xs
xsm
sm
md
lg

Review : iPhone 5 นี่คือไอโฟนเติมเต็มรุ่น 4s

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




หลังจากบทความ ภาพต่อภาพ วัดประสิทธิภาพกล้อง iPhone 5 ปะทะ iPhone 4s และ [CyberTV] รีวิว iPhone 5 แบบเจาะลึก ได้รับการตอบรับจากผู้อ่านและผู้ชมเป็นอย่างดีจนยอดวิวแตะหลักแสนวิวในช่วงเวลาไม่ถึงอาทิตย์

มาวันนี้ก็ถึงคิวของบทความรีิวิวฉบับตัวอักษรตามที่ทีมงานสัญญาไว้ โดยการเจาะลึกครั้งนี้จะเน้นไปในส่วนการเปลี่ยนแปลงที่เกิดกับ iPhone 5 มากกว่าการเจาะลึกซอฟต์แวร์ iOS 6 ที่ทีมงานเคยได้ทำบทความอย่างละเอียดไปแล้วตามลิงค์ เตรียมรับมือ iOS 6 บน iPhone และ iPhone 5

การออกแบบ




ด้านการออกแบบ iPhone 5 ยังคงยึดพื้นฐานจาก iPhone 4 และ 4s แต่มีการปรับเปลี่ยนวัสดุในส่วนหลังเป็น Duo Tone โดยด้านบนและล่างเป็นกระจกเหมือน 4s แต่บริเวณส่วนกลางแอปเปิลเลือกใช้อะลูมิเนียมแบบเดียวกับที่ใช้ผลิตแม็คบุ๊กเข้ามาแทนที่ เพื่อเพิ่มความแข็งแรง

นอกจากนั้นด้วยการออกแบบหน้าจอใหม่แบบ in-cell technology ทำให้ขอบจอบางลง มีผลให้ความหนาของตัวเครื่องลดเหลือเพียง 7.6 มิลลิเมตร จากเดิม 9.3 มิลลิเมตร ส่วนน้ำหนักลดเหลือเพียง 112 กรัม

**ขออภัยสำหรับภาพประกอบที่อาจเห็นรายละเอียดด้านหลังตัวเครื่องไม่ชัดเจน เนื่องจากติดฟิล์มกันรอยไว้**



ด้านหน้าจอจะมีการเพิ่มขนาดด้านยาวเป็น 4 นิ้วที่ความละเอียดเรติน่า 1,136x640 พิกเซล 326ppi บนอัตราส่วนหน้าจอ Widescreen 16:9 โดยจากภาพประกอบด้านบนจะเห็นว่าในหน้าโฮมสกรีนจะได้แถวไอคอนเพิ่มอีก 1 แถวเป็น 5 แถวเมื่อเทียบกับ iPhone 4s ที่มีเพียง 4 แถว

อีกทั้งบริเวณด้านบนของจอภาพยังมีการปรับย้ายกล้องหน้าให้ไปอยู่เหนือลำโพง พร้อมเพิ่มความละเอียดของกล้องเป็น HD720p จากเดิมเป็นเพียง VGA เท่านั้น



มาที่รอบๆ ตัวเครื่องจากด้านซ้ายของตัวเครื่องจะเป็นสวิตซ์เปิดเสียง/ปิดเสียง-สั่น ถัดลงมาจะเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง และยังใช้เป็นปุ่มชัตเตอร์กล้องได้ด้วย



ส่วนด้านขวาของตัวเครื่องจะเป็นช่องใส่ Nano Sim แบบใหม่



ภาพเปรียบเทียบ MicroSim และ NanoSim (เล็กสุด) ซึ่งตอนนี้ Operator ไทยทั้ง 3 ค่ายพร้อมให้บริการ NanoSim ทุกเจ้าแล้ว




