะเวลาการใช้งานไว้อย่างชัดเจน ทั้งนี้การใช้งานในระดับปกติ (ท่องอินเทอร์เน็ต โทรออก-รับสาย เข้าโซเชียลมีเดีย อ่านอีบุ๊ก) จึงจะเห็นผลการประหยัดพลังงาน หากเป็นการใช้งานแบบโหดๆเช่นการดูภาพยนตร์ทั้งเรื่อง ตัดต่อวีดีโอ ถ่ายวีดีโอต่อเนื่อง อาจจะทำให้แบตเตอรี่ไฟหมดก่อนกำหนดได้

เมนูการใช้มัลติมีเดียของค่ายโซนี่ทั้งหมดนั้น สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ค่ายโซนี่ ผ่านทางโปรแกรมมาตรฐานที่ชื่อว่า Smart Connect สำหรับการตั้งรูปแบบการใช้งานในแต่ละสถานที่ที่แตกต่างกัน ทั้งนี้สามารถตั้งรูปแบบโปรแกรมที่เหมาะสำหรับการเชื่อมต่อของแต่ละอุปกรณ์ในแต่ละสถานที่ได้อย่างสมบูรณ์ เช่นเมื่อเข้าสู่ห้องนอนโหมดเงียบจะทำงานทันทีเมื่อโทรศัพท์ได้สัมผัสกับ Tag Card ที่เขียนไว้ โดยฟีเจอร์นี้มีการใช้งานร่วมกับระบบ NFC ซึ่งก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์หลักที่จะใช้เป็นตัวเชื่อมต่อกับคำสั่งต่างที่ตั้งไว้ล่วงหน้าสำหรับมือถือในอนาคต

Wisepilot for XPERIA โปรแกรมนำทางสำหรับการเดินทาง โดยโปรแกรมนี้หน้าตาของ Interface ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้แบบง่ายๆ ผ่าน 4 เมนูหลัก สื่อ เลือกทิศทาง การตั้งค่า และโทรฯ เหมาะสำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ที่ต้องการระบบนำทางพร้อมความสามารถด้านการโทรฯไปด้วย ในขณะที่การใช้งานจริงนั้นยังคงมีการหน่วงของเวลาในการค้นหาพิกัดอยู่พอสมควร แนะนำว่าไม่ควรนำมาใช้ระหว่างขับขี่ เนื่องจากจะต้องให้ความสนใจกับโปรแกรมดังกล่าวพอสมควร อาจจะทำให้เสียสมาธิในการขับขี่ได้

การใช้งานโทรศัพท์นั้น ไม่มีความสามารถเพิ่มเติมจากปกติ แต่ในด้านข้อมูลสมุดโทรศัพท์นั้นสามารถซิงค์ข้อมูลมาจากระบบโซเชียลมีเดียต่างๆได้ โดยเมื่อมีการโทรออกหรือรับสายเข้า ระบบจะทำการแสดงรูปของคู่สนทนาจากรูปประจำตัวในระบบโซเชียลมีเดียให้อัตโนมัติ



โหมดเครื่องเล่นเพลงเป็นจุดแข็งของค่ายโซนี่วอร์คแมนอยู่แล้ว เมนูการใช้งานจะแสดงสถานการณ์เล่น ชื่อเพลง อัลบั้ม พร้อมระยะเวลาของการเล่นเพลง และมีปุ่มควบคุมที่อยู่ขอบล่าง ทำให้สามารถกดเปลี่ยนเพลงได้เรื่อยๆ คุณภาพของเสียงที่ออกมาก็ใสอยู่พอสมควร แต่แนะนำว่าควรใช้หูฟังที่แถมมากับตัวเครื่องสำหรับผู้ที่ต้องการคุณภาพของเสียงที่ดีขึ้น

