xs
xsm
sm
md
lg

เดิมพันล่าสุดของซัมซุง "Galaxy Note" (Cyber Weekend)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หากนกบินอยู่บนท้องฟ้า ทุกคนย่อมเห็นว่ามันเป็นนก หากเครื่องบินบินอยู่บนท้องฟ้า ทุกคนย่อมเห็นว่ามันคือเครื่องบิน แต่สำหรับ Galaxy Note หลายคนไม่รู้ว่ามันคือ"แท็บเล็ตจอเล็ก"หรือ"สมาร์ทโฟนจอใหญ่" ที่น่าสนใจคือ เชื่อหรือไม่ว่าความกำกวมก้ำกึ่งนี้เองคือเดิมพันสำคัญที่ซัมซุงวางหมากไว้อย่างชาญฉลาด

ถ้าจะวิเคราะห์ถึงความล้ำลึกของซัมซุงในครั้งนี้ จะต้องพูดให้ครบทั้ง 4P ของนักการตลาด เริ่มที่ Product หรือผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้ความก้ำกึ่งสร้างกระแสร้อนแรงในวัยรุ่นเอเชียอย่างคาดไม่ถึง ต่อมาคือ Price หรือราคาที่จะปฏิวัติโลกสมาร์ทโฟนระดับราคาเดียวกันอย่างพลิกฝ่ามือ รวมถึง Place หรือตลาดในแต่ละภูมิภาคที่ยังมีความแตกต่างกันในแง่ของพฤติกรรมและรสนิยม และที่ขาดไม่ได้คือ Promotion ที่ซัมซุงยกมามัดใจลูกค้าให้สนใจในตัว Galaxy Note

ทั้งหมดนี้จะสะท้อนว่า หากปฏิบัติการสร้าง"ตลาด Note"สำเร็จ ซัมซุงจะสามารถยืนอยู่ในแถวหน้าของโลกสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตได้อย่างขาวสะอาด (กว่าเดิม)

***ชีวิตคิดไม่ตก สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต

ชาวไอทีร้อยทั้งร้อยสะดุดตากับหน้าจอสีสดขนาด 5.3 นิ้วซึ่งทำให้ Galaxy Note ถูกเรียกว่าเป็นสมาร์ทโฟนมากกว่าแท็บเล็ตซึ่งมักคุ้นตาในขนาดเกิน 7 นิ้วขึ้นไป แถมยังรองรับเครือข่ายโทรศัพท์มือถือเต็มรูปแบบทั้ง 3G ความเร็วดาวน์โหลดสูงสุดที่ 21Mbps HSPA+ (850, 900, 1900, 2100MHz), LTE, EDGE และ GPRS

แต่ในแง่ของคุณสมบัติจุดขายของ Galaxy Note กลับอยู่ที่ปากกาสไตลัส (Stylus) ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สินค้าตระกูลแท็บเล็ตและอีรีดเดอร์หลายค่ายเคยพยายามชูธงอยู่หลายปีแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร โดยสื่อมวลชนไทยที่ได้ทดสอบ Galaxy Note ยกนิ้วว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีปากกา Stylus S-Pen ซึ่งเขียนได้ดีแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่เคยทดสอบมา

หากไม่นับหน้าจอใหญ่สีสดเหมาะกับการชมภาพยนตร์และเล่นเกม Note ยังมีจุดขายเรื่องหน่วยประมวลผลดูอัลคอร์ 1.4GHz ที่ทำให้การแสดงผลเว็บเพจที่หนักด้วย Adobe Flash หรือสคริปต่างๆ ทำได้แบบลื่นไหลมาก รวมถึงความสามารถด้านการตัดต่อวิดีโอไม่ธรรมดาที่ซัมซุงแถมให้ฟรี

ทั้งหมดตอกย้ำว่า Galaxy Note ไม่ใช่สมาร์ทโฟน แต่ก็ไม่ใช่แท็บเล็ต แน่นอนว่าซัมซุงวางแผนเรื่องนี้ไว้แล้ว โดยเรียกมันว่า Note

วันนี้คำว่า Note ถูกตั้งขึ้นมาใช้เรียกตลาดใหม่ที่ซัมซุงแจ้งเกิดเพื่ออุดช่องโหว่ระหว่างสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต (เช่นเดียวกับที่แท็บเล็ตเกิดมาเพื่ออุดช่องว่างระหว่างสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์เน็ตบุ๊ก) ซัมซุงไม่แคร์ว่าเดลล์ (Dell) ยักษ์ใหญ่โลกไอทีอเมริกันเคยล้มเหลวไม่เป็นท่ากับสมาร์ทโฟนลูกผสมแท็บเล็ตขนาด 5 นิ้วที่ทุกคนรู้จักในชื่อ Dell Streak แต่สร้างความมั่นใจให้ตัวเองด้วยการประโคมสเปกหรือคุณสมบัติด้านฮาร์ดแวร์เต็มขั้นจนทำให้ Note สามารถทำงานข้ามหน้าข้ามตา Streak ชนิดจมหู