มาที่บริเวณด้านล่างของตัวเครื่องจะเห็นว่ามีการย้ายตำแหน่งช่องหูฟังลงมาจากด้านบนมาอยู่ด้านล่าง (ต้านบนเหลือแต่ปุ่ม Sleep/Awake) ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อก็เปลี่ยนเป็น Lightning โดยสายสามารถเสียบเข้าพอร์ตได้ 2 ด้าน ไร้กังวลเรื่องเสียบสายผิดด้านและพอร์ตได้รับความเสียหายเหมือนตอนพอร์ต 30 พิน


เปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างของบริเวณด้านล่างของ iPhone ทั้ง 2 รุ่นได้แก่ ซ้ายมือ iPhone 5 ส่วนขวามือ iPhone 4 จะเห็นว่าด้วยพอร์ตแบบใหม่นี้ทำให้แอปเปิลสามารถออกแบบในส่วนลำโพงกระจายเสียงได้ใหญ่และให้เสียงที่กว้าง เพราะกว่าแบบเก่า



ส่วนด้านหลังของ iPhone นอกจากเรื่องวัสดุที่เปลี่ยนไป เรื่องของกล้องยังมีการปรับเปลี่ยนในส่วนเลนส์นอกสุดไปใช้ Sapphire Glass เพิ่มความแข็งแรงและเป็นรอยขูดขีดยากขึ้น พร้อมเพิ่มไมโครโฟนรับเสียงสำหรับใช้บันทึกวิดีโอเพิ่มเข้ามา ที่ติดตั้งอยู่ระหว่างไฟแฟลชและเลนส์กล้อง




สุดท้ายในส่วนหูฟังที่แถมมา หลังจากเคยโดนลูกค้าสวดยับเรื่องคุณภาพเสียงที่ไม่สมราคา แอปเปิลก็ได้ปรับเปลี่ยนใหม่และออกแบบใหม่หมดพร้อมตั้งชื่อว่า Apple EarPods

โดยจุดเด่นของแอปเปิล EarPods ก็คือการออกแบบที่ถึงแม้รูปทรงจะดูประหลาด แต่ทางแอปเปิลก็เครมว่าสามารถใส่สนิทกับรูหูทุกรูปแบบ แถมตัดเสียงรบกวนภายนอกดีขึ้น (ไม่สามารถตัดสนิท 100% ได้แบบเดียวกับหูฟังราคาแพง) แต่ในเรื่องคุณภาพเสียงยังเพิ่มความใสและช่วงความถี่ต่ำให้ชัดเจนมากขึ้น

อีกทั้ง Apple EarPods ชุดที่มากับ iPhone 5 จะมาพร้อมเคสพลาสติกใส่หูฟัง ที่ทางแอปเปิลประกาศชัดเจนว่า เคสนี้จะช่วยจัดการปัญหาเรื่องการเก็บหูฟังไว้ในกระเป๋าและสายพันกันได้ดี

สเปก

มาในส่วนของสเปกเครื่อง สำหรับหน่วยประมวลผลจะใช้ Apple A6 Dual Core / Tri-Core Graphics เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ในส่วนแรมจะมีขนาด 1GB Dual Channel ทำให้ iPhone 5 มีความเร็วมากกว่า iPhone 4s ถึง 2 เท่า

ในส่วนกล้องหลังจะมาพร้อมความละเอียด 8 ล้านพิกเซลสเปกเดียวกับไอโฟน 4s แต่จะมีการเพิ่มในส่วนของ ISO จากเดิม 800 เป็นรองรับสูงสุดที่ 3,200 ตามบทความ ภาพต่อภาพ วัดประสิทธิภาพกล้อง iPhone 5 ปะทะ iPhone 4s

ส่วนกล้องหน้าเพิ่มความละเอียดเป็น 1.2 ล้านพิกเซล รองรับ FaceTime HD 720p

และการถ่ายวิดีโอสามารถบันทึกที่ความละเอียด 1080p 30fps พร้อมเพิ่มระบบตรวจจับใบหน้าขณะถ่ายวิดีโอ รวมถึงสามารถถ่ายภาพนิ่งระหว่างบันทึกวิดีโอได้ พร้อทปรับปรุงเรื่องระบบป้องกันภาพสั่นไหวให้ดีขึ้น