สำหรับโหมดรับชมภาพยนตร์ ตัวเครื่องรองรับไฟล์ความละเอียดสูงถึง 1080p และรองรับระบบการเลือกภาษาที่บรรยาย แถมยังสามารถบันทึกสกรีนช็อตเพื่อแชร์ไปยังเครือข่ายสังคมต่างๆได้ทันทีอีกด้วย ซึ่งด้วยความที่หน้าจอมีขนาดใหญ่ทำให้สามารถรับชมภาพยนตร์ได้อย่างจุใจ โดยเทคโนโลยี BE2 ก็ยิ่งเสริมให้ภาพที่ได้มีความสดใสและคมชัดมากขึ้น และหากว่ามีการเปิดระบบ Xlound ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ลำโพงภายในมีเสียงที่สดใสและชัดเจนมากยิ่งขึ้นด้วย
ประสิทธิภาพของโหมด HDR ในเทคโนโลยี Xmor RS
ในส่วนของการถ่ายวีดีโอนั้น นับว่าเป็นอีกหนึ่งความสามารถอันโดดเด่นที่ได้รับจากเทคโนโลยี Exmor RS และก็ต้องยอมรับว่าการเปิดโหมด HDR สำหรับการถ่ายวีดีโอนั้น ช่วยให้การถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้จริงๆ แต่อาจจะต้องแลกกับการเปลืองไฟอยู่พอสมควร ซึ่งก็ทำให้ระยะเวลาถ่ายน้อยลงตามไปด้วย ทั้งนี้การปรับแสงเมื่อเปิดโหมด HDR นั้นทำได้น่าพอใจ คือสามารถสร้างความชัดเจนในรายละเอียดที่มากขึ้นกว่าเดิมแมว่าจะมีแสงจร้าหรือแสงน้อยจนเกินไป แน่นอนว่ารายละเอียดที่หายไปกับความมืด เมื่อสามารถเรียกกลับมาได้ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งในหลายๆฟีเจอร์ที่น่าสนใจในตัว Xperia Z ได้ไม่น้อย

มาถึงการโหมดถ่ายภาพนิ่ง ซึ่งก็ยังคงฟีเจอร์ของ Xmor RS เข้ามาไว้อีกเช่นกัน ด้วยความละเอียดของ กล้องขนาด 13 MP ที่แม้ว่าจะดูน้อยไปเสียหน่อยเมื่อเทียบกับราคามือถือ แต่เมื่อกล้องรวมกับเทคโนโลยี Exmor RSที่เชื่อกันว่าเป็น CMOS ที่รับแสงได้ดีที่สุดในปัจจุบัน ทำให้กล้อง 13 MP กลายเป็นกล้องที่โดดเด่นขึ้นมาทันที และเมื่อทดลองถ่ายจึงทำให้รู้ว่าภาพที่ได้ออกมานั้นมีรายละเอียดของภาพที่ครบถ้วน แม้ว่าจะถ่ายในสภาวะที่มีแสงน้อยก็ตาม ทั้งนี้การปรับแต่งภาพเพิ่มเติม หรือเพิ่ม Effect ให้รูปภาพแตกต่างจากธรรมดา ก็สามารถเลือกการปรับแต่งภาพได้ก่อนการบันทึก พร้อมการแชร์ภาพต่อได้อย่างรวดเร็ว

เมนูของโหมดกล้องถ่ายภาพยังคงเป็นแบบมาตรฐานของ แอนดรอยด์ 4.2.1 โดยสามารถปรับเปลี่ยนกล้องหน้าสลับหลังได้ เพียงการกดที่สัญลักษณ์หมุนกล้อง หรือหากต้องการเปลี่ยนประเภทของการถ่ายจากภาพนิ่งเป็นวีดีโอก็สามารถเปลี่ยนได้จากแถบเมนูด้านข้าง

โหมดดูรูปภาพ ที่ผู้ใช้สามารถกดแชร์ไปยังเครือข่ายสังคมออนไลน์ หรือผ่านแอปพลิเคชันอื่นๆได้ทันที สามารถเลือกจากเมนู”อัลบั้ม” ซึ่งเป็นหนึ่งในเมนู Unified UI นอกจากนี้ยังสามารถใช้ปรับแต่งรูปภาพเล็กๆน้อยๆอย่างการหมุนภาพ ตัดภาพ ใส่กรอบ ใส่ฟิลเตอร์ ทำภาพซ้อน ปรับความคมชัด ปรับแสง หรือจะเป็นการแชร์รูปภาพไปยังอุปกรณ์การแสดงผลของโซนี่ เช่น โทรทัศน์ BRAVIA เป็นต้น



การใช้งานเว็บเบราว์เซอร์เหลือเพียงการใช้งานบน Chrome ที่รองรับการแสดงผลแบบ HTML5 เป็นหลัก การแสดงผลแฟลชไม่สามารถทำได้เนื่องจากผู้ผลิตซอฟต์แวร์เลิกพัฒนาแล้ว โดยรวมความลื่นไหลในการใช้งานถือว่ามีการแสดงผลหน้าเว็บที่รวดเร็วและลื่นไหลดี



โดยผลการทดสอบ Sony XperiaZ ด้วยโปรแกรมทดสอบประสิทธิภาพบนแอนดรอยด์อย่าง Quadrant Standart และ Antutu ได้คะแนน 6,417 คะแนน และ 13,652 คะแนน ตามลำดับ หน้าจอรองรับการสัมผัส 10 จุดพร้อมกัน



