Aspire One รุ่นนี้ถือเป็นรุ่นแรกๆของเน็ตบุ๊กที่หันมาใช้ซีพียู Intel Atom N280 ที่ความเร็ว 1.66GHz และเข้ามาวางขายในประเทศไทย แต่ถ้านับกันจริงๆ เน็ตบุ๊กรุ่นแรกที่ใช้ซีพียูรุ่นนี้ในงานเปิดตัวต่างประเทศก่อนใครคือ EeePC 1000HE ซึ่งยังไม่เห็นว่าทางอัสซุสจะนำเข้ามาจำหน่ายแต่อย่างใด
จุดเด่นของซีพียูรุ่นนี้ที่ทางอินเทลแคลมมาคือ สามารถรองรับการประมวลผลของไฟล์วิดีโอความละเอียดสูง จากสัญญาณนาฬิกาที่เพิ่มขึ้นมาเป็น 1.66GHz จากรุ่นเดิมคือ 1.6GHz ส่วนตัวเครื่อง Aspire One รุ่นนี้จะโดดเด่นที่ดีไซน์มีความทันสมัยมากขึ้น รวมไปถึงขนาดหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ขึ้น นอกจากนี้ตรงทัชแพด ยังรองรับการใช้งานแบบมัลติทัชด้วย
Design Of Acer Aspire One D150
เริ่มกันที่ดีไซน์ของ Aspire One D150 รูปลักษณ์ภายนอกตรงส่วนฝาหน้าจะเป็นสีขาวเรียบๆ เอเซอร์เรียกสีนี้ว่า "Seashell White" มีโลโก้ Acer อยู่มุมซ้ายบน ขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 259 x 185 x 33.4 มิลลิเมตร น้ำหนักประมาณ 1.18 กิโลกรัม
เมื่อเปิดขึ้นมาจะพบกับหน้าจอ WVGA ขนาด 10.1 นิ้ว ความละเอียด 1,024 x 600 พิกเซล บริเวณด้านบนจะมีกล้องเว็บแคม ความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซลติดอยู่ ถัดจากแว็บแคมมาทางซ้ายจะมีรูไมโครโฟน บริเวณล่างของหน้าจอจะมีสัญลักษณ์ acer อยู่เช่นเดียวกับหลายๆรุ่น
ถัดลงมาบริเวณข้อต่อ จะยึดอยู่มุมซ้ายและขวาของเครื่องเท่านั้น ที่บริเวณข้อต่อทางด้านขวาจะมีตัวอักษร 'ASPIRE ONE' ถัดลงมาบริเวณเหนือคีย์บอร์ดทางฝั่งซ้าย จะมีปุ่มเปิด - ปิด บลูทูธ ไฟแสดงสถานะการทำงานของซีพียู ฮาร์ดดิสก์ ส่วนทางฝั่งขวาจะมีปุ่มเปิดเครื่องสีเงินล้อมรอบด้วยพลาสติกสีเขียวดูโดดเด่น
ในส่วนของแป้นคีย์บอร์ดบริเวณ 4 แถวกลางจะมีขนาดปกติแต่ไม่ถึงกับใหญ่เท่าคีย์บอร์ดโน้ตบุ๊กทั่วไป แต่บริเวณแถวบนสุด รวมไปถึงบริเวณปุ่มลูกศรจะมีขนาดเพียงครึ่งหนึ่งของปุ่มปกติ ส่วนปุ่มคำสั่งอื่นๆ ก็มีขนาดลดหลั่นกันไป
ถัดลงมาเป็นทัชแพด ที่มีรูปร่างเปลี่ยนไปจากรุ่นเก่า กล่าวคือจากรุ่นเดิมที่ปุ่มคลิกเมาส์ซ้าย - ขวา จะอยู่บริเวณด้านข้าง แต่ในรุ่นนี้กลับมาเป็นทัชแพดแบบปกติ โดยจะมีลูกเล่นพิเศษที่มาจากซอฟต์แวร์ synaptic ในการใช้งานแบบมัลติทัช ช่วยอำนวยความสะดวก ซึ่งการใช้งานในจุดนี้จะกล่าวในภายหลัง
การทดลองใช้งานคีย์บอร์ดของ แอสปายวัน ถือว่าอยู่ในระดับที่พัฒนาขึ้นจากรุ่นเดิม แม้ขนาดของคีย์บอร์ดจะไม่ได้ใหญ่ขึ้นมากนัก แต่การตอบสนองของคีย์บอร์ดทำได้ดี ในส่วนของทัชแพดด้วยความที่มีขนาดเล็ก เวลาใช้งานถ้านิ้วไปอยู่บริเวณแถบ Scroll Whell จะกลายเป็นการเลื่อนขึ้นลงแทน ทำให้มีปัญหาเวลาใช้งาน