สุดท้ายในเรื่องการรองรับเครือข่ายและเน็ตเวิร์ค ในส่วน Wireless LAN จะรองรับ Wi-Fi (802.11a/b/g/n; 802.11n บน 2.4GHz และ 5GHz) ส่วนเครือข่ายโทรศัพท์สำหรับประเทศไทยรองรับ 3G ทุกเครือข่าย รวมถึงคลื่น 2,100MHz ที่จะมาในเร็ววันนี้

แต่เรื่อง 4G LTE ไม่ต้องกล่าวถึงให้เสียเวลา เพราะถึงอย่างไรก็ใช้ในบ้านเราไม่ได้แน่นอน

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ

อย่างที่เกริ่นไว้ด้านบนแล้วว่าในบทความรีิวิวนี้ ทีมงานจะไม่เจาะลึกในส่วน iOS 6 เพราะรีวิวไปหลายรอบแล้ว แต่วันนี้เราจะมาดูการปรับเปลี่ยนบน iPhone 5 กันว่ามีสิ่งใดน่าสนใจบ้าง





เป็นการปรับเปลี่ยนที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือเรื่องความยาวของหน้าจอกับอัตราส่วน 16:9 ที่เชื่อว่าหลายคนรอให้เกิดกับ iOS Device แบบที่แอนดรอยด์เขาใช้มาหลายปีแล้ว และใน iPhone 5 อัตราส่วน 16:9 ก็บังเกิดขึ้นพร้อมจุดเด่นพื้นฐาน ก็คือ ให้ภาพที่เต็มตากว่าเดิมดังภาพเปรียบเทียบด้านบนจะเห็นว่าแค่จอยาวขึ้นก็ทำให้การแสดงผลแนวตั้งได้พื้นที่เพิ่มขึ้นมากพอสมควร



และยิ่งเมื่อนำมาเล่นเกมที่รองรับจอ iPhone 5 ด้วยแล้ว ภาพที่ได้จะมีพื้นที่และความเต็มตามากขึ้น ดังเช่นภาพประกอบด้านบนจะเห็นภาพใน iPhone 4s ถูกครอปภาพเพื่อให้พอดีกับหน้าจอ ทำให้รายละเอียดภาพสูญเสียไปพอสมควร ส่วนไอโฟน 5 ก็แสดงผลได้เต็มตาแบบที่ควรจะเป็นมานานแล้ว

อีกทั้งถ้าสังเกตให้ดีๆ จะพบว่าหน้าจอแบบใหม่ของ iPhone 5 ยังให้สีที่สดใสและสว่างกว่าหน้าจอ iPhone 4s อยู่พอสมควร



แต่ทั้งนี้ด้วยการเป็นดีไวซ์หน้าจอขนาดใหม่ที่แอปเปิลไม่เคยทำมาก่อน ทำให้แอปฯ หลายตัวใน AppStore ยังตามอัปเดตไม่ทัน แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะสำหรับแอปฯ ที่ไม่รองรับหน้าจอ iPhone 5 เมื่อเปิดใช้งานจะมีแถบดำบนล่างเกิดขึ้น แน่นอนว่าเมื่อเป็นแอปฯ คงไม่มีผลอะไรกับผู้ใช้ แต่ถ้าเป็นการเล่นเกมนี่สิ เกิดแถบดำบนล่างแบบนี้อาจทำให้กดปุ่มไม่ถนัดได้เลย




มาในส่วนของกล้องถ่ายภาพและวิดีโอพบว่า UI มีการปรับเปลี่ยนใหม่ เพราะด้วยหน้าจอ 16:9 มันกว้างเกินไปสำหรับกล้องถ่ายภาพที่แสดงผลได้แค่ 4:3 ทำให้แอปเปิลต้องปรับ UI ใหม่ให้เหมาะสม จนเป็นผลให้เกิดปุ่มชัตเตอร์ขนาดใหญ่กดไม่มีทางพลาด