การทำให้ Note กลายเป็น "Category ใหม่" หรือประเภทสินค้าใหม่ในตระกูลแอนดรอยด์ (Android) ส่งให้ซัมซุงสามารถแหวกตลาดแอนดรอยด์แล้วหาที่ยืนได้อย่างสวยงาม โดยปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมความสวยงามของกลยุทธ์นี้คือการเพิ่มความสามารถให้คุณสมบัติการจดบันทึกใน Galaxy Note ไร้เทียมทาน ผู้ใช้ Galaxy Note ไม่เพียงสามารถวาดรูป แต่ยังสามารถจดบันทึกในปฏิทินงาน รูป หรือแม้แต่วิดีโอ แถมยังสามารถใช้ร่วมกับการตัดต่อภาพและวิดีโอได้ด้วย

สื่อที่ทดสอบ Galaxy Note เชื่อว่าความบางของ Galaxy Note จะทำให้ผู้บริโภคไม่อึดอัดใจหากต้องใช้งานเป็นโทรศัพท์มือถือ จุดนี้น่าสนใจมากว่า Galaxy Note อาจแย่งตลาดสมาร์ทโฟนระดับราคาใกล้เคียงกันมาครองได้ โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดผู้ชอบความแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร

***สมาร์ทโฟน-แท็บเล็ตราคา 2 หมื่น มีเสียวสันหลัง

Galaxy Note ถูกกำหนดราคาจำหน่ายไว้ที่ 22,900 บาท ด้วยราคานี้ผู้บริโภคจะสามารถใช้งานซอฟต์แวร์พิเศษของซัมซุงได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ผลที่จะเกิดขึ้นตามมาคืออาการเสียวสันหลังของสมาร์ทโฟนระดับราคา 19,000 บาทขึ้นไป ที่จะมีตัวเปรียบเทียบที่น่ากลัวอย่าง Galaxy Note

แม้แต่สมาร์ทโฟนพันธุ์แท้ Galaxy SII ของซัมซุงเอง ราคาวางจำหน่าย 18,900 บาทซึ่งหนีจาก Galaxy Note เพียง 4,000 บาทนั้นยังมีความเสี่ยงถูก Galaxy Note แย่งตลาดไป

และถ้ามองในแง่ของการมีเชื้อพันธุ์แท็บเล็ตผสม เพราะหน้าจอมีความละเอียดถึง 1,280x800 พิกเซล เทียบเท่ากับความละเอียดของแอนดรอยด์แท็บเล็ตไฮเอนด์ในปัจจุบัน ยังมีผลให้ผู้คิดจะซื้อแอนดรอยด์แท็บเล็ตแต่ติดในเรื่องขนาดที่ใหญ่ อาจเกิดความรู้สึกที่ดีกับขนาด 5.3 นิ้วของโน้ตที่เหมาะมือ พกพาสะดวก ในขณะที่ประสิทธิภาพและการใช้งานเทียบเท่าแท็บเล็ตได้สบาย

อย่างไรก็ตาม มีโอกาสไม่น้อยที่ Galaxy Note จะเป็นเพียง"ลมที่พัดผ่านไป" ในโลกดิจิตอล และเป็นเพียงแค่กระแสที่ถูกปลุกขึ้นมาโดยนักการตลาด หรือถ้ามองไปในตลาดคอมพิวเตอร์พกพาก็เคยมีกรณีอย่างที่ "เน็ตบุ๊ก" คอมพิวเตอร์รุ่นเล็กเคยเป็น ก่อนหน้านี้ คอมพิวเตอร์สำหรับเล่นอินเทอร์เน็ตที่มีขนาดเครื่อง-คุณสมบัติ-ราคาต่ำกว่าคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กนั้นสามารถขายดีถล่มทลายในเอเชีย แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จในภูมิภาคอื่นและโดนแท็บเล็ตตีตลาดในที่สุด

