ตามคำบอกเล่าของผู้บริหารออปโป ที่ได้กล่าวว่า ออปโปจะทำการเปิดตัวสมาร์ทโฟนเดือนละ 1 รุ่น ซึ่งถ้าหากไล่มาตั้งแต่ OPPO Find 3, OPPO Find Guitar และ OPPO Finder จะเห็นได้ว่าออปโปได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนที่วางจำหน่ายในประเทศไทยไปแล้วถึง 3 รุ่น และสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่จะวางจำหน่ายต่อจากทั้ง 3 รุ่นที่ว่าคือ OPPO Find Gemini
โดยสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของออปโป รุ่น Find Gemini จะเป็นสมาร์ทโฟนที่ตีตลาดในตลาดล่าง มีราคาจำหน่ายที่ 8,990 บาท ซึ่งส่วนตัวมองว่า Find Gemini เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นอัปเกรดของรุ่น Find Guitar ด้วยการคงเอกลักษณ์ด้าน 2 ซิมเอาไว้ แต่เพิ่มขีดความสามารถด้านกล้องดิจิตอล พร้อมกับการดีไซน์ที่ดูสวยงาม เพรียวบางกว่าเดิม
การออกแบบและสเปกเครื่อง
การออกแบบของ OPPO Find Gemini จะค่อนข้างดูคล้ายกับรุ่น Guitar พอสมควร แต่ว่ารุ่นนี้กลับดูดีกว่า ค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงที่บางลง หน้าจอใหญ่ขึ้น การดีไซน์ดูสวยงามกว่าเก่า เรียกว่าหยิบเครื่องมาใช้งานแล้ว ต้องมีคนเหลียวมองอยู่บ้าง
ด้านหน้า - ตัวเครื่องจะออกเป็นสีขาว ที่เด่นชัดกว่า OPPO Find Guitar ที่จะออกเป็นสีขาวหม่นๆ ไข่มุก หน้าจอเครื่องใหญขึ้นอยู่ที่ 4 นิ้ว มาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียดถึง 2 ล้านพิกเซล ลำโพง ด้านล่างเป็นปุ่มแบบ Capacitive ได้แก่ปุ่ม Menu, Home และ Back ตามลำดับ นอกจากนี้ขอบของเครื่องมีการบอกว่าชุบด้วยโครเมียม
ด้านหลัง - ตรงกลางเป็นสัญลักษณ์ OPPO ด้านบนมีกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช ล่างสุดเป็นลำโพง
ด้านซ้าย - เป็นปุ่มเปิด/ปิดเครื่องอย่างเดียว
ด้านขวา - ปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง
ด้านล่าง - พอร์ทเสียบช่องไมโครยูเอสบี ข้างๆ เป็นลำโพงสนทนา
ด้านบน - แจ็คเสียบหูฟัง กับที่เปิดฝาหลังเครื่อง
ถ้าหากแกะฝาหลังเครื่องจะพบกับช่องใส่ซิมแบบดูอัลซิม มีช่องสำหรับใส่ไมโครเอสดี และแบตเตอรี 1710 mAh ถือว่าค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว ลืมบอกไปถ้าหากจะใส่ซิมและไมโครยูเอสบีจำเป็นต้องดึงแบตเตอรี่ออกมาก่อน
สำหรับสเปกภายในของ OPPO Gemini จะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.3.6 (แต่ไม่แน่ใจจะอัปเกรดได้เมื่อไหร่) หน้าจอ 4 นิ้ว ความละเอียด 480x800 พิกเซล ซีพียูคอร์เดียว ARM-7 1GHz หน่วยความจำเครื่อง 4GB (อาจจะน้อยไปหน่อย) หน่วยความจำสำรอง 512MB กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล เป็นฟีเจอร์ 2 ซิม เคาะจำหน่าย 8,990 บาท
ฟีเจอร์ประจำเครื่อง
เริ่มจากอินเตอร์เฟสก่อน ส่วนตัวแล้วไม่ค่อยชอบอินเตอร์เฟสที่เป็นของ OPPO มากนัก แต่ก็มีวิธีแก้ขัดด้วยการเปลี่ยนธีมเริ่มต้นแทน ซึ่งอินเตอร์เฟสบางส่วนก็ออกแนวยำๆ มารวมกันเลยดูไม่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวสักเท่าไหร่