และสำหรับโหมดถ่ายวิดีโอ ด้วยหน้าจอแสดงผล 16:9 ถือเป็นผลดีเพราะเท่ากับว่าเราจะได้เห็นขอบเขตภาพวิดีโอแบบจริงๆ และเต็มตากว่าแบบเก่าที่เวลาเข้าโหมดวิดีโอ ถ้าอยากจะเห็นขอบเขตภาพจริงๆ ต้องจิ้มหน้าจอ 2 ทีให้มีขอบดำบนล่างก่อนพร้อมความสามารถใหม่ ในการกดถ่ายภาพนิ่งระหว่างบันทึกวิดีโอได้



นอกจากนั้นในส่วนโหมดพาโนรามาที่มีความน่าสนใจอยู่ที่สามารถถ่ายที่ความละเอียด 25 ล้านพิกเซลได้แบบรวดเร็วและใช้งานง่ายมาก (ไอโฟน 4s ก็ใช้ฟีเจอร์นี้ได้เช่นกัน)

ทดสอบประสิทธิภาพ



สำหรับ iOS Device เรื่องคะแนนทดสอบคงไม่จำเป็นเพราะปกติตัวดีไวซ์มีประสิทธิภาพที่ดีและลื่นไหลอยู่แล้ว ถึงแม้สเปกจะไม่แรงมาก แต่จากการทดสอบเล่นเกมกราฟิกหนักๆ อย่าง Wild Blood หรืแอปฯ ต่างพบว่าลื่นไหลมาก และยังไม่พบอาการกระตุกใดๆ นอกจากบั๊กของตัว iOS 6 ที่ทำให้แอปฯ เด้งออกเอง

ในส่วนของปัญหาต่างๆ อย่างแสงม่วง ตัวเครื่องเป็นรอยง่าย WiFi ใช้ไม่ดี จากการทดสอบอย่างใกล้ชิดเพราะทีมงานลงทุนซื้อมาใช้ส่วนตัว พบว่าปัญหาที่เจอมีเพียงเรื่องแสงม่วงและตัวเครื่องเป็นรอยง่ายอย่างเดียว แต่สำหรับปัญหาอื่นๆ ที่ฝรั่งเขาพบกัน ทางเราไม่พบเจอแต่อย่างใด

มาที่เรื่องแบตเตอรีหลายคนคงสงสัยว่าจะดีแค่ไหน ตรงจุดนี้ขอกล่าวกันตามตรงว่า iPhone 4s แบตเตอรีหมดเร็วอย่างไร iPhone 5 แบตเตอรีหมดเร็วแบบนั้นเลย ใช้หนึ่งวันเปิด 3G เล่นเกม Temple Run, WonderZoo สลับแอปฯ Instagram, Facebook ถ่ายภาพและแต่งภาพด้วย Snapseed พบว่านอกจากแบตเตอรีลดลงเร็ว ในส่วนความร้อนของเครื่องก็พุ่งสูงพอกับ iPhone 4s ที่ใช้งานแบบเดียวกัน ซึ่งตรงจุดนี้อาจเป็นเพราะ iOS6 เจ้าปัญหาด้วย ต้องรอการอัปเดตใหม่จากแอปเปิลและติดตามข่าวสารอีกครั้งครับ



สุดท้ายหลายคนอาจสงสัยว่ากล้องหน้า HD ภาพเป็นอย่างไร ทีมงานนำภาพมาให้รับชมกันแล้ว ซึ่งก็ถือเป็นไปตามมาตรฐานที่ไม่ได้ตื่นตาตื่นใจเท่าใด

