ก่อนหน้านี้ซัมซุงเคยเปิดตัวแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้วมาก่อนหน้านี้แล้ว และนี่จะเป็นครั้งที่ 2 ที่ซัมซุงจะได้ฤกษ์เปิดตัว Galaxy Tab รุ่นที่ 2 ในนาม Galaxy Tab 7.0 Plus
โดยการกลับมาคราวนี้ของ Galaxy Tab 7.0 Plus จะมีจุดเด่นอยู่ 4 อย่าง ตามที่ซัมซุงประกาศเอาไว้ ประกอบด้วย การปรับปรุงขนาดเพื่อให้มีความเหมาะสมในการใช้งานหลากหลายพื้นที่ ประการที่ 2 เป็นเรื่องระบบปฏิบัติการที่ใช้ 3.2 ที่เป็นระบบปฏิบัติการที่ทำเพื่อแท็บเล็ตแอนดรอยด์ ประการที่ 3 คือการปรับสปีดให้มีการตอบสนองที่ดีขึ้น และการโทรศัพท์ที่ไม่ต้องมีอุปกรณ์อื่นมาเชื่อมต่อ หรือกล่าวง่ายๆ คือ กดเบอร์แล้วยกเครื่องมาคุยได้เลย
บอกเล่ารูปทรง
อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น ชื่อรุ่นก็บอกแล้วว่า Tab 7.0 Plus ดังนั้นหน้าจอก็ต้องมาพร้อมกับขนาด 7 นิ้ว รูปแบบการสัมผัสเป็นแบบ Capacitive รองรับการทัชได้อย่างดีเยี่ยม ความละเอียดหน้าจอ 600 x 1024 พิกเซล มีกล้องหน้าที่ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
ด้านซ้าย - มีช่องใส่ซิม สำหรับโทรออก และเล่นอินเทอร์เน็ตในเครือข่าย 3G และมีช่องใส่ microSD
ด้านขวา - มีปุ่ม Power On/Off และปุ่ม Volume
ด้านล่าง - มีช่องเสียบสำหรับชาร์จเครื่องอยู่ตรงกลาง มีลำโพงสเตอริโอเล็ก ๆ ทั้งด้านซ้าย และด้านขวา
ด้านบน - มีเพียงแค่ช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน
ด้านหลัง - มีกล้องหลังที่ความละเอียด 3 ล้านพิกเซล พร้อมพ่วงด้วยแฟลช และความสามารถในการถ่ายวิดีโอความละเอียด HD
จุดขาย Galaxy Tab 7.0 Plus
ก่อนที่ต้องบอกก่อนเลยว่ารูปร่างหน้าตาของเจ้า Tab 7.0 Plus มีความคล้ายคลึงกับรุ่นก่อนๆ ที่ออกมาก่อนหน้านี้อย่าง Tab 10.1 และ Tab 8.9 รวมทั้งวัสดุก็เป็นวัสดุประเภทเดียวกัน ซึ่งกล่าวคือ 7.0 Plus เป็นรุ่นที่ถูกซอยย่อยลงมา สำหรับผู้ใช้งานที่ชื่นชอบแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้ว ในความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแล้ว มองว่าแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้ว เป็นแท็บเล็ตที่มีความเหมาะสมในการใช้งานทั้งเล่นอินเทอร์เน็ต และการอ่านหนังสือ ซึ่งสามารถพกพาไปที่ต่างๆ ได้สบาย ดังนั้นจุดเด่นประการแรกที่ซัมซุงกล่าวเอาไว้ ผมถือว่ามาได้ถูกทาง
ประการที่ 2 ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ Honeycomb 3.2 บน Galaxy Tab 7.0 Plus ถือว่ามีความลงตัว เมื่อผนวกกับอินเตอร์เฟสของซัมซุงเองอย่าง TouchWiz ที่ทำให้การใช้งานได้ทั้งความลื่นไหล และความสวยงามในเวลาเดียวกัน ซึ่งถ้าจะมองว่าจุดแข็งของซัมซุงคือ TouchWiz ก็คงไม่ผิดหนัก ถ้าหากลองเทียบกับอินเตอร์เฟสเจ้าอื่น ๆ แล้ว ซัมซุงยังคงมีความเหนือกว่านิดหน่อย ซึ่งประเด็นดังกล่าวนี้ครอบคลุมไปยังจุดเด่นประการที่ 3 ของซัมซุงไปโดยปริยาย เพราะการตอบสนองของเครื่องทำได้ดีกว่า Tab 7 ตัวเก่า อาการค้าง หรือเกิดสภาวะ Force Close ก็มีอยู่บ้าง