นอกเหนือเปลี่ยนธีมแล้ว ยังมีให้เปลี่ยนแอนิเมชันของเครื่องอีกด้วย
Homescreen - ผู้ใช้สามารถปรับลดหน้า Homescreen ได้ตามที่ต้องการ ซึ่งถ้าต้องการใส่วิดเจ็ท เปลี่ยนพื้นหลัง หรือใส่โฟลเดอร์ก็ทำได้โดยการกดค้างที่พื้นที่ว่างๆ บน Homescreen จากนั้นจะมีให้เลือกที่ด้านล่าง
อีเมล - การแสดงผลตามมาตรฐานสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ทั่วไป สามารถอ่านเมล ส่งเมลได้
กล้อง - ฟีเจอร์ไม่มีอะไรมาก แต่ที่เพิ่มมาคือ touch to focus และโหมดการถ่ายภาพแบบ Beauty Plus เหมาะกับสาวๆ
คลังภาพ - ส่วนนี้ออปโปได้มีการปรับปรุงให้เป็นแบบเฉพาะของตัวเอง ด้วยการนำเสนออินเตอร์เฟสส่วนการแสดงผลรูปภาพแบบกล้องโพราลอยด์
โหมดเพลง - จะไม่มีเมนูสำหรับปรับตั้งแต่ง Equalizer เหมือนกับ OPPO Find Guitar โดยเมนูที่มีให้ก็จะเป็นเมนูพื้นๆ เช่นการเรียงลำดับการเล่นเพลง เปลี่ยนสกิน การตั้งเวลาปิดเพลง การแสดงเนื้อเพลง เป็นต้น
VDO - รองรับการเล่นไฟล์วิดีโอระดับ FullHD ได้สบาย
ท่องโลกอินเทอร์เน็ต - สามารถเปิดแท็บได้มากสุด 8 แท็บ หน้าตาอาจจะดูต่างไปจากแอนดรอยด์ เบราว์เซอร์อื่นๆ สักหน่อย เพราะตรงนี้ออปโปได้ดีไซน์อินเตอร์เฟสออกมาเอง แต่วิธีการใช้งานก็เหมือนๆ กัน เช่น ซูมเข้า-ออกได้ การโหลดภาพ ล้างแคช เคลียร์คุ๊กกี้ต่างๆ
วิทยุ - นอกจากนี้ OPPO Find Gemini ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์วิทยุด้วย ซึ่งยามใดเบื่อๆ ที่จะฟังเพลงจากเครื่องก็สามารถเปิดวิทยุมานั่งฟังชิลๆ ได้ด้วย
การตั้งค่า - จะมีการแบ่งหมวดหมู่อย่างชัดเจน แต่โดยรวมแล้วก็ไม่แตกต่างจากแอนดรอยด์ สมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ
LOMO Camera - เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยเติมเต็มการถ่ายภาพด้วย OPPO Find Gemini ก็ว่าได้ ทำให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพในแนวๆ ได้สบาย อีกทั้งยังมีเฟรมให้ภาพดูแปลกตายิ่งขึ้นได้อีกด้วย นอกเหนือจากนี้ แอปนี้ยังรองรับการถ่ายภาพแบบ Burst และ Panorama ได้
Security - จากที่รุ่นที่แล้ว คือ Guitar มีแอปพลิเคชัน Security มาให้ เมื่อเป็นประโยชน์เช่นนั้น OPPO Gemini จึงต้องมีแอปตัวนี้อยู่ ด้วยความสามารถที่ทำให้ผู้ใช้สามารถสแกนแอปพลิเคชันได้ว่า แอปใดมีแนวโน้มที่จะเป็นอัตรายก็จะมีแอปนี้เป็นด่านสแกนตัวแรก ทำให้ปลอดภัยขึ้นพอสมควร มีฟังก์ชัน Data Monitor สำหรับดูการใช้งานดาต้า นอกเหนือจากนั้นแล้วผู้ใช้ยังสามารถบล็อกเบอร์โทรศัพท์ที่ไม่ต้องการรับสาย สำหรับป้องกันการรังขวาญใจจากเบอร์ไม่พึงปรารถนา
นอกจากนี้แล้วยังมีอีกฟีเจอร์หนึ่งที่เป็นฟีเจอร์ที่มีความโดดเด่น ก็คือผู้ใช้สามารถตั้ง Private Zone ได้ โดยผู้ใช้สามารถจำกัดสิทธิ์การเข้าใช้งานให้บุคคลอื่นที่อาจจะยืมมือถือเรามาดู หรือหยิบยืมลองเล่น ให้เข้าใช้งานได้เฉพาะส่วน เช่นอาจจะไม่ให้ผู้ใช้คนอื่นเห็นว่า เราใช้แอปพลิเคชันอะไรเป็นการส่วนตัว