***ฮือฮาแต่เอเชีย?

บทความรีวิวทดสอบความสามารถของ Galaxy Note นั้นได้รับความนิยมมากในโลกออนไลน์ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเห็นได้ชัดจากการถูกส่งต่อและแนะนำลิงก์บทความไปทั่วเครือข่ายสังคม อย่างไรก็ตาม ในตลาดโลก Galaxy Note กลับไม่เป็นข่าวเกรียวกราวเท่าในเอเชีย ซึ่งทำให้อดคิดไม่ได้ว่าหรือนี่จะเป็นเพียงกระแสในกลุ่มผู้ชอบของแปลกเฉพาะประเทศ เพราะด้วยพฤติกรรมในการบริโภคเทคโนโลยี โดยเฉพาะในประเทศไทย ที่นิยมความคุ้มค่า เน้นสเปกดี ฟีเจอร์ครบเครื่องไว้ก่อน ใช้ไม่ใช้อีกเรื่องหนึ่ง

สำนักข่าวซีเน็ตตั้งข้อสังเกตว่า ขนาดหน้าจอที่ถือว่าใหญ่กว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปจะเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อ Galaxy Note เพราะนาทีนี้ยังไม่มีสมาร์ทโฟนรุ่นใดที่มีหน้าจอใหญ่เท่า ขณะเดียวกันก็ชี้จุดอ่อนของ Galaxy Note ที่ปัญหาแบตเตอรี่ และเรื่องการรองรับแอปพลิเคชันที่ไม่ทั่วถึง ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของผู้ใช้แท็บเล็ตเพื่อการทำงานที่ยังคงยืดมั่นในแท็บเล็ตพันธุ์แท้มากกว่า

ปัจจุบัน Galaxy Note เริ่มวางจำหน่ายแล้วในเยอรมนีตั้งแต่วันที่ 31 เดือนตุลาคมและในอังกฤษตั้งแต่ 2 พฤศจิกายน รวมถึงสหรัฐฯและประเทศอื่นในเอเชีย ล่าสุดซัมซุงเชื่อว่า Galaxy Note จะมียอดจำหน่ายทะลุ 2 ล้านเครื่องในเร็ววัน แต่ยังไม่ระบุกำหนดเวลาหรือรายละเอียดใดๆ ซึ่งคาดว่ายอดจำหน่าย จะคลี่คลายเมื่อซัมซุงเปิดอัปเดท Galaxy Note เป็นแอนดรอยด์เวอร์ชันใหม่ Ice Cream Sandwich หรือ Android 4.0 ที่จะทำให้เครื่องสามารถรองรับทุกแอปพลิเคชันแอนดรอยด์ได้

***แอปฯ ฟรีหนีคู่แข่ง

โปรโมชันที่ซัมซุงใช้กับ Galaxy Note ยังไม่ใช่สงครามราคา แต่อาวุธหลักคือความคุ้มค่าที่ซัมซุงพยายามชูธงให้ฟรีแอปพลิเคชันเสริมที่แบรนด์อื่นคิดค่าใช้จ่าย ตัวอย่างสำคัญคือซอฟต์แวร์ตัดต่อวิดีโอ Video Editor ซึ่งมีความสามารถไม่ต่างจาก iMovie ที่ผู้ใช้ไอโฟนต้องเสียเงินซื้อหากต้องการตัดต่อวิดีโอ ขณะเดียวกันความร่วมมือกับเอไอเอส ซึ่งเป็นโอเปอเรเตอร์ที่มีการพัฒนาแอปพลิเคชันท้องถิ่นอยู่แล้ว ช่วยเสริมความละเอียดในแง่คอนเทนต์ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ซัมซุงยังให้ส่วนประกอบฮาร์ดแวร์ในเครื่องที่สูงพอจะจัดการทรัพยากรระบบได้ดีจนทำให้เครื่องทำงานได้เร็วเหนือคู่แข่งที่อยู่ในระดับราคาเดียวกัน ทั้งหมดนี้ต้องยอมรับว่ามีค่าพอที่จะทำให้ผู้บริโภคมองข้ามวัสดุที่ดูเปราะบางและปัญหาเรื่องความไม่เชื่อถือในแบรนด์ซัมซุงของคนบางกลุ่มได้ไม่น้อย

บรรทัดสุดท้ายของมหากาพย์เรื่องนี้หาก Galaxy Note ประสบความสำเร็จจริง คือซัมซุงจะได้รับการยกย่องในฐานะผู้เปิดตลาดเซกเมนต์ใหม่ได้เป็นคนแรก ไม่ใช่ตามรอยแบรนด์อื่นที่บุกตลาดไปก่อน แถมยังปราศจากข้อหา"ลอกเลียนแบบ"อย่างหมดจดงดงาม แต่ถ้าเรื่องทั้งหมดตรงกันข้าม ซัมซุงก็ไม่ต้องเสียอะไร และยังสามารถจำหน่ายสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตพันธุ์แท้ของตัวเองได้ต่อไป

Company Related Link :
Samsung
กำลังโหลดความคิดเห็น