สมัครชิงผู้ว่าฯรฟท.เหงา หลังปิดรับสมัคร เมื่อ 8 ธ.ค.68 มีสมัครเพียง 2 ราย รอคณะกรรมการสรรหาฯประชุม 15 ธ.ค.นี้ ชื่อ"อนันต์ โพธิ์นิ่มแดง"รองผู้ว่าฯรฟท.ตัวเต็ง คาดประสานการเมืองได้ ไม่มีปัญหาคนในองค์กรต่อต้าน
รายงานข่าวแจ้งว่า จากที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)ได้ประกาศสรรหาผู้ว่าฯ รฟท.คนใหม่ โดยให้ยื่นสมัครระหว่างวันที่ 21 พ.ย. - 8 ธ.ค. 2568 โดยหลังปิดรับสมัคร มีการเก็บเอกสารปิดผนึกของผู้ยื่นสมัครไว้อย่างมิดชิด ซึ่งมีรายงานว่า คณะกรรมการสรรหาผู้ว่าฯรฟท.ที่มี นางสาวศุกร์ศิริ อภิญญานุวัฒน์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะกรรมการรฟท. เป็นประธาน จะมีการประชุมในวันที่ 15 ธ.ค. 2568 นี้ ซึ่งคาดว่าจะเปิดเอกสารเพื่อตรวจคุณสมบัติผู้สมัครตามขั้นตอน
รายงานข่าวแจ้งต่อว่า เบื้องต้นมีผู้ยื่นสมัครจำนวน 2 ราย คือ นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการ รฟท.ปัจจุบันทำหน้าที่ รักษาการผู้ว่า รฟท. และก่อนหน้านี้นายอนันต์ เคยระบุว่า จะยื่นสมัครเข้ารับการสรรหาผู้ว่าฯรฟท.ส่วนอีกราย เป็นผู้สมัครจากภายนอก ในระดับรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
ทั้งนี้ ตามประกาศคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 1/2568 เรื่อง รับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย วันที่ 7 พ.ย. 2568 ระบุว่า คณะกรรมการสรรหาฯจะประกาศรายชื่อผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนจากใบสมัครและเอกสารหลักฐานประกอบการสมัคร และจะเชิญผู้ที่มีรายชื่อดังกล่าวเข้ารับการสัมภาษณ์ตามวัน เวลา และสถานีที่กำหนดต่อไป โดยผู้ไม่เข้ารับการสัมภาษณ์ตามกำหนดถือว่าสละสิทธิ์
มีกระแสข่าวว่า จากที่มีผู้สมัครเพียง 2 ราย คาดได้ว่า นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการ รฟท.น่าจะได้รับการคัดเลือกเป็นผู้ว่าฯรฟท.คนที่ 21 โดยประเมินจากสถานการณ์ที่ฝ่ายการเมืองไม่ได้ส่งบุคคลเข้ามาร่วมชิงเก้าอี้นี้ ซึ่งอาจะเป็นเพราะรัฐบาลที่มีพรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำ มีกำหนดเรื่องยุบสภาไว้ชัดเจน ไม่เกิน วันที่ 31 ม.ค. 2569 ดังนั้น การส่งคนของตนเองเข้ามาก็อาจจะมีปัญหาได้หากหลังเลือกตั้งการเมืองเปลี่ยนขั้ว ประกอบกับที่ นายอนันต์ถือเป็นผู้บริหารระดับรองผู้ว่าฯรฟท.ที่ทำหน้าที่รักษาการผู้ว่าฯรฟท.อยู่แล้ว ซึ่งพบว่า สามารถทำงานร่วมกับฝ่ายการเมืองในปัจจุบันได้
สำหรับการสรรหาฯได้กำหนดเรื่อง คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง ข้อ 3.2.2(1) กรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารจากหน่วยงานภาคเอกชน ต้องดำรงตำแหน่งไม่ตํ่ากว่าระดับรองผู้บริหารระดับสูงสุดของหน่วยงานที่มีรายไดไม่ตํ่ากว่า 7,000 ล้านบาท/ปี
ข้อ 3.2.2(2)กรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารส่วนราชการ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐต้องดำรงตำแหน่งไม่ตํ่ากว่ารองอธิบดี หรือรองหัวหน้าส่วนราชการ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ที่เทียบเท่ารองอธิบดี
ข้อ 3.2.2(3)กรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับรองผู้บริหารระดับสูงสุดขององค์กร ที่มีรายได้ต่ำกว่า 7,000 ล้านบาท/ปี
ข้อ 3.2.2(4)กรณีดำรงตำแหน่งตามข้อ (1)-(3) จะต้องมีระยะเวลาการดำรงตำแหน่งและปฎิบัติงานในตำแหน่งนั้นแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันยื่นใบสมัคร
ข้อ 3.2.3 มีความรู้และจัดเจนเกี่ยวกับการรถไฟ การขนส่ง วิศวกรรม พาณิชยกรรม การเศรษฐกิจ หรือการเงิน
ข้อ 3.2.4 มีวิสัยทัศน์และแนวคิดในการพัฒนากิจการรถไฟ และการบริหารสินทรัพย์ให้เจริญก้าวหน้า มีความทันสมัย สามารถตอบสนองความต้องการขนส่งระบบรางทั้งภายในและระหว่างประเทศเพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่สะดวก ตรงต่อเวลา และปลอดภัย รวมถึงมีวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการบริหารจัดการและกำกับดูแลกิจการที่ดี ให้บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ขององค์กร
ข้อ 3.2.5 มีแนวคิดในการจัดโครงสร้างองค์กรยุคใหม่ให้สามารถปฏิบัติงานตอบสนองนโยบายของรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพและให้เกิดประสิทธิผล มีคุณธรรม และจริยธรรมของนักบริหาร และมีประสบการณ์และแนวคิดในการบริหารบุคลากรในองค์กรขนาดใหญ่
ข้อ 3.2.6 มีบุคลิกภาพดี มีภาวะผู้นำ มีความรอบรู้ ไหวพริบ ปฏิภาณและมีความสามารถสูงในการตัดสินใจ สั่งการ และบริหารตามนโยบายที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทยได้เป็นอย่างดีและมีประสิทธิภาพ มีมนุษยสัมพันธ์อันดี สามารถติดต่อประสานงานได้ดีทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
สำหรับการสรรหาผู้ว่าฯรฟท.คนใหม่ เพื่อแทนนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าฯรฟท.คนที่ 20 ที่ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง ไปเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2568