จุดขาย

- หน้าจอความละเอียดสูง สีสดใสกว่าเดิม สว่างกว่าเดิม
- ความลื่นไหลและการจัดการด้านหน่วยความจำที่ดีเป็นของคู่ iOS มานานและยังทำได้ดีเหมือนเดิมใน iPhone 5
- กล้องหน้ารองรับ FaceTime HD 720p
- น้ำหนักเบาและบาง จับถือถนัดมือ
- เล่นมือเดียวได้ดีขึ้น
- กล้องหลังถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น ISO 3,200 f/2.4
- พาโนรามาใช้งานง่าย ขนาดไฟล์ใหญ่มาก นำไปต่อยอดทำอะไรได้หลายอย่าง ในขณะที่ความเร็วในการบันทึกภาพเพียงเสี้ยววินาที
- มีไมโครโฟนรับเสียงสำหรับบันทึกวิดีโอโดยเฉพาะ

ข้อสังเกต/ตอบจุดขายหรือไม่

- Lightning Port สร้างปัญหาให้กับอุปกรณ์ต่อพ่วงรุ่นเก่า เพราะใช้ร่วมกันไม่ได้ นอกจากหาซื้อ Adapter แปลงทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเกินความจำเป็น
- แฟร์กล้องสีม่วง
- ตัวเครื่องเป็นรอยง่าย
- แบตเตอรีหมดไวเหมือนไอโฟน 4s
- iOS 6 กับบั๊กจำนวนมากในตอนนี้ที่ต้องรอการแก้ไข

ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป

ยอมรับอย่างหนึ่งว่า iPhone 5 ไม่ได้มีนวัตกรรมอะไรที่แปลกใหม่ เหมือนในช่วงเปลี่ยนจาก 3G ไปเป็น iPhone 4 แต่ iPhone 5 เหมือนเป็นการปรับเพิ่มสเปก เติมเต็มส่วนที่ขาดใน iPhone 4s ให้ดีและทันสมัยขึ้นจนทำให้เป็น iPhone ที่สมบูรณ์แบบอย่างที่ควรจะเป็น

โดยในเรื่องความคุ้มค่า ถ้าผู้ใช้ชื่นชอบระบบปฏิบัติการ iOS เป็นทุนเดิมและมีเงินเหลือพอการเลือกซื้อ iPhone 5 นั้นก็ดูเป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่น้อย เพราะนอกจากได้ดีไวซ์ที่สดใหม่แล้ว การเปลี่ยนหน้าจอเป็น 16:9 ยังสร้างมุมมองใหม่ๆ ให้กับแอปฯ และเกมที่ดีขึ้นพอสมควร

แต่ทั้งนี้สำหรับผู้ที่ใช้ iPhone 4s อยู่ก่อนหรือคนที่ไม่มีเงินมากพอจะถอย iPhone 5 การเลือกใช้ iPhone 4s ที่ตอนนี้มีการปรับลดราคาลงก็เป็นเรื่องที่สมควรอย่างยิ่ง เพราะทุกฟีเจอร์ที่อยู่บน iPhone 5 ก็สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพบน iPhone 4s เช่นกัน

ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นกับ iPhone 5 ตามที่ข่าวนำเสนอไปมากมาย ตรงจุดนี้ทีมงานอยากให้ลองไปทดสอบใช้งานด้วยตัวเองเมื่อเครื่องวางจำหน่ายในไทยแล้ว เพราะการได้จับเครื่องทดลองใช้งานจริงจะทำให้คุณตัดสินใจได้ดีกว่า อย่างเช่นเพื่อนๆ ของทีมงานหลายคนบ่นผิดหวังเพราะเชื่อข่าวมากเกินไป แต่พอไปทดสอบใช้เองแล้ว หลายคนถูกใจและหลายคนก็ยังไม่ชอบหันไปหาแอนดรอยด์กันเยอะ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก และไม่ควรมาโหมไฟใส่กันแบบเด็กๆ

ของๆ เราตัดสินใจด้วยตัวเองดีที่สุด...

แถมท้ายวิดีโอรีวิวแบบละเอียดยิบ



Company Related Link :
Apple

CyberBiz Social



Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket




ภาพจาก iPhone 5
ภาพจาก iPhone 5
ภาพจาก iPhone 5
ภาพจาก iPhone 5
ภาพจาก iPhone 5
ภาพจาก iPhone 5
กำลังโหลดความคิดเห็น