โดยไอโฟน 5 จะใช้วัสดุเป็นกระจกกับอะลูมิเนียม มีความบางกว่าไอโฟน 4S 20% หรืออยู่ที่ประมาณ 7.6 มิลลิเมตร น้ำหนักอยู่ที่ 112 กรัม หน้าจอขนาด 4 นิ้ว อัตราส่วน Widescreen 16:9 ความละเอียด 1136 x 640 พิกเซล
สำหรับหน้าจอไอโฟน 5 จะมีการปรับปรุงประสิทธิภาพใหม่ ซึ่งด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่จะทำให้มีพื้นที่ในการแสดงแอปฯ เพิ่มมากขึ้น ส่วนแอปฯ ที่ยังไม่ได้อัปเดตให้รองรับกับไอโฟน 5 จะสามารถแสดงผลได้ แต่จะมีขอบดำบนและล่างปรากฏขึ้นขณะใช้งาน ให้สามารถแสดงสีสันได้ชัดเจนขึ้น 44% จากรุ่นที่แล้ว พร้อมฟีเจอร์ใหม่เฉพาะในชื่อ "Ultrafast Wireless" ทีแยกเป็น
- การรองรับสัญญาณ HSPA+, DC-HSDPA และ LTE
- มาพร้อม Single Chip สำหรับ Voice และ Data, Single Radio และเสารับสัญญาณแบบ Dynamic
- นอกจากนั้นในส่วน Wireless LAN ยังรองรับ Dual-Band 2.4GHz และ 5GHz สูงสุด 150Mbps
นอกจากนั้นไอโฟน 5 ยังมาพร้อมชิปประมวลผล A6 ที่เร็วกว่าเดิมทั้งกราฟิกและการประมวลผลประมาณ 2 เท่า
มาที่อายุการใช้งานแบตเตอรีสำหรับการสนทนา 3G สามารถใช้งานได้นาน 8 ชั่วโมง เล่นเว็บผ่าน 3G ได้นาน 8 ชั่วโมง WiFi 10 ชั่วโมง วิดีโอ 10 ชั่วโมง เพลง 40 ชั่วโมง และสแตนบาย 225 ชั่วโมง
ในส่วนกล้อง iSight จะยังใช้เซ็นเซอร์รับภาพ 8 ล้านพิกเซล พร้อม backside illuminated, เพิ่ม sapphire lens, hybrid IR filter, Dynamic low light mode พร้อมนำความสามารถของชิป A6 มาช่วยประมวลผลภาพตั้งแต่เรื่องชัตเตอร์กล้องที่เร็วขึ้น 40% จากรุ่นก่อน ระบบการจัดการสัญญาณรบกวนหรือ Noise ในสภาพแสงน้อยที่ดีกว่าเดิม พร้อมความสามารถในการถ่ายภาพพาโนรามาได้ที่ความละเอียดสูงถึง 28 ล้านพิกเซล
ส่วนเรื่องการถ่ายวิดีโอ Full HD 1080p มีการปรับปรุงเรื่องระบบกันสั่นใหม่ พร้อม Face detection และสามารถจับภาพนิ่งระหว่างบันทึกวิดีโอ
สำหรับกล้องหน้าสามารถใช้ Facetime HD ความละเอียด 720p พร้อมเลนส์กล้องแบบใหม่ภาพชัดกว่าเดิม อีกทั้งยังมีระบบ Face Detection ระหว่าง Facetime ด้วย
มาที่การอัปเกรดรอบตัวเครื่อง ไอโฟน 5 มีการติดตั้งไมโครโฟนรับเสียงมา 3 จุดพร้อม Wideband audio ที่ช่วยให้รายละเอียดเสียงชัดเจนขึ้น พร้อมปรับลำโพงให้เล็กลง 20% ส่วนลำโพงตรงช่องฟังเสียงสนทนามาพร้อมการติดตั้งตัวขจัดเสียงรบกวน
สุดท้ายสำหรับสายชาร์จมีการปรับเปลี่ยนใหม่ในชื่อ "Lightning" ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าเดิม 80% และสำหรับผู้ใช้ที่ยังจำเป็นต้องเชื่อมต่อ Connector 30pins อยู่สามารถซื้อ Adapter แปลงหัวเป็นพอร์ต Lightning ได้ที่แอปเปิล สโตร์
โดยราคาจำหน่าย iPhone พร้อมสัญญา 2 ปี ในรุ่น 16 GB 32 GB และ 64 GB อยู่ที่ 199 เหรียญ 299 เหรียญ และ 399 เหรียญตามลำดับ ขณะที่มีการปรับลดราคา iPhone 4S ลงเหลือ 99 เหรียญ เริ่มเปิดจองวันที่ 14 กันยายน และจะทยอยวางจำหน่าย 9 ประเทศ ในวันที่ 21 กันยายน (มีสิงคโปร์) และอีก 100 ประเทศ 240 โอเปอเรเตอร์ภายในเดือนธันวาคมนี้