เมื่อพลิกกลับมาด้านหลังเครื่อง จะเห็นว่าบริเวณมุมทั้ง 4 ของเครื่องจะมีขายื่นออกมาจากตัวเครื่อง เพื่อยกให้เครื่องสูงขึ้นจากโต๊ะเวลาวางโน้ตบุ๊ก บริเวณด้านขวา(จากรูป) จะมีพัดลมระบายอากาศติดอยู่ ส่วนที่เห็นเป็นรูๆ อยู่ด้านล่างนั้นจะมีทั้งส่วนที่เป็นช่องระบายอากาศและลำโพงสเตอริโอ
ซึ่งจากขาทั้ง 4 ข้างที่ยื่นขึ้นมานี้จะช่วยให้เครื่องมีการระบายความร้อนได้ดีขึ้น รวมไปถึงช่วยขับพลังเสียงจากลำโพงที่อยู่ด้านใต้เครื่อง ต้องถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดที่ทางเอเซอร์พัฒนาขึ้นมา
Input and Output Ports
ด้านซ้าย ไล่จากด้านในจะประกอบไปด้วยพอร์ต VGA Out ช่องเสียบสายแลน รูระบายอากาศ พอร์ตยูเอสบี 1 พอร์ต ช่องเสียงหูฟังและไมโครโฟน และ การ์ดรีดเดอร์แบบ 5-1
ด้านขวา จากด้านในออกมาจะมีช่องล็อกโน้ตบุ๊ก ช่องเสียบสายชาร์จ และพอร์ตยูเอสบีอีก 2 พอร์ต
ทางด้านหน้าของเครื่องบริเวณมุมขวา จะมีปุ่มเปิด-ปิดไวเลสอยู่ ส่วนใต้เครื่องด้านหน้าจะเป็นที่อยู่ของลำโพง
ด้านหลังของเครื่องจะเป็นที่เสียบแบตเตอรี่
นอกจากการเชื่อมต่อภายนอกแล้ว ภายในยังประกอบไปด้วยการเชื่อมต่อไวเลสจาก Atheros AR5007EG ที่รองรับมาตรฐาน 802.11 b/g และบลูทูธ 2.0
สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพจะอยู่ในหน้าถัดไป
Performance And Benchmark
สิ่งที่พิเศษขึ้นมาสำหรับ แอสปาย วัน D150 รุ่นนี้คือ เปลี่ยนซีพียูยอดนิยมอย่าง Intel Atom N270 @ 1.6GHz มาเป็น Intel Atom N280 @ 1.66GHz ที่ใช้เทคโนโลยี 45 นาโนเมตรช่วยประหยัดพลังงาน, คอร์สปีดสูงสุดอยู่ที่ 1662.6 MHz ส่วน FSB อยู่ที่ 665MHz, L1 D-Cache 24KB, L1 I-Cache 32KB และ L2 Cache ขนาด 512KB
ทางด้านเมนบอร์ดยังคงเป็น Intel i945GME (ICH7- MU) ซึ่งเป็นเมนบอร์ดยอดนิยมของเน็ตบุ๊กหลายๆรุ่นในปัจจุบัน ทางเอเซอร์ตั้งชื่อโมเดลนี้ว่า Aspire One V1.01 ในส่วนของแรมเป็น DDR2 Bus 667 ขนาด 1GB
ทดสอบใช้งานผ่านโปรแกรม PCMark05 ถึงแม้จะไม่ได้ผลที่เป็นคะแนนรวมออกมา แต่เมื่อดูคะแนนทีละส่วนไล่ตั้งแต่ซีพียู ที่ 1543 ถือว่าเพิ่มขึ้นจากในซีพียูรุ่นเดิม คะแนนของหน่วยความจำและฮาร์ดดิสก์อยู่ในเกณฑ์ปกติ น่าเสียดายที่คะแนนกราฟิกไม่วามารถคำนวนออกมาได้ ไม่งั้นคะแนนเฉลี่ยที่ได้น่าจะมากกว่าเน็ตบุ๊กรุ่นอื่นๆในปัจจุบัน
มาต่อกันที่กราฟิกการ์ด เครื่องรุ่นนี้ใช้การ์ดจอออนบอร์ดจาก Intel 945 Express Chipset ซึ่งจะแชร์หน่วยความจำมาจากหน่วยความจำหลักในการประมวลผล
ลองทดสอบผ่านโปรแกรม 3DMark06 ที่ความละเอียดหน้าจอ 1024 x 600 ผลคะแนนออกมาอยู่ที่ 127 คะแนน แต่ทั้งนี้ถ้าหากนำไปเปรียบเทียบกับเน็ตบุ๊กรุ่นอื่นๆที่ความละเอียดหน้าจออยู่ที่ 1280 x 800 ส่วนใหญ่จะได้คะแนนประมาณ 80 - 90 คะแนน ดังนั้นคะแนนเพิ่มขึ้นมาอยู่ในหลักร้อย อาจจะเกิดจากความละเอียดสูงสุดของหน้าจอไม่เท่ากัน