ประการที่ 4 การโทรศัพท์ กล่าวกันตามตรงเลยครับว่า การยกหูมาโทรศัพท์โดยไม่ผ่านอุปกรณ์เสริม มันไม่เวิร์กเลยครับ คือความรู้สึกว่ามันไม่ใช่โทรศัพท์ และมันไม่เหมาะที่จะยกหูคุยด้วยประการทั้งปวง อีกทั้งเสียงสนทนาก็ค่อนข้างก้องกังวาลจนเกินไป จุดนี้เป็นจุดที่ต้องปรับปรุง ถ้าต้องการที่จะใช้ฟีเจอร์โทรศัพท์ใน Galaxy Tab 7.0 Plus ควรจะหาอุปกรณ์เสริมเพื่อรองรับการคุยจะดีที่สุดครับ
สำหรับสเปกของ Samsung Galaxy Tab 7.0 Plus จะเป็นรุ่นอัปเกรดของ Galaxy Tab 7 ตัวเก่า หน่วยประมวลผลถูกอัปเกรดขึ้นเป็นดูอัล-คอร์ 1.2GHz พร้อมด้วยแรม 1GB ระบบปฏิบัติการที่ใช้เป็นแอนดรอยด์ 3.2 Honeycomb อินเตอร์เฟสที่ใช้ TouchWiz UX รองรับการใช้งานทั้ง 3G/Wi-Fi ขนาดความจุ 16GB และรองรับ microSD Card
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ-ทดสอบประสิทธิภาพ
สเปกเครื่อง Galaxy Tab 7.0 Plus จะเป็นหน่วยประมวลผลดูอัล-คอร์ หน่วยความจำ ชิปเซ็ทกราฟิก และระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 3.2 และทางซัมซุงยืนยันว่ารุ่นนี้จะได้รับการอัปเกรดเป็น Ice Cream Sandwich (ICS)
Memo - ถูกออกแบบเพื่อการใข้งานในรูปแบบของการจดบันทึก หรือจดโน้ตย่อๆ กันลืมได้
Pen Memo - คล้ายกับ memo แต่สามารถเลือกได้ว่าจะใช้เป็น text หรือจะเขียนด้วยนิ้วตัวเองก็ได้ โดยผู้ใช้สามารถปรับสี หรือขนาดของหัวปากกาได้เอง แต่ถ้าเทียบกับ Galaxy Note ทางฝั่ง Galaxy Note จะดีกว่า
Mini App - เป็นแอปพลิเคชันย่อยๆ ที่จะผู้ใช้สามารถเรียกใช้ได้อย่างง่ายๆ เพียงแค่ทัชที่ลูกศร แต่แอปฯ ทั้งหมดไม่สามารถเลื่อนหรือย้ายตำแหน่งได้ โดยแอปฯ ใน Mini Apps จะมีดังต่อไปนี้ Phone, Messaging, Task Manager, Pen Memo, Calendar, Music Player, Calculator, World Clock
Social Feed - แอปพลิเคชันที่จะผนวกเครือข่ายสังคมออนไลน์ทั้งทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กเข้าด้วยกัน
Camera - สำหรับความละเอียดกล้องของ Galaxy Tab 7.0 Plus จะมีความละเอียด 3 ล้านพิกเซล มีระบบออโต-โฟกัส และ LED แฟลช รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด HD 720p โดยภาพรวมแตกต่างจาก Tab 10.1 และ 8.9 อยู่บ้าง
Web Browser - ด้วยขนาดหน้าจอ 7 นิ้ว การเข้าใข้งานเบราว์เซอร์ทำได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งแน่นอนว่ารองรับแฟลชได้
My File - เป็นแอปพลิเคชันด้าน File Manager ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าดูโฟลเดอร์ต่างๆ ของเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ที่โหลดมา ไฟล์ที่เก็บแอปพลิเคชัน เป็นต้น
AllShare - แอปพลิเคชันนี้เป็นแอปพลิเคชันที่ใช้เทคโนโลยี DLNA สำหรับแชร์ไฟล์อื่นๆ ไปยังอุปกรณ์ของซัมซุง ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอ, รูปภาพ และเพลง
Samsung App - แอปสโตร์ของซัมซุงเอง ที่มีแอปพลิเคชันมากมายให้โหลด ทั้งนี้ซัมซุงได้มีการแบ่งหมวดเพื่อง่ายต่อการดาวน์โหลด