การทดสอบการทำงาน HTML5 และ Metal ผ่านแอปฯ Vellamo ได้ 1,999 คะแนน และ 626 คะแนน ทดสอบกราฟิกผ่าน Nenamark1 และ Nenamark2 59.9 fps และ 58.1 fps An3dBench 7,335 คะแนน และ An3dBenchXL 37,061 คะแนน



ขณะที่การทดสอบด้วยโปรแกรม Passmark PerformanceTest Mobile ได้คะแนน System 3,062 คะแนน CPU 8,357 คะแนน Disk 5,434 คะแนน Memory 2,524 คะแนน 2D Graphics 1,913 คะแนน และ 3D Graphics 1324 คะแนน

ส่วนผลการทดสอบ CF-Bench รายละเอียดดูได้จากภาพด้านล่าง


จุดขาย

- ป้องกันฝุ่นและน้ำได้ตามมาตรฐาน IP55 และ IP57 โดยอ้างอิงที่ระดับความลึกไม่เกิน 1 เมตร ในระยะเวลาไม่เกิน 30 นาที
- ตัวเครื่องประสิทธิภาพสูงทั้งซีพียูควอดคอร์ RAM 2 GB ตอบสนองการสัมผัสหน้าจอดีเยี่ยม
- หน้าจอความละเอียดสูงให้ความคมชัดและสมจริง ด้วยเทคโนโลยี BE2 (BRAVIA Engine 2 )
- รองรับระบบ NFC การเชื่อมต่อระยะใกล้ พร้อมรองรับระบยบ TAG
- มีเทคโนโลยี Exmor RS ช่วยให้ภาพคมชัดแม้อยู่ในสภาวะที่มีแสงน้อย
- การออกแบบตามแนวคิด Omnibalance ช่วยให้สมมาตรทุกสัดส่วน
- กระจก Tempered glass ป้องกันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี

ข้อสังเกต/ตอบจุดขายหรือไม่

- ความร้อนด้านหลังเครื่องมีสะสมอยู่มากเมื่อใช้งานต่อเนื่อง จากหน่วยประมวลผลแบบควอดคอร์
- ปัญหาการเด้งกลับหน้าเมนูหลักเมื่อใช้งานบางโปรแกรม
- ประเด็นปลดล็อกหน้าจอที่เกิดขึ้นกับหลายๆรุ่นมาแล้ว
- ประสิทธิภาพของการลื่นไหลของโปรแกรมนับว่ายังไม่เข้าตาเท่าไหร่

ฟันธง! ประเด็นความคุ้มค่า

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพและแชร์ภาพถ่ายได้อย่างรวดเร็ว หรือแม้กระทั่งตกแต่งภาพได้นิดหน่อยเพื่อความสวยงาม Xperia Z นับว่าตอบโจทย์นี้ได้เป็นอย่างดี ด้วยเทคโนโลยี Exmor RS ที่เป็น CMOS ที่รับแสงได้ดีที่สุดในปัจจุบัน ทำให้การถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยกลายเป็นเรื่องน่าสนุกไปทันที ทั้งนี้เทคโนโลยีดังกล่าวยังควบรวมกล้องขนาดเล็กที่อยู่ด้านหน้าของมือถือ เพื่อตอบสนองผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพด้วยตนเองจากกล้องหน้าอีกด้วย

Xperia Z เป็นมือถืออีกรุ่นที่อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์เด่นๆหลายอย่าง ทั้งในส่วนของการถ่ายภาพ การเลือกใช้ซีพียูที่ทรงพลัง หรือแม้กระทั่งการกันน้ำกันฝุ่นที่มีมาตรฐาน IP55 และ IP57 เป็นเครื่องการันตี โดยหลังจากลองทดสอบแช่น้ำเพื่อทำการถ่ายรูป พบว่าเมื่อนำกลับขึ้นมาก็ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ โดยรวมของการใช้งานมานานกว่าสัปดาห์ก็น่าจะตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพได้เป็นอย่างดี

หากแต่อุปสรรคของ Xperia Z ที่ขัดใจผมทุกครั้งที่เกิดขึ้นก็คือ อาการเด้งกลับมาที่ปุ่มโฮม โดยอาการดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อต้องการเข้าไปในบางส่วนของโปรแกรม Facebook และอีกโปรแกรมที่สำคัญคือ Gmail ที่ทำให้ไม่สามารถเปิดอ่านอีเมล์ได้อย่างที่ควรจะเป็น อาการดังกล่าวควรต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร็วที่สุด ก่อนที่ผู้บริโภคจะถอดใจ จนส่งผลให้ Xperia Z ไปไม่ถึงฝั่งฝัน

CyberBiz Social



Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket
กำลังโหลดความคิดเห็น