การใช้งานของเน็ตบุ๊กที่ความละเอียดหน้าจอสูงสุดแค่ 1024 x 600 พิกเซลนั้น ทำให้ไม่สามารถรับชมภาพยนตร์ความละเอียดสูง (720p) ได้ เนื่องจากขนาดของหน้าจอไม่เอื้ออำนวย ทีมงานทดสอบใช้งานพบว่า ความเร็วที่เพิ่มขึ้นของซีพียูช่วยในจุดนี้ได้มาก ทดลองใช้งานเล่นๆแม้ภาพจะไม่เต็มหน้าจอ ก็ไม่แสดงอาการหน่วงหรือกระตุกให้เห็นแต่อย่างใด ทั้งนี้ แม้ความเร็วของซีพียูจะเพิ่มขึ้น แต่อย่าหวังว่าจะเล่นไฟล์ภาพยนตร์ที่ความละเอียดสูง (1080p) ได้เนื่องจากทีมงานทดลองแล้วเห็นว่ามันไม่เวิร์กจริงๆ
ฮาร์ดดิสก์ของเครื่องรุ่นนีเจะเป็นของ โตชิบา ขนาดความจุอยู่ที่ 160GB อัตราการเข้าถึงข้อมูลอยู่ที่ 18.6ms ถือว่าใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยที่ประมาณ 17ms ส่วนอัตราการเข้าถึงข้อมูลสูงสุดอยู่ที่ 61.8 MB/sec จะเห็นว่าในจุดนี้ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว
ส่วนของภาครับสัญญาณไวเลส Aspire One D150 ใช้การ์ดไวเลสจาก Atheros AR5007EG จากกราฟจะเห็นว่าอัตราการรับสัญญาณอยู่ในระดับปานกลางไม่ขึ้นไปถึงจุดสูงสุด สัญญาณที่รับได้จะอยู่ในอัตราคงที่แม้จะมีการขยับเข้า-ออก จากจุดกระจายสัญญาณ การทดลองใช้งานก็ไม่สังเกตถึงอาการเน็ตหลุดบ่อยๆแต่อย่างใด
Speaker
ในส่วนของลำโพงเจ้า Aspire One D150 จะนำลำโพงไปไว้บริเวณใต้เครื่องทำให้เสียงที่ได้ออกมาเกิดจากการสะท้อนพื้นผิว เสียงที่ได้จึงมีความดังมากกว่าปกติ ด้านความละเอียดของเสียงมีความเป็นสเตอริโอแยกซ้าย-ขวา ชัดเจน แต่ในส่วนของเสียงทุ้มแหลม ถูกลดหลั่นไปจากการสะท้อนพื้นผิวเสียงที่ได้จึงไม่ละเอียดเท่าที่ควร แต่อย่างไรก็ตามในส่วนของซาวน์การ์ดเมื่อต่อออกลำโพงยังคงใช้ Realtek Hd Audio เช่นเดิม
Battery and Heat
สำหรับแบตเตอรี่จะเป็น Li-ion ขนาด 2200mAh ถึงจะเห็นว่าแบตเตอรี่มีขนาดเล็ก แต่เมื่อทดสอบใช้งานที่ความสว่างหน้าจอ 50% เปิดเสียง 50% เล่นอินเทอร์เน็ต ฟังเพลง ใช้งานทั่วๆไป สามารถใช้ได้นานถึง 2 ชั่วโมง 30 นาที ดังนั้นถ้าไม่ฟังเพลง เล่นอินเทอร์เน็ตน่าจะใช้ได้นานถึง 3 ชั่วโมงได้แน่ๆ
เมื่อทดลองชมภาพยนตร์ เปิดความสว่างหน้าจอสูงสุด เสียงดังสุด เวลาในการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาที จะเห็นได้ว่าไม่แตกต่างจากการทดสอบข้างต้นเท่าใดนัก ส่วนเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่อยู่ที่ประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที
มาดูกันเรื่องของความร้อนเครื่อง เมื่อใช้งานหนักๆอย่างรับชมภาพยนตร์ผ่านฮาร์ดดิสก์ ความร้อนสูงสุดของซีพียูขึ้นไปอยู่ที่ 85 องศาเซลเซียส ค่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 75 องศาเซลเซียส การระบายอากาศของเครื่องรุ่นนี้คิดว่าทำได้ดีขึ้นกว่าในรุ่นเก่า เนื่องจากเมื่อวางบนโต๊ะใต้เครื่องจะถูกยกให้สูงขึ้นกว่าปกติ ทำให้ใต้เครื่องสามารถระบายอากาศได้มากขึ้น