Power Saver - เป็นระบบประหยัดพลังงาน ซึ่งโดยปกติแล้วอาจจะแทบไม่ต้องใช้แอปพลิเคชันตัวนี้เลยก็ว่าได้ เพราะตัวของ OPPO Find Gemini เองค่อนข้างจะกินพลังงานแบตเตอรี่น้อยอยู่แล้ว แต่ถึงกระนั้นถ้าไม่พอใจผู้ใช้ก็สามารถปรับค่าการประหยัดพลังงานได้เองด้วยครับ
Dictionary - พจนานุกรม สำหรับการแปลศัพย์ ซึ่งก่อนที่จะเข้าหน้าแปลศัพย์ก็จะมีคติข้อคิดให้อ่านกัน โดยจะอยู่บริเวณด้านล่างอีกด้วย
Near Me Note - แอปพลิเคชันสำหรับบันทึกข้อความต่างๆ ที่รองรับทั้งรูปภาพจาก Gallery หรือภาพที่ถ่ายใหม่ หรือผู้ใช้จะจดโน้ตด้วยการเขียนบนหน้าจอ
สำหรับผลการทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน Benchmark ต่างๆ ได้คะแนนดังต่อไปนี้ ทดสอบด้วย AnTuTu ได้ไป 3714 ทดสอบด้วย Vellamo ได้ 849 ทดสอบด้วย Quadrant Benchmark ได้ 2199 คะแนน ผลการทดสอบด้วย NenaMark และ NenaMark OPPO Find Gemini ได้ไป 48.6FPS และ 23.5 ตามลำดับ
จุดขาย OPPO Find Gemini
- สมาร์ทโฟน 2 ซิม ราคาประหยัด แถมยังมีฟีเจอร์ที่ค่อนข้างครบ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ต้องการไว้สำหรับถ่ายภาพมีทั้งกล้องหน้า และกล้องหลังที่ความละเอียดสูงพอตัวเกินราคาเลยทีเดียว
- หน้าจอค่อนข้างละเอียด 480x800 พิกเซล กับราคามือถือไม่ถึงหลักหมื่น
- แบตเตอรี่อึดมาก ขนาดใช้ฟังเพลง เล่นโซเชียลเน็ตเวิร์ก และเล่นเกมแบบโหดๆ แบตเตอรี่ยังลดไม่ถึง 10%
- การชาร์จประจุเข้าเครื่องทำได้เร็ว ซึ่งเร็วกว่า OPPO Find Guitar มาก
จุดสังเกตของรุ่นนี้
- ถ้ากรณีที่ผู้ใช้ไม่ได้ใช้ธีมพื้นฐาน แล้วเปลี่ยนไปใช้ธีมอื่นที่มีให้เลือกจะพบว่า เครื่องจะต้องใช้เวลาประมวลแอปพลิเคชันที่อยู่บน Homescreen ใหม่ ซึ่งอาจจะขัดใจในการใช้งานที่ไม่ต่อเนื่อง
- หน่วยความจำเครื่อง กับหน่วยความจำสำรองอาจจะดูน้อยไปหน่อย
- ยังไม่มีกรอบระยะเวลาในการอัปเกรดระบบปฏิบัติการใหม่ ทำให้อาจเสียเปรียบคู่แข่งแบรนด์อื่นที่อยู่ในเรตราคาใกล้เคียงกัน
คุ้มค่าต่อการลงทุนหรือไม่ ?
โพสิชันของ OPPO Find Guitar จะเป็นกลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มล่าง เกือบๆ ค่อนไปทางระดับกลาง (low to mid) ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่า OPPO Find Gemini อาจจะเป็นรุ่นที่มาตีตลาดกันเองกับ Guitar ที่มีคอนเซปต์คล้ายคลึงกัน แต่โดยรวมแล้ว Gemini ดูดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นรูปทรง ขนาดหน้าจอ รวมไปถึงฟังก์ชันการถ่ายภาพที่โดดเด่นกว่า ทำให้แอบคิดว่า ออปโปไม่จำเป็นต้องเอารุ่น Guitar มาขายก็ได้ แค่รุ่น Gemini รุ่นเดียวก็เกินพอแล้ว
นอกเหนือจากนี้ความน่าสนใจของ OPPO Find Gemini จะอยู่ที่การตั้งราคาที่เรียกได้ว่าไม่แพงนัก เพียงแค่ 8,990 บาท จึงถือได้ว่าจากนี้ไปตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลางค่อนล่าง จะมีออปโปเป็นคู่แข่งที่มีชื่อชั้นน่ากลัว และน่าจับตามองเป็นที่สุดก็ว่าได้