Smart Remote - ชื่อก็บอกว่าเป็นรีโมทดังนั้นแอปพลิเคชันนี้จะเป็นรีโมท ที่สามารถควบคุมอุปกรณ์ประเภท ทีวี บลูเรย์ ดีวีดี เรียกว่าเป็นแอปพลิเตชันที่มีประโยชน์จริงๆ ถ้าใครซื้อ Tab 7.0 Plus ไปก็ลองใช้แอปฯ นี้ด้วย แล้วจะติดใจ
Task Manager - อีกหนึ่งแอปพลิเคชันที่มีประโยชน์ ใช้สำหรับในการสั่งปิดแอปพลิเคชันที่ไม่ต้องการใช้งานแล้ว นอกจากนี้ยังสามารถใช้สั่งการ uninstall แอปพลิเคชัน ดู Storage ของเครื่อง และ Ram Manager สำหรับเคลียร์ Memory
สำหรับเรื่องของแบตเตอรี ยอมรับว่าแบตค่อนข้างอึดพอตัวเลย แบตเตอรีความจุ 4000 mAh ปกติผมจะใช้งานเฟซบุ๊ก, ทวิตเตอร์ ท่องเว็บอินเทอร์เน็ตเป็นครั้งคราว รวมไปถึงการอ่าน E-Book
ทดสอบด้วยคะแนนทดสอบต่างๆ ทดสอบด้วย BenchmarkPI ได้ 592, Quadrant Benchmark ได้ 3124 และสัมผัสพร้อมกันได้ 10 จุด ส่วนผลการทดสอบด้วย Antutu ดูจากตามภาพเลยละกันครับ
ตอบโจทย์จุดขายหรือไม่ ?
- ด้านการใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการเล่นอินเทอร์เน็ต ใช้บริการโซเชียลเน็ตเวิร์ก อ่านหนังสือ เล่นเกม สามารถทำได้อย่างดี ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เมื่อใช้งานนาน ๆ เครื่องค่อนข้างร้อน แม้ว่าจะเจออาการหน่วงอยู่บ้าง แต่ก็ยังพอรับได้
- การใช้งานกล้อง ก็ทำได้ดี ภาพที่ให้ออกมาสีค่อนข้างสวยงาม ส่วนการโฟกัสความเร็วปานกลาง
- หน้าจอของ Galaxy Tab 7.0 Plus สีที่ให้ค่อนข้างสด ด้วยความละเอียด 600x1024 ถือว่าคุณภาพที่ให้ค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจ แต่ถ้าเทียบกับ Huawei Mediapad แล้วความละเอียดของหน้าจอ Mediapad จะมีความละเอียดกว่า
ซื้อ/ไม่ซื้อ เลือกทางไหนดี ?
สำหรับ Galaxy Tab 7.0 Plus เคาะราคาจำหน่าย 15,900 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ เนื่องจากซัมซุงเองก็เข้าใจตลาดและกลไกราคาของแท็บเล็ตพอสมควร ในส่วนของสเปกเครื่องก็ค่อนข้างดีตามมาตรฐานของแท็บเล็ตที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Honeycomb ที่เรียกสเปกพื้นฐานค่อนข้างสูง
ในแง่ของการดีไซน์จะค่อนข้างคล้ายคลึงกับ Galaxy Tab รุ่นพี่ทั้ง 10.1 และ 8.9 น้ำหนักของตัวเครื่องไม่หนักเท่าไรนัก การกระจายน้ำหนักกระจายไปรอบเครื่อง จนไม่รู้สึกว่าเครื่องหนักบริเวณส่วนใดส่วนหนึ่ง
ด้านการใข้งาน 3G และโทรศัพท์ ถึงแม้ว่าผู้เขียนจะปักธงว่า Tab 7.0 Plus ไม่เหมาะในการยกเครื่องมาโทร แต่ถ้าใช้อุปกรณ์เสริมอย่างบลูทูธ หรือหูฟังก็จะดีกว่า ส่วนการใช้งานเครือข่าย 3G จะแบ่งขายออกเป็น 2 รูปแบบคือ แบบที่รองรับ 3G ในเครือข่าย 850 และ 900
สุดท้ายถ้าคุณต้องการแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้ว ที่ตอบโจทย์ด้านประสิทธิภาพ สามารถพกพาไปได้ทุกที่ ทุกเวลา ใช้งานได้ทั้งเอนเตอร์เทนเมนต์ เกม และการอ่านหนังสือ ผมมองว่า Galaxy Tab 7.0 Plus ก็เป็นทางเลือกที่ดีในการหาแท็บเล็ตมาใช้งานสักเครื่อง
Company Related Link :
Samsung