สำหรับฟีเจอร์ที่มี และ บทสรุปจะอยู่ในหน้าถัดไปนะครับ
Feature of Acer Aspire One D150
สำหรับจุดเด่นที่จะมาแนะนำในเครื่องรุ่นนี้คงจะหนีไม่พ้นการใช้งานทัชแพดแบบมัลติทัช เพราะนอกจากนี้ยังไม่เห็นจุดใดที่เปลี่ยนแปลงไปจากเครื่องรุ่นก่อน เมื่อพูดถึงระบบมัลติทัชหลายๆคนคงคาดหวังไว้ว่ามันจะช่วยให้ใช้งานได้สารพัดประโยชน์มากขึ้น แต่จริงๆแล้วด้วยความที่พื้นที่บริเวณทัชแพดมีขนาดเล็ก การใช้งานจึงลำบากไปโดยปริยาย
การทำงานของทัชแพด ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าในโปรแกรม Synaptics ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ในการควบคุมทัชแพด สามารถตั้งค่าในส่วนของพื้นที่การใช้งานต่างๆได้ เลือกตั้งค่าปุ่มกดซ้าย-ขวา ให้เป็นอย่างอื่นก็สามารถ ที่พิเศษขึ้นมาคือเมื่อกดบริเวณแถบ Scroll Bar ที่อยู่บริเวณด้านขวาและด้านล่าง จะมีสัญลักษณ์หมุนๆขึ้นมา เมื่อใช้งานโปรแกรมใดๆที่สามารถเลื่อนหน้าขึ้น-ลงได้ การหมุนดังกล่าวจะคล้ายกับการ Scroll ขึ้น - ลง บนเมาส์
อีกหนึ่งฟังก์ชันพิเศษที่เพิ่มเข้ามาคือ Flick หรือการเลื่อนรูปภาพ สไลด์โชว์ ด้วยการใช้นิ้วทั้ง 2 ในการสั่งงาน
สุดท้ายคือฟังก์ชัน Pinch ช่วยในการซูมเข้า-ออก ในโปรแกรมดูรูปภาพ โดนใช้นิ้วมือทั้ง 2 นิ้ว จีบเข้า และ จีบออก ในการควบคุม
บทสรุป
จุดเด่นสำหรับเน็ตบุ๊กของเอเซอร์ ยังคงอยู่ที่ดีไซน์ที่สวยเรียบ ทันสมัย แม้ว่าจะเพิ่มขนาดหน้าจอขึ้นมาเป็น 10.1 นิ้ว แต่ความละเอียดของหน้าจอยังคงเป็นเช่นเดิมคือ 1024 x 600 พิกเซล เมื่อเทียบกับเน็ตบุ๊กรุ่นอื่นๆในตลาด ที่สามารถทำความละเอียดขึ้นไปถึง 1280 x 800 จุดนี้เอเซอร์ยังคงเสียเปรียบอยู่
ในด้านของราคา ต้องบอกว่าเปิดตัวมาในราคาที่สูงไปสักนิด ในงานคอมเวิลด์ครั้งที่ผ่านมาราคาเจ้าตัวนี้อยู่ที่ 16,900 บาท ถึงแม้ว่าจะเป็นซีพียูที่เร็วขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย แต่ถ้าทดลองใช้กันจริงๆ คนใช้น่าจะแยกแยะไม่ออก แต่ในอนาคตถ้าราคาลดลงอยู่ในระดับหมื่นต้นๆ เครื่องรุ่นนี้คงจะน่าสนใจมิใช่น้อย
ท้ายนี้การเข้ามาของ Aspire One รุ่นนี้ คงทำให้ตลาดเน็ตบุ๊กขนาด 10 นิ้ว คึกคักขึ้น เพราะคงต้องยอมรับว่าเอเซอร์ยังเป็นเบอร์ 1 ของตลาดโน้ตบุ๊กในประเทศอยู่ ดังนั้นเมื่อลงมาทำตลาดเน็ตบุ๊กอย่างจริงจังคงจะไม่ยอมเสียอันดับให้คู่แข่งเป็นแน่
ขอชม
- หน้าจอขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 10 นิ้ว
- ซีพียูแรงขึ้นจากเดิมเป็น 1.66GHz
- ระบบระบายอากาศทำได้ดีขึ้น จากการยกตัวเครื่องสูงขึ้นจากพื้น
ขอติ
- ทัชแพดขนาดเล็กเกินไป
- ความละเอียดหน้าจอเพียง 1024 x 600
- ยังไม่รองรับไฟล์ภาพยนตร์ความละเอียดสูง 1080p
Company Relate Link :
Acer