นอกจากนั้นแอปเปิลยังได้เปิดตัว iOS 6 ที่จะถือว่าเป็นระบบปฏิบัติการขับเคลื่อนหลักให้แก่ไอโฟน 5 อีกครั้ง โดย iOS 6 ปล่อยให้อัปเดตสำหรับผู้ใช้งาน iPhone 4S, 4, 3GS, new iPad, iPad 2 ในวันที่ 19 กันยายนนี้พร้อมการปรับเปลี่ยนหน้าตา iTunes Store และ App Store ใหม่
สำหรับรายละเอียดปลีกย่อย iOS 6 ซึ่งถือเป็นระบบปฏิบัติการหลักในการขับเคลื่อนไอโฟนจะเป็นอย่างไรทีมงานไซเบอร์บิซและผู้จัดการเคยได้ทำรีวิวทดสอบตอนเวอร์ชัน Beta 1 ไปแล้ว อย่างไรรับชมเรียกน้ำย่อยก่อนครับ แล้วอย่าลืมติดตามรีวิว iOS 6 เวอร์ชันสมบูรณ์อีกครั้งในไซเบอร์บิซครับ
รับชมข้อมูล iPhone 5 เพิ่มเติม >คลิกที่นี่<
iTunes อัปเดตใหม่ในชื่อ new iTunes
โดยการอัปเดตในครั้งนี้จะมีการปรับโฉมหน้าตา iTunes ใหม่ในรูปแบบคล้ายกับ iTunes บน iOS 6 พร้อม iCloud Built-in และหน้า Mini Player แบบใหม่ โดย iTunes จะพร้อมให้ตาวน์โหลดในเดือนตุลาคม
รับชมข้อมูล new iTunes เพิ่มเติม >คลิกที่นี่<
iPod โฉมใหม่
เริ่มจาก iPod Nano ที่มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์และหน้าจอแบบ Widescreen 2.5 นิ้ว พร้อมเพิ่ม Bluetooth และแอปฯ ออกกำลังกาย
ในส่วน iPod Touch 5th generation จะมีการอัปเกรดซีพียูไปใช้ชิป A5 Dual Core พร้อมปรับขนาดความหนาเหลือเพียง 6.1 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 88 กรัม และแบตเตอรีมีอายุใช้งานสำหรับฟังเพลงอยู่ที่ 40 ชั่วโมง พร้อมกล้อง 5 ล้านพิกเซล ชิ้นเลนส์แบบเดียวกับ ไอโฟน 5 พร้อม Auto Focus นอกจากนั้น iPod Touch รุ่นใหม่ยังสามารถใช้งาน iPhoto, iMovie ได้
ส่วนกล้องหน้าจะสามารถใช้งาน FaceTime HD ได้แบบเดียวกับไอโฟน 5
นอกจากนั้น iPod Touch รุ่นใหม่ยังมาพร้อมอุปกรณ์เสริมอย่าง iPod Touch Loop หรือสายรัดข้อมือเวลาใช้งานไอพอด ทัชถ่ายภาพ รวมถึงการรองรับระบบเครือข่ายต่างๆ จะมาพร้อม Bluetooth 4.0 with LE และ WiFi 802.11a/b/g/n Dual Band 2.4GHz และ 5GHz ที่ความเร็ว 150Mbps อีกทั้งยังรองรับ AirPlay และ iOS6 ด้วย
สุดท้ายสำหรับราคาขาย iPod shuffle 2GB อยู่ที่ $49. iPod nano 16GB อยู่ที่ $149. และ New iPod touch 32GB อยู่ที่ $299. ส่วน 64GB อยู่ที่ $399 โดย iPod Nano และ New iPod touch จะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนตุลาคม
รับชมข้อมูล iPod เพิ่มเติม >คลิกที่นี่<
หูฟัง EarPods ใหม่ถอดด้าม
สำหรับหูฟังที่จะแถมมาในผลิตภัณฑ์แอปเปิลทั้งหมดต่อจากนี้จะมาพร้อมกับหูฟังดีไซน์ใหม่ตามรูปประกอบด้านล่าง
รับชมข้อมูล EarPods เพิ่มเติม >คลิกที่นี่<
ขอบคุณภาพถ่ายทั้งหมดจาก The Verge / Gizmodo / Engadget
Company Related Link :
Apple
CyberBiz Social