ONSENS เปิดตัว KLAI แบรนด์นวดไทยสไตล์โมเดิร์น ย่านทรงวาด ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ชาวไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติ สาย Wellness ชูจุดขายศาสตร์การนวดไทย ประยุกต์ พร้อมสร้างประสบการณ์ไทยสปาครบวงจร ทรีทเมนท์สูตรเฉพาะ 4 รูปแบบ, Workshop สมุนไพร และ KLAI Café อัดกลยุทธ์การตลาด กิจกรรม Collaboration ขยายฐานลูกค้า ชิงมาร์เก็ตแชร์ ตั้งเป้ายอดขาย ปี 2569 เติบโต 100% และขยายสาขาอย่างน้อย 3 สาขาในปี 2570
นายสมิทธิ์ เมฆอรุณกมล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออนเซ็น รีทรีต แอนด์ สปา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ONSENS เปิดเผยว่า บริษัทเปิดตัวแบรนด์ “KLAI” (คลาย) บริการนวดแผนไทยรูปแบบใหม่ นำเสนอภาพลักษณ์ทันสมัย เข้าถึงง่าย ให้ประสบการณ์ผ่อนคลายในระดับพรีเมียม ตั้งแต่การบริการ ผลิตภัณฑ์ภายในร้าน บรรยากาศ ไปจนถึงมาตรฐานการนวด ผ่านการนำเสนอประสบการณ์ Wellness ครบวงจรภายใต้แนวคิด 5 Senses Experience ได้แก่ กลิ่น เสียง สัมผัส รส และภาพ เน้นการตกแต่งสไตล์โมเดิร์นที่มีความเป็นส่วนตัวสูง บนทำเลศักยภาพใจกลางเยาวราช-ทรงวาด เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ
KLAI ต้องการมอบประสบการณ์ที่แตกต่างและเหนือกว่าการนวดไทยทั่วไปกับฐานลูกค้า บริษัทจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาบริการทรีทเม้นท์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์รวม 4 ประเภท ได้แก่
1. ยืดคลาย (Stretch & Relax) ผสานท่า ฤาษีดัดตนกับนวดพื้นบ้าน
2. นวดคลาย (Press & Relax) กดจุดตามเส้นประธานสิบแบบแพทย์แผนไทย
3. เหยียบคลาย (Foot & Body Flow) เทคนิคลงน้ำหนักด้วยเท้าและเข่า
4. คลายเส้น & คบร้อนคลาย (Signature Herbal & Hot Compress) ด้วยบาล์มและลูกประคบสูตรเฉพาะของแบรนด์
นอกจากนี้ยังมี Workshop การทำผลิตภัณฑ์สมุนไพรสูตรเฉพาะ อาทิ ยาดม ยาหม่อง บาล์ม และ KLAI Café ชั้นลอย ใช้สมุนไพรไทยเป็นส่วนผสมในเครื่องดื่ม Non‑Alcohol
KLAI ตั้งเป้ามุ่งสู่การเป็นผู้นำนวดไทยสไตล์โมเดิร์น โดยมีแผนขยายสาขาในทำเลศักยภาพเพื่อครอบคลุมพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญอย่างน้อย 3 สาขาภายในปี 2570 ควบคู่กับสร้างการรับรู้แบรนด์ผ่าน Social Media, Influencer Marketing และกิจกรรม Collaboration กับอีเว้นท์ด้านสุขภาพและไลฟ์สไตล์ เพื่อต่อยอดฐานลูกค้าใหม่ ผลักดันจำนวนผู้ใช้บริการในปี 2569 เติบโตและมีรายได้เติบโตเฉลี่ย 100% ต่อปี
“ความใส่ใจในความต้องการของผู้บริโภค เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราต้องการนำเสนอบริการ Thai Massage ในรูปแบบที่ทันสมัย สอดรับเทรนด์ Wellness ที่กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง มั่นใจว่า KLAI จะเป็นแบรนด์ที่สร้างมาตรฐานใหม่ในการบริการ และสามารถชิงส่วนแบ่งตลาดได้อย่างมีนัยสำคัญในอุตสาหกรรมสปาไทย ซึ่งถือว่าเป็น New Soft Power ของไทย” นายสมิทธิ์ กล่าว
นายสมิทธิ์ กล่าวเสริมว่า ตลาดนวดไทยยังมีศักยภาพเติบโตสูงจากกำลังซื้อของทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะตลาด Wellness Economy ส่งผลให้มูลค่าตลาด Wellness & Spa ของไทยขยายตัวต่อเนื่องคาดว่าประมาณ 6.7 แสนล้านบาท โตเฉลี่ย 9.41% ต่อปี โดยเซกเมนต์นวดไทยเติบโตเร็วที่สุดจากมูลค่าตลาดรวม 3.5 หมื่นล้านบาท หรือเติบโตเฉลี่ย 5 - 7% ต่อปีและคาดการณ์ว่า มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 5.8 หมื่นล้านบาทต่อปี
ขณะที่พฤติกรรมผู้บริโภครุ่นใหม่ใช้บริการด้านสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายหลักวัยทำงานและ Gen Y–Gen Z ที่ให้ความสนใจการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม สร้างประสบการณ์ไทยสปา ครบวงจร ประกอบด้วยศาสตร์การนวดแผนไทยประยุกต์และสมุนไพรท้องถิ่น ซึ่งยังเป็นช่องว่างในตลาดปัจจุบัน ทำให้แบรนด์ KLAI มีโอกาสครองส่วนแบ่งการตลาดด้วยบริการคุณภาพและรูปแบบทันสมัยที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างตรงจุด


