กบร.ไฟเขียว ทอท.ขึ้นค่า PSC ผู้โดยสารระหว่างประเทศเป็น 1,120 บาท คาดมีรายได้เพิ่ม กว่า 1 หมื่นล้านบาท มีผล 1 เม.ย. 69 ย้ำนำไปปรับปรุงบริการและลงทุนอาคารทิศใต้”สุวรรณภูมิ” ส่วนสนามบินตรัง อินเตอร์เป็น 425 บาท ในประเทศ 75 บาท และให้ CAAT ขึ้นค่าบริการกำกับความปลอดภัยเป็น 25 บาท/คน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังงเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ครั้งที่ 3/2568 วันที่ 3 ธ.ค.68 ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบปรับอัตราค่าบริการผู้โดยสาร (Passenger Service Charges : PSC) สำหรับผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) (AOT) หรือ ทอท. จำนวน 6 แห่ง ประกอบด้วย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง สนามบินเชียงใหม่ สนามบินแม่ฟ้าหลวง เชียงราย สนามบินภูเก็ต และสนามบินหาดใหญ่ เป็นอัตรา 1,120 บาทต่อคน จากปัจจุบันเก็บอัตรา 730 บาทต่อคน ขณะที่เส้นทางภายในประเทศยังคงอัตราเดิม 130 บาท
โดยให้ ทอท.นำส่งเอกสารเพิ่มเติมให้ กพท. ตรวจสอบ และดำเนินการจัดรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย พร้อมชี้แจงอัตราที่เสนอปรับเพิ่มและเหตุผลความจำเป็น จากนั้นจึงรายงานผลต่อ กพท. ก่อนเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเพื่อพิจารณาอนุมัติ พร้อมกำหนดให้แจ้งประชาชนล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 4 เดือนก่อนเริ่มจัดเก็บในอัตราใหม่
โดยทอท.ประเมินว่า มีผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประมาณ 35 ล้านคน/ปี ซึ่งการปรับจาก 730 บาทต่อคนเป็น 1,120 บาทต่อคน เท่ากับมีส่วนเพิ่มอีก 390 บาทต่อคน ซึ่งจะทำให้ทอท.มีรายได้เพิ่มอีกกว่า 10,000 ล้านบาท ต่อปี ซึ่งจะสามารถนำมาใช้ในการลงทุนปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ รวมถึงการลงทุนพัฒนาขยายขีดความสามารถ พัฒนาขยายสนามบิน เช่น โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Terminal) โดยไม่ต้องพึ่งพางบประมาณ หรือเพิ่มภาระหนี้สาธารณะของประเทศ
โดยก่อนหน้านี้ได้มีการประชาพิจารณ์ และสุ่มตัวอย่างผู้โดยสารระหว่างประเทศ ชาวต่างชาติกว่า 90% ไม่ขัดข้องที่จะปรับขึ้นค่า PSC ส่วนผู้โดยสารที่เป็นคนไทยกว่า 85 % ที่เห็นด้วย ซึ่งการปรับขึ้นนี้ พิจารณาจากเหตุผลทั้งหมด และเพิ่มเฉพาะผู้โดยสารระหว่างประเทศที่เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหา”
ทั้งนี้ การปรับเพิ่ม PSC เป็นมาตรการที่หลายประเทศใช้เพื่อรองรับต้นทุนการพัฒนาสนามบินให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่ผลดีต่อระบบเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศในหลายด้าน เช่น
-ยกระดับความปลอดภัยและมาตรฐานบริการสนามบิน โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นจะนำไปใช้ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน
-รองรับการเติบโตของนักท่องเที่ยวต่างชาติ จำนวนนักเดินทางขาเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง การมีระบบบริการที่รวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ จะช่วยลดภาระคอขวดและสนับสนุนการเดินทางที่สะดวกขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีโดยตรงต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ที่เป็นรายได้หลักของประเทศ
-ส่งเสริมบทบาทประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการบินของภูมิภาค การมีสนามบินที่มีศักยภาพและคุณภาพสูง จะดึงดูดสายการบินต่างประเทศให้เพิ่มเที่ยวบินหรือเปิดเส้นทางใหม่ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนภาคท่องเที่ยว การค้า และการลงทุนของประเทศอย่างยั่งยืน
@ขึ้น PSC สนามบินตรัง อินเตอร์เป็น 425 บาท ในประเทศ 75 บาท
นายพิพัฒน์กล่าวว่า นอกจากนี้ กบร.ยังเห็นชอบ ปรับเพิ่มค่าบริการผู้โดยสารขาออก (Passenger Service Charge: PSC) ท่าอากาศยานภูมิภาค ตามที่กรมท่าอากาศยาน (ทย.) เสนอเพื่อใช้ในท่าอากาศยานตรัง สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศเป็นไม่เกิน 425 บาทต่อคน จากเดิม 400 บาท และสำหรับเส้นทางภายในประเทศเป็นไม่เกิน 75 บาทต่อคน จากเดิม 50 บาทต่อคน โดยจะเริ่มจัดเก็บได้เมื่อท่าอากาศยานตรังติดตั้งระบบ CUPPS และอุปกรณ์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 พร้อมเปิดให้บริการครบ 3 ระบบ ได้แก่ CUTE, CUSS และ CUBD ทั้งยังต้องผ่านการตรวจสอบความพร้อมโดย กพท. และแจ้งผู้โดยสารล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 4 เดือนก่อนเริ่มเก็บค่าบริการในอัตราใหม่ ปัจจุบันมีสนามบินในสังกัด ทย.ทั้งหมด 6 ท่าอากาศยาน ได้แก่ สนามบินกระบี่ สนามบินสุราษฎร์ธานี สนามบินอุบลราชธานี สนามบินขอนแก่น สนามบินนครศรีธรรมราช และสนามบินพิษณุโลก ที่เก็บค่าบริการในอัตรานี้
รวมถึงเห็นชอบ ให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) หรือ กพท. ปรับค่าธรรมเนียมผ่านเข้า-ออกสนามบิน จาก15 บาทต่อคน เป็น 25 บาทต่อคน เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนและภารกิจด้านการกำกับดูแลตามกฎหมาย ซึ่ง อัตรา 15 บาทนั้น CAAT ใช้มาตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2559 หรือประมาณ 9 ปีแล้ว ขณะที่ปัจจุบันต้นทุนในการดำเนินงานเพิ่มเป็น 19.40 บาทต่อคน
ทั้งนี้ประเมินว่า หากทอท. ทย.และ CAAT สรุปมติกบร.และเสนอรมว.คมนาคม ลงนามได้ภายในเดือน ธ.ค.68 คาดว่าจะมีการปรับขึ้นค่า PSC ได้ในวันที่ 1 เม.ย. 2569
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองกฎหมายและข้อบังคับชุดใหม่ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน และให้ความเห็นชอบการแก้ไขหลักเกณฑ์เกี่ยวกับอากาศยานที่ผู้ขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือนจะจัดหามาเพื่อใช้ในการประกอบกิจการจากการจำกัดอายุของอากาศยาน เป็นไม่จำกัดอายุอากาศยานทุกประเภท ทั้งอากาศยานปีกแข็งและเฮลิคอปเตอร์ ที่จะจัดหามาเพื่อใช้ในการประกอบกิจการการบินพลเรือน โดยมอบหมายให้ กพท. ทำความเข้าใจแก่สาธารณชนเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในมาตรการการกำกับดูแลมาตรฐานความปลอดภัยของอากาศยานของ กพท. ที่เข้มงวดและรัดกุม เป็นไปตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยการบินพลเรือนในระดับสากล และมอบหมายให้คณะกรรมการกลั่นกรองกฎหมายและข้อบังคับตรวจร่างข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือนฯ ที่ กพท. เสนอ ก่อน กพท. นำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานกรรมการการบินพลเรือนพิจารณาลงนามในร่างข้อบังคับ กบร. ต่อไป
ในด้านใบอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือน ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ บริษัทไทยสกาย บัลลูนนิ่ง จำกัด ได้รับใบอนุญาตการบินพลเรือนประเภทการทำงานทางอากาศ (การบินบัลลูนเพื่อชมภูมิประเทศและโฆษณา และเห็นชอบให้ บริษัทสยามแลนด์ ฟลายอิ้ง จำกัด ต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือนประเภทการขนส่งทางอากาศเพื่อการพาณิชย์แบบไม่ประจำ อายุ 5 ปี ตามเงื่อนไขที่กำหนด


