ผู้จัดการรายวัน 360 - KISS เติบโตโดดเด่นทั้งรายได้และกำไรระดับสองหลักหนุนโดยยอดขายแบรนด์โรจูคิส ควบคู่กับการบริหารสินค้าคงคลังกับร้านค้าปลีกอย่างต่อเนื่อง เสริมศักยภาพการเติบโตในปี 2569
นายคอร์ราโด จาควินโต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KISS เปิดเผยว่า “บริษัทสามารถทำผลประกอบการได้ตามที่ให้คำมั่นไว้ ด้วยการเติบโตระดับสองหลักทั้งรายได้และกำไรสุทธิ แม้จะยังต้องมีการบริหารจัดการระดับสินค้าคงคลังกับร้านค้าปลีกอย่างต่อเนื่อง ลดสินค้าที่หมุนเวียนช้าออกจากคลังสินค้า และรับมือกับภาวะการบริโภคในหมวดหมู่สินค้าที่ชะลอตัวลง เรารู้สึกยินดีกับพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งจะเป็นกรอบการเติบโตที่มั่นคงในปี 2569 โดยเรายังคงเป้าหมายการเติบโตแบบสองหลักทั้งในด้านรายได้และกำไรสุทธิ”
ในไตรมาส 3/2568 บริษัทฯ มีรายได้รวม 329.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 61.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.3% จากปีก่อน สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทฯ มีรายได้รวม 842.2 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 121.2 ล้านบาท
โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักสำหรับการเติบโตของบริษัทฯ โดยยอดขายของแบรนด์สกินแคร์ “โรจูคิส” เติบโตอย่างโดดเด่นที่ 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากความนิยมอย่างต่อเนื่องของสินค้าหลัก เช่น Rojukiss Face-Eye-Neck, Rojukiss Reju PDRN และ Rojukiss Phyto-Retinol นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น Serum Treatment Pad, Reju PDRN Essence, Micellar Water, Sleeping masks และ 10x Treatment Mask สูตรใหม่ Vitamin B12 และ Caffeine Complex
รายได้รวมเพิ่มขึ้นจากปีก่อนจากช่องทาง Modern Trade +31%, General Trade +17%, และ Cross-border channel +97% YoY ขณะที่ยอดขายในช่องทาง Online ลดลง 37% YoY จากการบริหารการเติมสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
Rojukiss ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำในกลุ่มมาส์กหน้าได้อย่างแข็งแกร่ง โดยมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 19.0% ในไตรมาส 3 ของปี 2568 จาก 15.2% ในไตรมาส 3 ของปี 2567 สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์มอยส์เจอไรเซอร์ Rojukiss ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 5.4% จาก 5.2% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
สำหรับความคืบหน้าในการขยายตลาดต่างประเทศ บริษัทจะเริ่มดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าใน ประเทศลาวและเวียดนามในไตรมาส 4/2568 โดยยังคงเน้นกลยุทธ์กำหนดเป้าหมายในการเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศให้ถึง 10% ภายในปี 2569 และตั้งเป้าระยะยาวให้รายได้จากต่างประเทศมีสัดส่วน 20% ของรายได้รวมภายในปี 2573
ในปี 2569 บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นบริหารจัดการลดสินค้ากับร้านค้าปลีก การตัดจำหน่ายสินค้าที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ และขยายส่วนแบ่งการตลาดอย่างต่อเนื่อง ด้วยพื้นฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่งขึ้นนี้ บริษัทฯ ได้วางกรอบการเติบโตที่มั่นคงสำหรับปี 2569 โดยตั้งเป้าที่จะรักษาโมเมนตัมการเติบโตในช่วงที่เหลือของปี 2568 และเร่งการเติบโตในปี 2569 จากความแข็งแกร่งของแบรนด์ โครงสร้างต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และกลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม


