กอน.กำหนดวันเปิดหีบรูปแบบใหม่ “เผาน้อย เปิดก่อน” หนุนการลดฝุ่น PM 2.5 ชี้มีอ้อยเข้าหีบปี 68/69 กว่า 93 ล้านตัน เพิ่มขึ้นเล็กน้อย พร้อมการกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้าย และผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 2567/68 เฉลี่ยทั่วประเทศที่ราคา 1,152.62 บาทต่อตันอ้อย ณ ความหวานที่ 10 ซีซีเอส ลดลง 7.38 บาท
นายใบน้อย สุวรรณชาตรี เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งมีนายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธาน มีมติเห็นชอบกำหนดวันเปิดหีบอ้อยฤดูการผลิตปี 2568/69 ของ 58 โรงงานน้ำตาลทั่วประเทศ แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ตามร้อยละการรับอ้อยเผาเข้าหีบฤดูการผลิตปี 2567/68 คือ กลุ่ม 1 : โรงงานที่รับอ้อยเผาไม่เกิน 5% เปิดหีบอ้อยตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2568 จำนวน 9 โรงงาน กลุ่ม 2 : โรงงานที่รับอ้อยเผาเข้าหีบตั้งแต่ 5.01% - 15.00% เปิดหีบอ้อยตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2568 จำนวน 17 โรงงาน กลุ่ม 3 : โรงงานที่รับอ้อยเผาเข้าหีบตั้งแต่ 15.01% - 25.00% เปิดหีบอ้อยตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2568 จำนวน 30 โรงงาน และกลุ่ม 4 : โรงงานที่รับอ้อยเผาเข้าหีบตั้งแต่ 25.01% ขึ้นไป เปิดหีบอ้อยตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2569 จำนวน 2 โรงงาน
ถือเป็นครั้งแรกที่บอร์ด กอน.มีมติให้เปิดหีบอ้อยโดยแบ่งกลุ่มตามเปอร์เซ็นต์ของโรงงานน้ำตาลที่รับอ้อยเผาเข้าหีบในฤดูการผลิตปี 2567/68 หนุนการลดฝุ่น PM 2.5
สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ได้คาดการณ์ปริมาณอ้อยเข้าหีบประมาณ 93 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีการผลิตที่ผ่านมา 1.9% เนื่องจากน้ำฝนมีปริมาณและการกระจายตัวที่ดีกว่าปีก่อนหน้านี้
นายใบน้อยกล่าวว่า บอร์ด กอน.ยังมีมติเห็นชอบอีกประเด็นสำคัญ คือ การกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 2567/68 เฉลี่ยทั่วประเทศที่ราคา 1,152.62 บาทต่อตันอ้อย ณ ระดับความหวานที่ 10 ซีซีเอส ลดลง 7.38 บาท จากราคาอ้อยขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2567/68 ที่ราคา 1,160 บาทต่อตันอ้อย และกำหนดอัตราขึ้น/ลง ของราคาอ้อย เท่ากับ 69.16 บาทต่อ 1 หน่วยซีซีเอส และผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทราย 493.89 บาทต่อตันอ้อย
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 ได้มีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาดำเนินมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ฤดูการผลิตปี 2567/68 จากเดิมสิ้นสุดเดือนกันยายน 2568 เป็นสิ้นสุดเดือนธันวาคม 2568 เพื่อให้ชาวไร่อ้อยที่ยังตกค้างอยู่ประมาณ 5,000 ราย คิดเป็น 4.23% ของจำนวนชาวไร่อ้อยที่มีสิทธิ์ทั้งหมดได้รับการช่วยเหลือตามมาตรการฯ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรตัดอ้อยสด และถือเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้เกิดการหมุนเวียนของการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจของไทยได้ในระดับหนึ่ง และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล คาดว่าจะสามารถทยอยจ่ายภายในเดือนพฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป
“หลังจากบอร์ด กอน.กำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายฯ ฤดูการผลิตปี 2567/68 ขณะนี้ สอน.ได้เร่งดำเนินการเพื่อให้ ครม.เห็นชอบ และประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีผลบังคับใช้ต่อไป ทั้งนี้ สอน.จะทำหนังสือขอความร่วมมือให้โรงงานน้ำตาลทั่วประเทศจ่ายเงินค่าอ้อยให้เกษตรกรไปก่อน เพื่อจะได้มีเงินสำหรับเป็นทุนหมุนเวียนในการเพาะปลูก การบำรุงรักษาอ้อย และดำรงชีพต่อไป” นายใบน้อยกล่าว


